นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 242

ปีที่ 51 ฉบับที่ 242 พฤษภาคม - มิถุนายน 2566 7 ด้านที่ 3 ครูผู้สอนเป็นผู้อำ�นวยการเรียนรู้ (Facilitator and Coach) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ สร้างโอกาส และสร้างอนาคตที่ดีให้แก่ ลูกศิษย์ ได้แก่ การปรับทัศนคติ “Teach Less, Learn More” ให้ครูเป็น ผู้นำ�การเปลี่ยนแปลง การอบรมครูในรูปแบบ 70 : 20 : 10 เพื่อการพัฒนา ร่วมกับเครือข่ายครูและศึกษานิเทศก์ การติดตามและประเมินผลการพัฒนาครู ที่สะท้อนผ่านสมรรถนะของผู้เรียน “ผมเชื่อว่าครูมีบทบาทสำ�คัญอย่างยิ่ง ต่อการเรียนรู้ หรือแม้กระทั่งการชี้นำ�อนาคตให้แก่นักเรียน นอกจาก การสอนแล้วครูควรเป็นโค้ชที่ดีให้กับนักเรียนได้ด้วย สสวท. จึงพัฒนาครู ให้สามารถสร้างแรงบันดาลใจ สร้างโอกาส และสร้างอนาคตที่ดีให้กับลูกศิษย์ ได้ ซึ่งคิดว่าการอบรมครูของ สสวท. มีส่วนสนับสนุนครูในการจัดการเรียนรู้ เป็นสัดส่วนเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ อีก 20 เปอร์เซนต์เมื่อครูไปสอนในชั้นเรียน แล้วก็จะเป็นบทบาทของครูพี่เลี้ยงหรือศึกษานิเทศก์ และอีก 70 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากการปฏิบัติจริงของครูที่จะจัดการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดสัมฤทธิ์ผล ได้ โดยการนำ�ความรู้และเทคนิคต่างๆ ที่ได้รับการอบรมมาใช้ในการปฏิบัติ การสอน และควรมีการประเมินผลการสอนของครูที่สะท้อนจากผู้เรียน เพื่อให้เกิดผลอย่างแท้จริง” ด้านที่ 4 การผลิตนักวิทยาศาสตร์และครูผู้มีความสามารถพิเศษ มีสมรรถนะสูงในระดับนานาชาติ ได้แก่ การพัฒนานักเรียนทุน พสวท. และ โอลิมปิกวิชาการแบบครบวงจรตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงระดับปริญญาเอก ทั้งภายใน และต่างประเทศ การพัฒนาครู สควค. ให้มีสมรรถนะสูงทั้งด้าน วิชาการ และทักษะภาษาอังกฤษ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับ หน่วยงานร่วมผลิต และสถาบันวิจัยหรือสถาบันการศึกษาผู้ใช้บัณฑิต พสวท. โอลิมปิกวิชาการ และโรงเรียน สำ�หรับครู สควค. หลังสำ�เร็จการศึกษา “การพัฒนา และส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความเข้าใจ และมีความรู้ความสามารถในการพัฒนานักเรียนทั้งทักษะ ทางวิชาการ และทักษะด้านต่างๆ เมื่อสำ�เร็จการศึกษาแล้วก็ต้องมีหน่วยงาน รองรับเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มศักยภาพตามความสามารถเพื่อก่อ ประโยชน์ให้แก่หน่วยงานและประเทศ ซึ่ง สสวท. มีเครือข่ายความร่วมมือ ทั้งภาครัฐและเอกชน” ด้านที่ 5 ระบบบริหารจัดการที่เป็นเลิศและการประกันคุณภาพ ตามมาตรฐานสากลแบบมีธรรมาภิบาล ได้แก่ การพัฒนาระบบบริหาร จัดการคน งบประมาณ และกระบวนการต่างๆ ให้มีความเป็นเลิศ การทำ�งาน แบบบูรณาการ Lean & Agile ร่วมกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอก สถาบัน การพัฒนาองค์กรเพื่อให้เกิดแนวทางยกระดับการจัดการศึกษา ภายในประเทศ และการบริหารจัดการองค์กรแบบมีส่วนร่วม โปร่งใส และมี ธรรมาภิบาล “การสร้างความผูกพันขององค์กรให้แก่พนักงานในช่วงที่ เป็นการปฏิบัติงานแบบ Hybrid นั้น มีความจำ�เป็นต่อการทำ�งานเป็นทีม แบบบูรณาการ เน้นการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับพนักงานสู่การเป็นระบบ ราชการ 4.0 ทำ�งานอย่างโปร่งใส มีธรรมาภิบาล ตรวจสอบได้ รวมทั้ง ให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการจัดทำ�แผนการดำ�เนินงาน” To go fast and far Let’s go together with our shared vision and passion! สสวท. จะบรรลุวิสัยทัศน์ได้เร็วพลัน หากทุกคนมุ่งมั่น ร่วมมือร่วมใจกัน ทำ�ฝันให้เป็นจริง นอกจากนั้น ผู้อำ�นวยการ สสวท. ยังได้กล่าวถึงมาตรฐาน จริยธรรมของบุคลากร สสวท. 7 ประการได้แก่ ประการที่ 1 ยึดมั่นใน สถาบันหลักของประเทศ ประการที่ 2 ซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสำ�นึกที่ดี และ รับผิดชอบต่อหน้าที่ ประการที่ 3 กล้าตัดสินใจ และกระทำ�ในสิ่งที่ถูกต้อง ชอบธรรม ประการที่ 4 คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว และมีจิตสาธารณะ ประการที่ 5 มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน ประการที่ 6 มุ่ง ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ และประการที่ 7 ดำ�รงตน เป็นแบบอย่างที่ดีและรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร ซึ่ง สสวท. ได้ดำ�เนินงาน ในการขับเคลื่อนมาตรฐานจริยธรรมขององค์กรมาอย่างต่อเนื่อง และสุดท้าย ได้กล่าวถึงการประกวดรางวัลนวัตกรรม สสวท. ประจำ�ปี 2566 “The IDEAR Awards: change for the better” ซึ่งแบ่งการประกวดเป็น 2 ด้าน ได้แก่ ด้านกระบวนการและการบริการ และด้านผลิตภัณฑ์และสิ่งประดิษฐ์

RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5