นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 249

ปีที่ 52 ฉบับที่ 249 กรกฎาคม - สิงหาคม 2567 15 4) หลักสูตรท้องถิ่น 5) กิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติจริง 6) ประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง เพื่อให้การจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐานประสบความสำ �เร็จจึง มีหลักการและแนวทางการจัดการศึกษาแบบชุมชน (กล้า ทองขาว, 2561) ที่มุ่งเน้นไปที่การกระจายอำ �นาจให้ประชาชนและชุมชนเพื่อให้มีบทบาทสำ �คัญ ในการกำ �หนดทิศทาง เป้าหมาย และกระบวนการเรียนรู้ โดยยึดหลักการ สำ �คัญ 5 ประการ คือ 1) การกระจายอำ �นาจไปยังประชาชนและชุมชน (Empowering People = E) ให้ประชาชนและชุมชนมีสิทธิ มีอิสระในการคิดและปฏิบัติ ในการแก้ไขปัญหา กำ �หนดเป้าหมายและแนวทาง หรือประเด็นที่ต้องการ เรียนรู้ เช่น ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการดำ �เนินการ หรือการกระทำ �ใดๆ ที่ยัง ไม่เคยทำ �มาก่อน (Learning to do) เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ (Learning to know) เรียนรู้ที่จะค้นหาหรือพัฒนาตน (Learning to be) และเรียนรู้ที่ จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ (Learning to live together) โดยเบื้องต้นจะมี นักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการศึกษาชุมชนให้คำ �ปรึกษา 2) การมีส่วนร่วมขององค์กรในชุมชน (Participatory Learning = P) องค์กรในชุมชนหมายถึง องค์กรที่ได้รับการจัดตั้งเป็นทางการและ ไม่เป็นทางการทั้งภาครัฐและเอกชนที่ประกอบกันเป็นชุมชนท้องถิ่น เช่น องค์กรการปกครองท้องที่ (กำ �นัน ผู้ใหญ่บ้าน) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา องค์กรศาสนา ครอบครัว องค์กรเกี่ยวกับงานสาธารณสุขชุมชน ประชาคม กลุ่มเยาวชน กลุ่มสตรีและแม่บ้าน กลุ่มอาสาสมัคร กลุ่มสนใจ ด้านอาชีพ สุขภาพ การกีฬา นันทนาการ กลุ่มสนใจศิลปะวัฒนธรรม และ แหล่งเรียนรู้ต่างๆ ในชุมชน การมีส่วนร่วมหมายถึง กระบวนการที่ชุมชน หรือผู้นำ � หรือผู้แทนองค์กรในชุมชนมีบทบาทในการร่วมคิด ร่วมค้นหา ปัญหา ร่วมกำ �หนดเป้าหมายและทิศทางในการแก้ไขปัญหา ที่เรียกว่า ร่วมวางแผน ร่วมคิด ตัดสินใจ ร่วมดำ �เนินการ ร่วมรับผิดชอบ ร่วมแก้ปัญหา ในขั้นปฏิบัติ ร่วมติดตามผล ประเมินผล ร่วมชื่นชม และร่วมเรียนรู้ ประสบการณ์ของกันและกันในกระบวนการจัดการเรียนรู้ 3) การเอาพื้นที่เป็นตัวตั้ง (Area - Focused = A) กล่าวคือ การจัดการศึกษาฐานชุมชนใช้กระบวนการชุมชนเป็นกลไก มีสภาผู้นำ �ชุมชน โดยการรวมตัวของผู้นำ �ชุมชน ทั้งผู้นำ �เป็นทางการและผู้นำ �ตามธรรมชาติ มีการ ศึกษาและสำ �รวจข้อมูลชุมชน ข้อมูลชุมชนใช้เป็นฐานความคิดและใช้ทำ �แผน ชุมชน แผนชุมชนจะเป็นแผนพัฒนาอย่างบูรณาการ และตั้งเป้าหมายได้ มีสภาประชาชนที่คนทั้งชุมชนมีส่วนร่วม กำ �หนดทิศทางและเป้าหมายของ ชุมชนทั้งทางสังคมและสัมมาชีพ เป็นประชาธิปไตย มีหนึ่งมหาวิทยาลัยหรือ สถาบันอุดมศึกษาที่ตั้งในจังหวัดร่วมทำ �งานกับพื้นที่ บูรณาการทรัพยากรของ ชุมชนท้องถิ่น และรัฐบาลสนับสนุน 4) การยึดชีวิตหรือยึดผู้เรียนเป็นตัวตั้ง (Life, Learners Centered = L) ผู้เรียนได้เรียนรู้ตามความสนใจและความต้องการ ผู้เรียน เรียนรู้อย่างมีความสุข เต็มตามศักยภาพ เช่น เรียนรู้รากเหง้า รู้ท้องถิ่น รู้ศาสนา