นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 210 มกราคม - กุมภาพันธ์ 2561

34 นิตยสาร สสวท ภาพ 1 สรุปตัวแปรในการทดลอง ครูสามารถน� ำกิจกรรมนี้ไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความรู้ เพิ่มพูนทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และความคิดสร้างสรรค์ ตามความเหมาะสม เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวแปรในการทดลอง โดยในกิจกรรมนี้ ตัวแปรต้นคือ ชนิดของสารตั้งต้นที่แตกต่างกัน ได้แก่ ผงฟู แคลเซียมคาร์บอเนต และเปลือกไข่บดละเอียด ซึ่งสารตั้งต้น ดังกล่าวจะท� ำปฏิกิริยาเคมีกับน�้ ำส้มสายชูในปริมาตรที่ต่างกันคือ 150 cm 3 และ 300 cm 3 ปริมาตรน�้ ำส้มสายชู ในแต่ละชุดการทดลองจะเป็นตัวแปรควบคุม เพื่อศึกษาขนาดของลูกโป่งที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นตัวแปรตาม ตัวแปรในการ ทดลองสรุปเป็นดังภาพ 1 ตัวแปรต้น ตัวแปรควบคุม ตัวแปรตาม ผงฟู 6 กรัม แคลเซียมคาร์บอเนต 6 กรัม เปลือกไข่บดละเอียด 6 กรัม ขนาดของลูกโป่ง ที่เปลี่ยนแปลงไป น�้ ำส้มสายชูปริมาตรต่างกัน คือ น�้ ำส้มสายชูปริมาตร 150 cm 3 น�้ ำส้มสายชูปริมาตร 300 cm 3 ขั้นน� ำเข้าสู่กิจกรรม ครูกล่าวน� ำว่า “นักเรียนเคยเป่าลูกโป่งให้พองหรือไม่” “ท� ำไมลูกโป่งจึงพองได้” นักเรียนอาจจะตอบว่า มีอากาศหรือแก๊สในลูกโป่ง ครูถามต่อว่า “นักเรียนเคยท� ำให้ลูกโป่งพองโดยไม่ใช้ปากเป่าได้หรือไม่ และด้วยวิธีใดบ้าง” จากนั้นน� ำเข้าสู่บทเรียนโดยน� ำเสนอวิธีการท� ำให้ลูกโป่งพองโดยไม่ต้องออกแรงเป่า จากการท� ำการทดลอง และสังเกต ผลการทดลอง ขั้นการสอน 1. ครูอธิบายวัตถุประสงค์และวิธีการทดลองว่า เราจะศึกษาว่าสารตั้งต้นที่แตกต่างกันคือ ผงฟู แคลเซียม คาร์บอเนต และเปลือกไข่บดละเอียด เมื่อท� ำปฏิกิริยาเคมีกับน�้ ำส้มสายชูที่มีความเข้มข้นเท่ากันคือ ร้อยละ 5 โดยปริมาตร ในปริมาตรที่แตกต่างกัน คือ 150 cm 3 และ 300 cm 3 ลูกโป่งจะพองเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร โดยนักเรียน จะต้องท� ำการทดลอง 2 ชุด ชุดที่ 1 ใช้ผงฟู แคลเซียมคาร์บอเนต และเปลือกไข่บดละเอียด ในน�้ ำส้มสายชู 150 cm 3 และชุดที่ 2 ใช้ผงฟู แคลเซียมคาร์บอเนต และเปลือกไข่บดละเอียด ในน�้ ำส้มสายชู 300 cm 3 สังเกตผลการทดลอง และจดบันทึกเป็นแผนภาพ เพื่อเปรียบเทียบขนาดของลูกโป่ง

RkJQdWJsaXNoZXIy MTUzMTk1Mw==