นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 244
ปีที่ 51 ฉบับที่ 244 กันยายน - ตุลาคม 2566 39 ภาพ 2 กระบวนการเรียนรู้แบบเน้นงานวิจัยเป็นฐาน ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ที่มา: www.globe.gov ภาพ 3 ระยะการแตกตาดอกของต้นนางพญาเสือโคร่ง การจัดการเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศแบบ Active Learning โดยเชื่อมโยงผู้เรียนกับสภาพแวดล้อมหรือปัญหาที่พบ ในชุมชน สังคม ระดับประเทศ หรือนานาชาติ สามารถใช้การบูรณาการข้อมูลข่าวสาร หรือข้อมูลสารสนเทศที่เป็นปัจจุบัน มาร่วมในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะ และกระบวนการคิด การจัดการเรียนการสอนสามารถทำ�ได้หลายวิธี เช่น การเน้นกรณีศึกษา (Case Study) การแลกเปลี่ยนความคิด (Think-Pair-Share) การใช้เกม (Game Based Learning) การเน้นปัญหา/โครงงาน เป็นฐาน (Problem/Project Base Learning) บางวิธีเป็นแนวทางที่ครูใช้จัดการเรียนการสอนในห้องเรียนโดยปกติอยู่แล้ว ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบเน้นงานวิจัยเป็นฐานด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยเริ่มจากการออกไป สำ�รวจและสังเกตธรรมชาติ สร้างคำ�ถามวิจัยและสมมติฐานงานวิจัย วางแผนและออกแบบเค้าโครงงานวิจัย ดำ�เนินงานและเก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลและอภิปรายผลจากสิ่งที่ค้นพบ สุดท้ายเป็นการสรุปและนำ�เสนอผลงานวิจัยที่ค้นพบ ซึ่งผู้เรียนจะได้เรียนรู้จาก การปฏิบัติจริงและสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองโดยมีครูเป็นที่ปรึกษาหรือผู้อำ�นวยความสะดวก บทความนี้จะขอยกตัวอย่างงานวิจัยของนักเรียนที่ส่งเข้าร่วม การประกวด GLOBE Student Research Competition (GLOBE SRC) 2023 ซึ่งครูสามารถสร้างแรงบันดาลใจ หรือกระตุ้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้การเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศได้ด้วยตนเองผ่านการทำ�งานวิจัย เช่น งานวิจัยเรื่องการศึกษาผล ของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่มีผลต่อการผลิตาและการออกดอกของนางพญา เสือโคร่ง ณ โรงเรียนบรรพตวิทยา จังหวัดเชียงราย เป็นการศึกษาปัจจัยสภาพอากาศ ได้แก่ อุณหภูมิอากาศ ความชื้นสัมพัทธ์อากาศ กับการแตกตาดอกของต้น นางพญาเสือโคร่ง โดยเป็นการเปรียบเทียบช่วงเวลาในการออกดอกแตกต่างกัน ในปี พ.ศ. 2564 และ พ.ศ. 2565 หากผู้เรียนมีการเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องสามารถ นำ�มาใช้ในการทำ�นายช่วงเวลาการออกดอกของนางพญาเสือโคร่งได้ ซึ่งในบริเวณ ดังกล่าวอยู่ใกล้กับโรงเรียนและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งในจังหวัด เชียงราย งานวิจัยเชิงสำ�รวจ เรื่อง การศึกษาความหลากชนิดของพันธุ์ไม้เด่นในโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง ต่อปริมาณการกักเก็บคาร์บอน โดยต้นไม้ช่วยในการดูดซับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศมากักเก็บในรูปมวลชีวภาพของ ต้นไม้ ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการลดการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศที่สามารถทำ�ได้ง่าย การศึกษานี้ทำ�ให้ผู้เรียนได้ เรียนรู้และรู้จักพันธุ์ไม้เด่นในโรงเรียนของตน รวมทั้งยังศึกษาสมบัติทางกายและทางเคมีของดิน ได้แก่ ค่า pH ค่าความชื้นในดิน ลักษณะเนื้อดิน ธาตุอาหารในดิน (NPK) และปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ที่ส่งผลต่อการเจริญของต้นไม้นั้นๆ รวมทั้งการใช้ GLOBE Observer Trees Application ในการเก็บข้อมูลความสูงและเส้นรอบวงของต้นไม้เพื่อใช้ในการคำ�นวณหามวลชีวภาพของต้นไม้และ วิเคราะห์หาปริมาณคาร์บอนกักเก็บในต้นไม้ตามหลักการของสมการแอลโลเมตรีด้วย Carbon-Storage Application โดยพบว่า ในช่วงเวลา 2 เดือนที่ทำ�การสำ�รวจ ต้นไม้ที่สำ�รวจมีความสูง เส้นรอบวง และปริมาณคาร์บอนกักเก็บเพิ่มขึ้น จากการศึกษาพบว่า หมายเหตุ O หมายถึง ยังไม่มีการแตกตาใบ/ดอก Bud Burst B หมายถึง มีการแตกตาจะสังเกตเห็นเป็นปุ่มสีเขียว/สีอื่นๆ Florets Visible FV หมายถึง เริ่มเห็นสีของกลีบดอกโผล่ขึ้นมา Puffy Pink P หมายถึง เริ่มเห็นกลีบเต็มๆ แต่ยังไม่บาน Peak Bloom PB หมายถึง ดอกบานเต็มต้น
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5