นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 210 มกราคม - กุมภาพันธ์ 2561

35 ปีที่ 46 ฉบับที่ 210 มกราคม - กุมภาพันธ์ 2561 2. ครูให้ความรู้ว่า ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเขียนสมการเคมีได้ดังนี้ ครูใช้สมการเคมี ประกอบการอธิบายเกี่ยวกับสารตั้งต้น ผลิตภัณฑ์และสถานะของสารทั้งหมด จากนั้นถาม นักเรียนว่า แก๊สที่จะท� ำให้ลูกโป่งพองคือแก๊สใด นักเรียนควรตอบได้ว่า แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะในสมการเกิดแก๊ส เพียงชนิดเดียว ทั้งนี้ครูอธิบายเพิ่มเติมว่าเปลือกไข่มีส่วนประกอบของแคลเซียมคาร์บอเนตอยู่ด้วย ดังนั้นเมื่อเปลือกไข่ ท� ำปฏิกิริยากับน�้ ำส้มสายชู จะได้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เกิดขึ้น 3. ครูให้นักเรียนท� ำการทดลอง โดยตวงน�้ ำส้มสายชูใส่ในขวดพลาสติกที่ก� ำหนดให้จ� ำนวน 2 ชุด ชุดที่ 1 ตวงน�้ ำส้มสายชูให้มีปริมาตร 150 cm 3 จ� ำนวน 3 ขวด ชุดที่ 2 ปริมาตร 300 cm 3 จ� ำนวน 3 ขวด และเตรียมผงฟู แคลเซียมคาร์บอเนต และเปลือกไข่บดละเอียดอย่างละ 6 กรัม จ� ำนวน 2 ชุด จากนั้นถ่ายสารตั้งต้นแต่ละชนิดลงใน ลูกโป่งขนาด 18 เซนติเมตร โดยเทผ่านกรวย น� ำปากลูกโป่งมาครอบที่ปากขวด เมื่อเสร็จแล้วให้ปล่อยสารตั้งต้นจาก ลูกโป่งเข้าไปในขวด ตรวจสอบความแน่นของปากลูกโป่งอย่าให้มีรอยรั่ว แผนภาพแสดงชุดการทดลองดังภาพ 2 NaHCO 3 (s) + CH 3 COOH (aq) CH 3 COONa (aq) + H 2 O (l) + CO 2 (g) CaCO 3 (s) + CH 3 COOH (aq) Ca (CH 3 COO) 2 (aq) + H 2 O (l) + CO 2 (g) ภาพ 2 ชุดการทดลอง ตารางที่ 1 ผลการทดลองที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีของสารตั้งต้นแต่ละชนิดกับน�้ ำส้มสายชูในปริมาตรที่แตกต่างกัน 4. นักเรียนบันทึกผลการทดลอง โดยการวาดภาพแสดงการเปลี่ยนแปลงของขนาดลูกโป่ง ในตารางที่ 1 สารตั้งต้น ปริมาตรน�้ ำส้มสายชู 150 cm 3 300 cm 3 ผงฟู 6 กรัม แคลเซียมคาร์บอเนต 6 กรัม เปลือกไข่บดละเอียด 6 กรัม

RkJQdWJsaXNoZXIy MTUzMTk1Mw==