นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 210 มกราคม - กุมภาพันธ์ 2561
36 นิตยสาร สสวท ขั้นสรุปกิจกรรม ครูถามนักเรียนเพื่อสรุปกิจกรรม ดังต่อไปนี้ ขั้นขยายความรู้ ในกิจกรรมขั้นขยายความรู้ เพื่อให้นักเรียนมีความคิดต่อยอดจากสิ่งที่เรียน เข้าใจการก� ำหนดตัวแปร และการท� ำปฏิกิริยาเคมีดีขึ้น ครูควรมอบหมายงานที่ท้าทายให้นักเรียนได้ศึกษาทดลอง คิดต่อยอด หรือคิดอย่าง สร้างสรรค์จากการสังเกต ให้กิจกรรมที่เน้นการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากความรู้ที่นักเรียนมี เพื่อเป็นการส่งเสริมความคิด สร้างสรรค์ตามโมเดลการพัฒนาการเรียนรู้ และการสอนอย่างสร้างสรรค์ “Torrance Incubation Model of Creative Teaching and Learning” (Torrance & Safter, 1990) โดยครูอาจมอบหมายงานให้นักเรียนท� ำกิจกรรมเพียงคนเดียว หรือเป็นกลุ่มก็ได้ ทั้งนี้ครูจะต้องเตรียมอุปกรณ์ให้มีหลากหลายมากขึ้น เพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสใช้ความรู้จาก การทดลองเดิมมาคาดคะเนผลการทดลอง ในการสร้างองค์ความรู้ที่ลึกซึ้ง และชัดเจนขึ้นจากความสงสัย หรือความสนใจ ของตนเองในสถานการณ์ใหม่ๆ โดยครูจะต้องเตรียมลูกโป่งให้มีหลายขนาด และรูปทรงลูกโป่งที่หลากหลาย สารตั้งต้นในปริมาณต่างๆ เปลือกไข่ที่บดละเอียดมากกว่าที่ใช้ในการทดลองเดิม เปลือกไข่บดหยาบ เปลือกไข่ชนิดอื่นๆ น�้ ำส้มสายชูที่มีความเข้มข้นต่างๆ ขวดขนาดต่างๆ หรือขวดที่มีรูปทรงหลากหลาย ส� ำหรับตัวอย่างค� ำถามในกิจกรรม ขั้นขยายความรู้ มีดังนี้ 1. สารตั้งต้นชนิดใดเมื่อใส่ลงไปในขวดที่มีน�้ ำส้มสายชูปริมาตร 150 cm 3 แล้ว ท� ำให้ลูกโป่งพองมากที่สุด และน้อยที่สุด แนวค� ำตอบคือ ผงฟู และเปลือกไข่บดละเอียด ตามล� ำดับ 2. ครูถามค� ำถามต่อว่า ระหว่างแคลเซียมคาร์บอเนตกับเปลือกไข่บดละเอียด เมื่อท� ำปฏิกิริยากับน�้ ำส้มสายชู ที่ปริมาตรเท่ากัน การพองของลูกโป่งมีขนาดเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร แนวค� ำตอบคือ ปฏิกิริยาเคมี ระหว่างแคลเซียมคาร์บอเนตกับน�้ ำส้มสายชู ท� ำให้ลูกโป่งมีขนาดใหญ่กว่าปฏิกิริยาเคมีระหว่าง เปลือกไข่บดละเอียดกับน�้ ำส้มสายชู ครูถามว่า เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ทั้งๆ ที่สารตั้งต้นทั้ง 2 ชนิด มีแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นส่วนประกอบเหมือนกัน ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและควรสรุปได้ว่า เพราะเปลือกไข่ไม่ได้มีแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นองค์ประกอบเพียงอย่างเดียว จึงท� ำให้ลูกโป่งมีขนาด เล็กกว่า 3. ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดจากสารตั้งต้นทั้ง 3 ชนิด กับน�้ ำส้มสายชูโดยใช้ปริมาตร 150 cm 3 และ 300 cm 3 ให้ ผลการทดลองแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร แนวค� ำตอบคือ ไม่แตกต่างกัน เนื่องจากปริมาณสารตั้งต้น ที่ใช้ 6 กรัม ได้มาจากการค� ำนวณว่าจะท� ำปฏิกิริยาพอดีกับน�้ ำส้มสายชูปริมาตร 150 cm 3 และน� ำไปสู่ ข้อสรุปว่า ในการเกิดปฏิกิริยาเคมีใดๆ เมื่อสารตั้งต้นชนิดใดชนิดหนึ่งท� ำปฏิกิริยาเคมีหมดแล้ว และเกิดขึ้น อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าจะเติมสารชนิดนั้นลงไปอีก (น�้ ำส้มสายชู) ก็จะไม่มีผลใดๆ ต่อการเกิดปฏิกิริยา 1. การท� ำให้ลูกโป่งรูปหัวใจมีขนาดใหญ่ที่สุด โดยใช้น�้ ำส้มสายชูปริมาตร 300 cm 3 สารตั้งต้น (หรือสารที่นักเรียนใส่ลงไปในลูกโป่ง) คือ…………………………………………………………… ……………………. ปริมาณของสารตั้งต้นที่ใช้ คือ…………………………………………………………………………………… …………………………… เพราะเหตุใดนักเรียนจึงเลือก สารตั้งต้น และปริมาณสารตั้งต้นดังกล่าว …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy MTUzMTk1Mw==