นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 230 พฤษภาคม - มิถุนายน 2564

49 ปีที่ 49 ฉบับที่ 230 พฤษภาคมี ที่ ั บี่ - มิถุนายน 2564ิ ถุน ดังนั้น เมื่อร่างกายได้รับวัคซีีนแล้ว หากมีการได้รับเชื้อโรคอีกครั้ง ร่างกายจะใช้เวลาในการผลิตแอนติบอดีสั้นลง ทำ �ให้ทำ �ลายเชื้อโรคได้อย่างรวดเร็ว ป้องกันไม่ให้ผู้้่วยเสียชีวิตจากโรคได้ การได้รับวัคซีีนยังสามารถลดอาการของโรค ลดอาการรุนแรงได้ตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นกับประเภทวัคซีีน และลดการเสียชีวิต จากโรค COVID-19 ได้อีกด้วย นอกจากนี้้ังมีรายงานการใช้วัคซีีนกับโรคอื่นๆ ว่าสามารถ กระตุ้นภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) ซึ่่งสามารถป้องกันการแพร่กระจายโรคภายในชุมชนหรือประเทศได้อีกด้วย แต่การกระตุ้นภูมิคุ้มกันหมู่สามารถเกิดขึ้นได้กับ โรค COVID-19 หรือไม่นั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการทดลอง อย่างไรก็ตามทั่วทั้งโลกยังหวังว่า หากประชาชนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีีน จะสามารถหยุดการแพร่กระจายของโรค COVID-19 นี้ได้ในทีุ่่ด ภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) เมื่อประชากรในสังคมได้รับการฉีดวัคซีีนสูงมากพอ ทำ �ให้มีภูมิคุ้มกันต่อการติดโรค เมื่อจำ �นวนคนที่่ีโอกาสติด เชื้อน้อยลง จึงทำ �ให้หยุดการแพร่ระบาดของโรคได้ การป้องกันแบบนี้เรียกว่า “ภูมิคุ้มกันหมู่” ปัจจัยที่่ำ �ให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ เกิดจาก 1. ประชากรในสังคมเป็นโรคและร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ 2. ประชากรในสังคมจำ �นวนมากเพียงพอที่ได้รับการฉีดวัคซีีน และเป็นวัคซีีนที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้อยู่ได้นาน 3. เป็นโรคที่่ิดต่อจากคนสู่คนเท่านั้น หลังจากได้รับวัคซีีนแล้ว มีรายงานว่าผู้้ับวัคซีีนอาจมีไข้ ปวด บวม แดง ร้อนบริเวณที่่ีด อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้น ในเวลาไม่นาน อาจมีอาการได้ใน 1-2 วันหลังรับวัคซีีน แต่ในบางรายอาจพบปัญหาภาวะเกล็ดเลือดตำ� � (Thrombocytopenia) และภาวะหลอดเลือดดำ �ในสมองอุดตันจากการฉีดวัคซีีน (Vaccine-Induced Prothrombotic Immune Thrombocytopenia, VIPIT) ในรายงานการฉีดวัคซีีนของ Astra/Zeneca หรือ Johnson & Johnson แต่โอกาสในการเกิดนั้นตำ� �เพียง 1 ใน 100,000 ถึง 1 ใน 500,000 คน (Pai, et al., 2021) ซึ่่งสามารถให้การรักษาด้วยยาที่่ีอยู่ได้ หรือการแพ้รุนแรงที่่ำ �ให้ความดันเลือดตก หรือหลอดลมอุดกั้นเฉียบพลัน ซึ่่งมีโอกาสตำ� �เพียง 1 ใน 100,000 ถึง 1 ใน 500,000 คน ดังนั้น การฉีดวัคซีีนอาจมีผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์บ้าง แต่โอกาสเกิดได้น้อยมาก และอันตรายน้อยกว่าการได้รับ เชื้อโรค COVID-19 และยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีีนเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันมากำ �จัดเชื้อนี้ได้ ผลข้างเคี งเมื่� อได้้ั บวััคซีน ภา 4 แสดงระดับภูมิคุ้มกันเมื่อได้รับวัคซีีนครั้งที่ 1 และ 2 วัคซีีนโรค COVID-19 ที่่ีการพัฒนามาใช้ในปัจจุบันนั้น โดยส่วนใหญ่จะต้องฉีดทั้งหมด 2 ครั้ง เนื่องจากเมื่อร่างกายได้รับวัคซีีน ครั้งที่ 1 ร่างกายจะใช้เวลาระยะหนึ่งในการสร้างแอนติบอดี และจะจดจำ � แอนติบอดีนี้ไว้ หลังจากนั้นปริมาณแอนติบอดีในร่างกายจะค่อยๆ ลดลง แต่หากร่างกายได้รับวัคซีีนอีกในครั้งที่ 2 ร่างกายจะตอบสนองด้วยการ สร้างแอนติบอดีได้เร็วขึ้นและมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่ จะต้องมีการได้รับวัคซีีนจำ �นวน 2 ครั้ง

RkJQdWJsaXNoZXIy MzQ5Njg1