รู้วัฒนธรรม จารีตประเพณี รู้ประวัติศาสตร์ชุมชน รู้วิชาสามัญ รู้วิชาชีพ รู้ รักษาสุขภาพ รู้ศิลปะดนตรีและกีฬา การอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมและ ทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนรู้เท่าทันโลก การเป็นพลเมืองดี พลโลกที่ดีมี สัมมาอาชีพและมีสันติสุข นำ �ไปสู่สุขภาวะที่ยั่งยืน สาระการเรียนรู้เน้นวิถีชีวิต เป็นกระบวนการทางสังคม และเป็นการเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติ 5) การจัดการศึกษาที่บูรณาการกันระหว่างการศึกษาในระบบ นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย (Integrated Education Systems Approach = I ) เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นการจัดการศึกษาที่ไม่แยก การจัดการทั้งสามระบบออกจากกัน แต่เป็นการบูรณาการเชื่อมโยงกัน ขึ้นอยู่กับ ประเภทของหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ ผู้เรียนและผู้สอนมีความ หลากหลายวัย โดยสรุป หลักการและแนวทางในการจัดการศึกษาฐานชุมชน เรียกย่อๆ ว่า EPALI จะประกอบด้วย การกระจายอำ �นาจไปยังประชาชนและ ชุมชน การมีส่วนร่วมขององค์กรในชุมชน การเอาพื้นที่เป็นตัวตั้ง การยึดชีวิตหรือผู้เรียนเป็นตัวตั้ง และการจัดการศึกษาแบบบูรณาการทั้ง สามระบบ โดยมีสถาบันการศึกษาในจังหวัดร่วมทำ �งานกับพื้นที่ และบูรณาการ ทรัพยากรจากชุมชน โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐและท้องถิ่น ดังภาพ 2 การเรียนรู้โดยใช้ชุมชนเป็นฐานเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ ที่ผู้เรียนเรียนรู้ “โลกแห่งความจริง” ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเข้าใจสภาพปัญหาและ ความต้องการ หรือลักษณะของชุมชนนั้นๆ เพื่อสร้างความรู้ผ่านการเรียนรู้ ที่บูรณาการกลยุทธ์การสอนอย่างหลากหลายวิธีร่วมกับการทำ �กิจกรรมที่ ผู้เรียนได้สัมผัสชุมชนอย่างแท้จริง ช่วยให้เกิดเป็นการเรียนรู้ที่มีความหมาย ระหว่างห้องเรียนกับชุมชนที่ผ่านการมีส่วนร่วมของสถานศึกษา ครู ผู้เรียน และ คนในชุมชนในลักษณะของการเป็นพาร์ทเนอร์ในการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ทำ �ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และ พัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้ การที่ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติในชุมชน จริงๆ ผู้เรียนจะได้ฝึกทักษะการแก้ปัญหาจากสถานการณ์ที่พบ ทักษะ การทำ �งานเป็นทีมจากการทำ �งานร่วมกัน นอกจากนี้ การเรียนร่วมกันเป็นกลุ่ม จะช่วยเปลี่ยนจากการเรียนแบบเน้นการแข่งขันมาเป็นเน้นที่ความร่วมมือ ก า ร บู ร ณ า ก า ร ท รั พ ย า ก ร แ ล ะ ก า ร ส นั บ ส นุ น จ า ก รั ฐ แ ล ะ ท้ อ ง ถิ่ น เรียนรู้จาก การปฏิบัติ การกระจาย อำ �นาจ การมีส่วนร่วม ขององค์กร ในชุมชน จัดแบบูรณาการ 3 ระบบ ใน - นอก ตามอัธยาศัย ขับเคลื่อน โดยสภา ผู้นำ �ชุมชน เอาพื้นที่ เป็นตัวตั้ง รองรับผู้ไม่ ประสงค์ศึกษาต่อ ในระบบ ยืดชีวิตผู้เรียน เป็นตัวตั้ง ผู้เรียน ผู้สอน หลากหลาย ม ห า วิ ท ย า ลั ย ห รื อ ส ถ า บั น อุ ด ม ศึ ก ษ า ร่ ว ม ท ำ ำ ง า น กั บ พื้ น ที่ ภาพ 2 หลักการและแนวทางในการจัดการศึกษาฐานชุมชน ที่มา: https://www.dpu.ac.th/ces/upload/km/1412759447.pdf หน้า47

RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5