นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 243

34 นิตยสาร สสวท. ไ ทม์ไลน์ของ ChatGPT ภาพ 2 ที่ได้เปิดตัว GPT-1 ในปี ค.ศ. 2018 ซึ่งเป็นรุ่นแรกในซีรีย์ GPT ได้รับการฝึกฝนและเรียนรู้ข้อมูล บนโลกอินเทอร์เน็ตโดยไม่มีการควบคุมหรือป้อนคำ�สั่งข้อมูลใดๆ ในขณะที่ GPT เรียนรู้ วิเคราะห์ และตัดสินใจจากข้อมูลที่ได้มาภายใต้แนวคิด ของ Deep Learning และ Natural Language Processing (NLP) ในปี ค.ศ. 2019 บริษัท OpenAI ได้เปิดตัว GPT-2 ซึ่งมีการ ปรับปรุงต่อจากรุ่นแรกไปอย่างมาก ด้วยการฝึกฝนและเรียนรู้ข้อมูลขนาด ของโมเดลที่มากถึง 1.5 พันล้านพารามิเตอร์ ทำ�ให้สามารถสร้างข้อความ ที่มีคุณภาพที่ใกล้เคียงกับการเขียนของมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตาม GPT-2 มี ข้อจำ�กัดอยู่บ้าง เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้งานในทางที่ผิด อย่างเช่น การนำ�ไปสร้างข่าวปลอมหรือสร้างเนื้อหาข้อมูลที่เป็นอันตรายต่อ สาธารณชน จนกระทั่งในเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2020 ทางบริษัท OpenAI ได้ปล่อย GPT-3 ถือเป็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เนื่องจาก AI เวอร์ชันนี้ ได้รับการฝึกฝนและเรียนรู้ข้อมูลเป็นจำ�นวน 175 พันล้านพารามิเตอร์ ซึ่ง ทำ�ให้เห็นถึงความสามารถพิเศษในการทำ�ความเข้าใจและสร้างข้อความที่ เหมือนมนุษย์ในศาสตร์ที่หลากหลาย อีกทั้งยังสามารถแปลภาษา ตอบคำ�ถาม และอื่นๆ ได้อีกมาก การเปิดตัวของ GPT-3 ได้สร้างความสนใจและ จุดประกายการใช้งานแชตบอตเป็นอย่างมาก ผู้พัฒนาและวิจัยได้ติดตาม ผลงานของ AI ตัวนี้ว่าสามารถสร้างเนื้อหา องค์ความรู้ การเขียนเชิง สร้างสรรค์ หรือแม้แต่การสร้างงานทางด้านศิลปะว่ามีศักยภาพเป็นอย่างมาก แต่กระนั้นก็ยังพบข้อกังวลเกี่ยวกับอคติทางด้านจริยธรรม และการใช้ข้อความ ที่สร้างขึ้นโดย AI ซึ่งนำ�ไปสู่การอภิปรายและวิจัยพัฒนาต่อ หลังจากหาข้อยุติได้แล้ว ในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2022 ได้ ปล่อย ChatGPT 3.5 ออกมาซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ใช้กันในปัจจุบันอย่างแพร่หลาย โดยได้มีการปรับปรุง จัดการกับข้อจำ�กัดอยู่หลายอย่าง และเพิ่มขีดความ สามารถในการค้นหา วิเคราะห์ รวมทั้งการตัดสินใจที่สร้างข้อมูลเพื่อตอบโจทย์ ผู้ใช้งาน ในเวอร์ชันนี้สามารถใช้งานได้ฟรี ไม่มีข้อจำ�กัดใดๆ แต่ก็ยังมี ข้อผิดพลาดในการได้ข้อมูลจากการตัดสินใจของแชตบอตตัวนี้อยู่บ้าง ก่อนจะนำ�ไปใช้งานจริงควรตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับอย่างรอบคอบอีกครั้ง ในวันที่ 14 มีนาคม ปี ค.