นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 221 พฤศจิกายน - ธันวาคม 2562

4 นิตยสาร สสวทิ ต แรงสั�นสะเทื นที�เกิิดข้�นจา าร ระเมิน PISA การที่่�ผมได้้รับคัั เลืือกให้้เป็็น Vice-Chair of PISA Governing Board ำ�ให้้ ระเ ศไ ยมีโอกาสมากขึ้้�น ในการกำ น นโยบายหรืือิ ศ างในการดำำ�เนินงาน อง PISA ณะเดีียวกันภาระงานจะมีมากขึ้้�น จะต้้องเ้ าร่วม การ ระชุุมย่อยก่อนมีีประชุุมบอร์ ใ ญ่่ ร่วมเตรีียมจั สาระ แ ะดููราย ะเอีย่ างๆ ทั้้�ง ม ก่อนนำ�เ้ าไั ดสิินกัน ในบอร์ ชุุ ใ ญ่่ นอกจากนั�น ากมีการเปลี่่�ยนแ ง ราย ะเอีย ต้้องเริ�มต้้นที่่� ณะกรรมการบริ ารนี� ศาสตราจารย์ดร.ชูกิจลิมปิจำ�นงค์ อธิบายถึงการสอบ PISA ว่า เนื่องจาก PISA เป็นการสอบที่เท่าเทียมกันทั่วโลก จึงสามารถเป็นมิเตอร์ที่ใช้วัดคุณภาพทางการศึกษาของ แต่ละประเทศว่าสูงตำ ��แตกต่างกันอย่างไร เป็นดัชนีที่เที่ยงตรง ที่ ใช้วัดกันได้ทั่วทุกประเทศและข้ามภูมิภาค และต้องใช้ ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่ให้มีความได้เปรียบ เสียเปรียบกันในเชิงสังคม เชิงพื้นที่ ขั้นตอนการออกแบบ ข้อสอบ การพัฒนาข้อสอบ มีการประชุม การแปลอย่าง ระมัดระวัง ข้อสอบทั้งหมดจะได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ ของแต่ละประเทศเพื่อใช้สอบ ซึ่่�งต้องผ่านการตรวจคุณภาพ การแปลก่อนการนำ�ไปใช้ ดังนั้น จะไม่มีความเหลื่อมลำ �� ในเรื่องภาษาที่ใช้ในข้อสอบ ที่่่านมา มีการพูดถึงผลการสอบ PISA ของเด็กไทย ในเชิงลบเสมอที่เด็กไทยได้คะแนนตำ ��กว่าค่าเฉลี่ยของสากล ผมมองว่าการที่่� รู่าเด็กไทยมีคะแนนตำ ��ดีกว่าไม่รู้ เพราะจะได้ นำ�ผลการประเมินสมรรถนะเหล่านี้ มาปรับปรุงวิธีการเรียน การสอน สร้างความตระหนักให้ผู้เกี่ยวข้องหันมาเอาจริง ในการพัฒนาสมรรถนะเด็กไทยให้สูงขึ้น หลังจากที่หลาย ภาคฝ่ายได้รับทราบ ตระหนักและหันมาเอาจริงเอาจัง ร่วมกัน ปรับการสอบให้วัดเป็นไปในแนวทางเดียวกับ PISA เพราะ ข้อสอบแนว PISA วัดการเอาความรู้ไปใช้ในชีวิตจริงมากกว่า การทำ�แบบฝึกหัดเพื่อให้ได้คะแนน ก็จะส่งผลให้เด็กได้พัฒนา และอยู่รอดได้ในโลกอนาคต นอกจากนั้น อย่าเพิ่งไปตัดสินว่าถ้าไม่ใช่นักเรียน กลุ่มนั้นกลุ่มนี้มาสอบด้วยแล้วคะแนนจะสูงขึ้น การสุ่มคน จากกลุ่มต่างๆ มาร่วมสอบ เกิดจากการสุ่มอย่างเป็นธรรม และไม่ได้มีผลเยอะแยะกับคะแนนกลุ่มนักเรียนที่เก่งมาก เช่น นักเรียนโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จุฬาภรณราชวิทยาลัย เมื่อนำ�มาเฉลี่ยกับเด็กกลุ่มอื่นที่่� สมเข้ามาร่วมการสอบ ก็ไม่ได้ ดึงให้คะแนนสูงขึ้นเท่าไหร่ เพราะเป็นสัดส่วนของประชากร อายุ 15 ปีเพียงนิดเดียว เมื่อเทียบกับประชากรเด็กอายุ 15 ปี ทั้งประเทศ “แรงสั่�น ะเทืือน ากผล PISA ทำ�ให้เกิ พลัง เน่� ง ากหน่วยงานที�เกี�ยวข้ งเห็นความสำำ�คัญข ง มรรถนะ พื�น านที�นักเรียนไทยควรมี เช่่น มีการจัั ตั้้�งศูนย์ PISA สำำ�นักงานคณะกรรมการการศึกษาข้�นพื�น าน โ ยมีหน้าที� เฉพาะในการสร้้างความ ระหนัก และผลิตข้้ อส บที �มี ลักษณะคล้ายกับ PISA ปรับปรุงแนวทางการ บให้เด็็ก ข งเรานำ�ความรู้มาใช้้มากขึ�น เน้น Science Literacy และ Math Literacy แปลเป็นไทยคืือ ความฉลาดรู้้ทางวิทยาศา์ คณิ ศาสต์ ซึ่่�งเน้นการนำ�ไปใช้้จริิง แก้ปัญหาจริิง แล้วนำ� ข้ บเหล่าน้�นไปให้นักเรียนได้้ท ล งใช้้ และทำ�ความเข้าใ แนวข้ บเหล่านี� ท้ายที�สุุ ะทำ�ให้นักเรียนเกิ ความฉลาดรู้้� นำ�ไปใช้้ในชีีวิิ งใน นาค เม่�อนัักเรียนไป บ PISA คะแนนก็ ะสููงขึ�นเ ง เพราะถ้านักเรียนมี มรรถนะเหล่าน้�น แล้ว เม่� ไปเจอข้้ อส บ ะไร ก็ ะใช้้ความคิดวิิเคราะห์ข งเขา ไปทำ�โ ทย์น้�นได้้ ามารถยกตััวอย่่างการนำ�ความรู้ไปใช้้ ในชีีวิิ งได้้ เชื่� มโยงเป็น” นอกจากนั้น หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้ร่วมด้วย ช่วยกัน เช่น มหาวิทยาลัยบางแห่ง เริ่มปรับปรุงการสอบเข้า มหาวิทยาลัยในบางคณะโดยใช้ข้อสอบตามแนวทาง PISA แล้ว