นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 226 กันยายน - ตุลาคม 2563
58 นิตยสาร สสวท.ิ ต QUIZ ที่มา ภาพจาก Discover Magazine, July/August 2020 สวัสดีีผู้้่านทุกคน ณ เวลาที่่่ายกำ �ลังเขียนต้นฉบับนี� ต่าย บว่าเป็นช่วงเวลาที่มนุษย์ทำ �ให้สภา แวดล้้อมและ ภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้้ชั เจน เช่น โรค Covid-19 ยังคงระบา และมีผู้คนเสียชีวิตเพิ่่มขึ� นเรื่อยๆ ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้้อมและคุณภาพชีีวิตในสังคมเมือง ทำ �ให้ไวรัสกลายพัันธุ์ได้้ง่ายมากขึ� น การที่่�ายุเคลื่อนตัวเข้า สู่ประเทศไทย ทำ �ให้เกิดน้ำ� �ท่วมและมีดิินโคลนถูกพัั ามาถล่มบ้านเรือนที่อยู่อาศัยรวมทั� งผู้คน การเปลี่ยนแปลงมากมายที่ ถาโถมเข้ามา ทำ �ให้ทุกๆ คนรวมถึงต่ายต้องปรับตัวอย่างมากเพื่่อความอยู่รอ และทำ �ให้สามารถผ่านอุปสรรคเหล่านี� ไปได้้ สำ �หรับเรื่องที่่่าตื่นเต้นที่่่ายอยากจะเล่าให้ทุกคนฟังก็คือ เรื่องเกี่ยวกับโลกของเราในทางธรณีวิทยา ก่อนที่จะเล่าใน รายละเอียดขอย้อนกลับไปในบริบทของห้องเรียนก่อน เพราะเป็นสิ่งที่่ำ �ให้ต่ายนึกถืงในขณะที่่ำ �ลังอ่านเกี่ยวกับเรื่องโลกที่ เกริ่นไว้ โดยต่ายสงสัยและได้ยินคำ �ถามนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่า นำ� �บนโลกมีต้นกำ �เนิดมาจากไหน และใต้เปลือกโลกมีอะไรอยู่ คำ �ตอบที่ได้ในช่วงเวลานั้นๆ ก็คือ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า นำ� �ส่วนใหญ่ที่อยู่บนพื้นโลกมาจากอุกกาบาตที่่ีนำ� �แข็งเกาะติดอยู่ โดยเป็น อุกกาบาตในช่วงแรกๆ ของการกำ �เนิดระบบสุริยะและพุ่งชนโลกในช่วงนั้น และใต้เปลือกโลกก็มีหินหลอมเหลวที่่ีอุณหภูมิสูงมากอยู่ แผ่นเปลือกโลกจะลอยอยู่บนหินหลอมเหลวนี้ และมีการเคลื่อนตัวแบบช้าๆ และสมดุล ถ้าเสียสมดุลก็จะแสดงออกให้เห็นผ่าน การเกิดแผ่นดินไหว เชื่อไหมว่า วันนี้ คุณๆ และต่ายต้องเปลี่ยนความคิด เพราะว่านักวิทยาศาสตร์ค้นพบแล้วว่า ใต้เปลือกโลกมีนำ� �อยู่่้วย และที่่ำ �คัญปริมาณนำ � �ที่แทรกตัวอยู่ใต้เปลือกโลกมีมากกว่าปริมาณนำ� �ในมหาสมุทรมากมายมหาศาลยิ่งนัก เมื่อเล่ามาถึงตรงนี้้่ายก็เชื่อว่า คุณๆ ก็ต้องสงสัยว่า “แล้วนักวิทยาศาสตร์รู้ได้อย่างไรกันหล่ะ เพราะว่าในปัจจุบันยังไม่มี เทคโนโลยีอะไรที่่ำ �ให้มนุษย์สามารถลงไปสำ �รวจถึงใจกลางโลกได้” จุดเริ่มต้นมาจากนักธรณีฟิสิกส์ที่่�ช อ Steven Jaconsen ผู้ซึ่่� ง ตั้งใจจะเป็นนักดนตรีและนักธุรกิจมากกว่า แต่พอได้เรียนวิชาธรณีวิทยา ในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยปีแรกๆ ที่ University of Colorado แล้ว ทำ �ให้ เขาเปลี่ยนใจและย้ายสาขามาเรียนทางด้านธรณีฟิสิกส์แทน ปัจจุบันนี้ เขากำ �ลังศึกษาเกี่ยวกับหินและนำ� �ที่อยู่ในหิน พอต่ายอ่านเจอตรงนี้ ก็ถึงกับงงว่า …. “นำ� �ในหิน! มันมีเหรอ” Jacobsen ได้อธิบายต่อไปว่า เมื่อเขาและนักวิจัยคนอื่นๆ ได้ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยเพิ่มมากขึ้น เขาก็ ค้นพบว่าภายใต้เปลือกโลกมีนำ � �อยู่่ำ �นวนมากมายมหาศาล เพียงแต่ มันไม่ได้มีภาพลักษณ์เหมือนกันนำ � �ที่เราเห็นกันทุกวันเท่านั้นแหล่ะ เพราะว่าภายใต้เปลือกโลกเปรียบเสมือนหม้ออบแรงดันที่่ีอุณหภูมิ และความดันสูงมาก ทำ �ให้โมเลกุลของนำ� �แตกตัวออกเป็นธาตุไฮโดรเจน และออกิ เจน และแทรกตัวอยู่ในโครงสร้างผลึกของหินในสภาวะต่างๆ ขึ้นกับระดับของความลึกจากผิวโลก อุณหภูมิ และส่วนประกอบของ ธาตุต่างๆ ที่อยู่ในนั้น คำ �ถามต่อมาก็คือ มีนำ� �ที่แทรกตัวอยู่ใต้เปลือกโลก ลงไปมากน้อยเท่าไหร่กันแน่ คำ �ตอบที่จะได้เขาเชื่อว่า มันจะเป็นประโยชน์ ในการช่วยทำ �ให้มนุษย์ปฎิบัติต่อโลกแบบที่ให้อยู่ในภาวะสมดุลได้ใน อนาคต ในช่วงแรกที่ Jacobsen เริ่มต้นอาชีพของการเป็นนักธรณีฟิสิกส์ เขาได้ทำ �งานกับ Joseph Smyth ซึ่่� งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาทางด้านธรณีวิทยา ของเขา และอาจารย์ก็ได้เสนอแนวคิดที่่่า ในแร่ Wadsleyite และ Ringwoodite ซึ่่� งพบในชั้นกลางของหินหลอมเหลว (402-659 กิโลเมตร ลึกลงไปใต้ผิวโลก โลกมีเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ย 12,742 กิโลเมตร) น่าจะมี นำ� �ประกอบอยู่พอสมควร
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy MzQ5Njg1