ศ. 2023 ทางบริษัท OpenAI ได้เปิดตัว ChatGPT 4 ซึ่งมีความฉลาดกว่าตัว GPT-3.5 ถึง 40% เนื่องจาก GPT-4 ได้รับการฝึกฝนและเรียนรู้ข้อมูลมากถึง 1 ล้านล้านพารามิเตอร์ ทำ�ให้ แชตบอตตัวนี้มีความสามารถในการค้นหา วิเคราะห์ และเรียบเรียงข้อมูลใหม่ ให้แก่ผู้ใช้งานได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ� อีกทั้งยังสามารถสร้างรูปภาพได้ ขณะที่ ChatGPT เวอร์ชันก่อนหน้านี้ไม่สามารถสร้างรูปภาพได้ แต่การ ใช้งานแชตบอตเวอร์ชันนี้ต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน ประมาณเดือนละ 20 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 700 กว่าบาท และมีข้อจำ�กัดคือ สามารถป้อนคำ�ถาม ได้ประมาณ 25 คำ�ถาม โดยเมื่อครบ 25 คำ�ถามแล้ว ระบบจะหยุดพัก 3 ชั่วโมง เพื่อจะกลับมาเริ่มต้นป้อนคำ�ถามใหม่ได้ ส่วนอีกข้อจำ�กัดคือ แชตบอทนี้ถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลที่มาก่อนปี 2021 จึงทำ�ให้ไม่สามารถ ติดตามข่าวสารในปัจจุบันได้ทันทวงที และยังมีความเอนเอียงอยู่บ้าง ควรใช้ วิจารณญาณในการที่จะนำ�ข้อมูลไปใช้งานต่อ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็น วิวัฒนาการของ ChatGPT หากจะกล่าวถึง ChatGPT ว่าสามารถทำ�อะไรได้บ้าง แชตบอตตัวนี้ ตอบคำ�ถามและข้อสงสัยให้แก่ผู้ใช้งานได้ครอบคลุมในหลายด้าน ไม่ว่า จะเป็นส่วนของการค้นหาข้อมูลต่างๆ การตอบอีเมล การเขียนเรียบเรียง ข้อความ การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น การแก้โจทย์คณิตศาสตร์ หรือแม้กระทั่ง การเล่นมุกตลกก็ตาม ตัวอย่างจากภาพ 3 แสดงการใช้งาน ChatGPT ในการ วางแผนเพื่อการท่องเที่ยว การค้นหาสูตรอาหาร และการแต่งเนื้อเพลง จะเห็นว่าศักยภาพของ ChatGPT สามารถให้คำ�ตอบได้อย่าง รวดเร็ว แม่นยำ� มีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการแก่ผู้ใช้งาน มีการประมวลผลด้านภาษาที่สละสลวย ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ ทั้งนี้ ช่วยลดเวลาและทรัพยากรที่ไม่จำ�เป็นในการสืบค้นข้อมูลอีกด้วย ความน่าสนใจ อีกอย่างของแชตบอตตัวนี้คือ การโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมและ เป็นธรรมชาติ หากคำ�ตอบที่ได้สร้างความไม่พึงพอใจแก่ผู้ใช้งาน ผู้ใช้งาน ก็สามารถให้เจ้า ChatGPT เปลี่ยนคำ�ตอบหรือตอบโต้กลับไปได้ แชตบอต จะค้นหา วิเคราะห์ และเรียบเรียงข้อมูลใหม่ให้แก่ผู้ใช้งานทันที หลังจาก การเปิดตัวได้ 5 วัน มีผู้ใช้งานมากถึง 1 ล้านคน จนตอนนี้คาดว่ามีจำ�นวน ผู้ใช้งานมากกว่า 1.8 พันล้านคน และมีจำ�นวนผู้สนใจที่จะใช้งานแชตบอตนี้ ภาพ 2 ไทม์ไลน์ (Timeline) ของ ChatGPT ที่มา: https://www.tooltester.com/en/blog/chatgpt-statistics/