นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 220 กันยายน - ตุลาคม 2562

21 ปีที่ 47 ฉบับที่ 220 กันยายน - ตุลาคม 2562 ภาพ 3 แบบจ�ำลองทางความคิดเพื่ออธิบายการเปลี่ยนแปลงสีของสารละลายจากการทดลอง ขั้นที่ 3 การดัดแปลงแก้ไขแบบจ�ำลอง เป็นขั้นที่แต่ละกลุ่มน�ำเสนอแบบจ�ำลองที่กลุ่มตนเองสร้างขึ้น ขั้นนี้ครู และเพื่อนกลุ่มอื่นสามารถซักถาม อภิปรายร่วมกัน นักเรียนจะได้เห็นความแตกต่างของแบบจ�ำลอง ซึ่งจะเกิดกระบวนการ โน้มน้าวจนมีการดัดแปลงแก้ไขแบบจ�ำลองจนกระทั่งสามารถใช้อธิบายปรากฏการณ์ได้ และน�ำมาสู่แบบจ�ำลองมติกลุ่ม (Consensus model) ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนน�ำเสนอแบบจ�ำลองของแต่ละกลุ่ม เพื่อร่วมกันดัดแปลงแก้ไขแบบจ�ำลองจนได้ แบบจ�ำลองมติกลุ่ม จากการสอนพบว่า นักเรียนมีแบบจ�ำลองแตกต่างกัน ท�ำให้เกิดกระบวนการโน้มน้าวเพื่อร่วมกัน พัฒนาแบบจ�ำลองให้ถูกต้อง โดย ครูเปิดโอกาสให้กลุ่มที่มีแบบจ�ำลองไม่ถูกต้องน�ำเสนอก่อน และยังไม่บอกว่าถูก หรือผิด แต่เลือกที่จะใช้ค�ำถามว่า “มีกลุ่มใดที่แตกต่างจากกลุ่มนี้บ้าง” เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มที่มีแบบจ�ำลองถูกต้อง โน้มน้าวให้กลุ่มอื่นเชื่อว่ากลุ่มของตนสร้างแบบจ�ำลองได้ถูกต้อง นักเรียนกลุ่มหนึ่งให้เหตุผลว่า “มันจะต้องไม่เป็น สีน�้ำเงินหรือชมพูล้วน มันจะต้องมีตัวเหลือ เพื่อท�ำให้ปฏิกิริยาเกิดไปข้างหน้าและย้อนกลับได้เมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง” จากเหตุผลสะท้อนให้เห็นว่านักเรียนสามารถแยกความแตกต่างระหว่างปฏิกิริยาผันกลับได้กับปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ ได้ เนื่องจากปฏิกิริยาที่ศึกษาเป็นปฏิกิริยาที่ผันกลับได้ จึงต้องมีอนุภาคของสารทุกสารในปฏิกิริยาเหลืออยู่ ดังแบบจ�ำลอง ที่แสดงในภาพ 4 จากนั้น ครูใช้ค�ำถามที่ท�ำให้มีการดัดแปลงแบบจ�ำลอง เช่น “เห็นด้วยกับกลุ่มนี้หรือไม่” หรือ “ถ้าครูให้ โอกาสแก้ไขจะแก้ไขอย่างไร” เมื่อได้แบบจ�ำลองมติกลุ่มเรียบร้อยแล้ว ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการเชื่อมโยงแบบจ�ำลอง ทางความคิดใน 3 ระดับเรื่องปฏิกิริยาผันกลับได้ โดยเชื่อมโยงผลการเปลี่ยนแปลงสีของสารละลายจากการทดลองที่ สังเกตได้กับการเปลี่ยนแปลงในระดับอนุภาคด้วยการปั้นดินน�้ำมัน และครูเพิ่มเติมด้วยการก�ำหนดสมการที่มีหัวลูกศรชี้ไป ข้างหน้าและย้อนกลับ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของปฏิกิริยาเคมีผันกลับได้ แบบจ�ำลองทางความคิดเรื่องปฏิกิริยาเคมีผันกลับ ได้ที่สมบูรณ์เป็นไปดัง ภาพ 1 อย่างไรก็ตามการอธิบายเปลี่ยนแปลงทั้ง 3 ระดับ ครูและนักเรียนต้องร่วมมือ และช่วยเหลือ กันในการอธิบายปรากฏการณ์ ตัวอย่างเช่น ถ้านักเรียนไม่สามารถสร้างสัญลักษณ์ได้ ครูอาจให้ความรู้เพิ่มเติม หรือแสดง สัญลักษณ์เป็นตัวอย่าง นักเรียนสร้างแบบจ�ำลองทางความคิดของกลุ่มของตนเอง จากนั้น ครูใช้ค�ำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจระหว่างแบบ จ�ำลองกับผลการทดสอบ โดยถามว่า “ดินน�้ำมันที่นักเรียนปั้นนั้นสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงสีของสารละลายหรือไม่” นักเรียนส่วนใหญ่ตอบว่า ปั้นดินน�้ำมันตามสีที่บันทึกจากการผลทดลอง ได้แบบจ�ำลองดังภาพ 3 จากภาพจะเห็นว่ามีนักเรียน บางกลุ่มปั้นดินน�้ำมันสีม่วง เนื่องจากเป็นสีที่นักเรียนสังเกตได้เมื่อตอนเริ่มต้นก่อนการให้ความร้อนและการลดอุณหภูมิ และ ให้เหตุผลว่าน่าจะเป็นสีผสมระหว่างสีน�้ำเงินและสีชมพู

RkJQdWJsaXNoZXIy MzQ5Njg1