นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 243
ปีที่ 51 ฉบับที่ 243 กรกฎาคม - สิงหาคม 2566 53 ในการเดินทางครั้งนี้เราพบวาฬบรูด้า 2 ตัว ว่ายเคียงคู่กัน ดัง ภาพ 8 เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นวาฬเพศผู้กับเพศเมียกำ�ลังจับคู่เพื่อผสมพันธุ์ โดยขณะที่เรือจอดนิ่ง วาฬทั้ง 2 ตัว ก็ว่ายน้ำ�เกี้ยวพาราสีกันรอบๆ เรือ บางครั้งก็ลอดใต้ท้องเรือไปมา สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยว เป็นอย่างมาก ขณะที่ทุกคนต่างรู้สึกตื่นเต้นกับการสังเกตการใช้ชีวิตของวาฬ บรูด้าอย่างใกล้ชิด ก็มีสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนรู้สึกเป็นกังวล นั่นก็คือปัญหาขยะ ในทะเล โดยเฉพาะขยะพลาสติกที่พบเห็นอยู่เป็นระยะๆ ตลอดการเดินทาง ตั้งแต่บริเวณท่าเรือจนถึงกลางทะเล ปัญหาขยะในทะเลเป็นปัญหาสำ�คัญที่ ส่งผลต่อระบบนิเวศ โดยสัตว์น้ำ�ที่กินขยะพลาสติกเข้าไปก็จะเกิดการ บาดเจ็บล้มตาย นอกจากนี้ ขยะพลาสติกสามารถกลายเป็นไมโครพลาสติก ซึ่งปนเปื้อนในอาหารและมีผลกระทบต่อมนุษย์ที่อยู่ในสายใยอาหารอีกด้วย โดยแหล่งของขยะมีได้ทั้งจากขยะบนบกซึ่งลอยมาตามแม่น้ำ�ลำ�คลองแล้ว ลงสู่อ่าวไทย จากขยะที่ทิ้งจากเรือ หรือจากการลักลอบทิ้งขยะลงทะเล (กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม, ม.ป.ป.; ไทยโพสต์, 2564) หลังจากสังเกตวาฬบรูด้าร่วม 2 ชั่วโมง กัปตันจึงแล่นเรือกลับเข้าฝั่ง ส่วนวาฬบรูด้าก็ใช้ชีวิตตามธรรมชาติต่อไป สำ�หรับสถานภาพการอนุรักษ์ ในประเทศไทยนั้น วาฬบรูด้าถือเป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 (กลุ่มงานวิชาการ สำ�นักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช), ม.ป.ป.) โดยกรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง (2561) สามารถระบุอัตลักษณ์วาฬบรูด้าได้รวม 68 ตัว ถึงแม้ สถานภาพในประเทศไทยและระดับโลกยังไม่น่ากังวล แต่สถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกและปัญหาขยะนั้นก็ทำ�ให้เราไม่ควร นิ่งนอนใจ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อชมวาฬบรูด้าครั้งนี้ทำ�ให้ผู้เขียนและ นักท่องเที่ยวหลายๆ คนได้เห็นการใช้ชีวิตของสัตว์ในธรรมชาติจริงๆ และ ได้ตระหนักถึงธรรมชาติอันสวยงามและเปราะบางในขณะเดียวกัน ภาพ 8 วาฬบรูด้ากำ�ลังจับคู่
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5