นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 249
ปีที่ 52 ฉบับที่ 249 กรกฎาคม - สิงหาคม 2567 19 ลั กษณะโดดเด่นของผู้ออกแบบการเรียนรู้คือ ผู้ที่ศึกษาหาความรู้ และสร้างองค์ความรู้อยู่ตลอดเวลา และเป็นครูนักวิจัย (Teacher Researcher) ที่สืบเสาะหรือทำ �การวิจัยเพื่อขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน ของตนเอง (Scott & Lock, 2021) อย่างไรก็ดี Faikhamta et al., (2023) ได้กล่าวถึงลักษณะของครูนักวิจัยสามประการดังนี้ 1) ครูที่เป็นเสมือนหมอ ที่มีความสามารถในการวินิจฉัยว่าผู้เรียน ทำ �อะไรถึงบ่งชี้ว่าผู้เรียนบรรลุเป้าหมายของการเรียนรู้ รวมไปถึงผู้เรียน ยังต้องการความช่วยเหลือหรือการสนับสนุนในการฝึกฝนทักษะกระบวนการ ด้านใดเพื่อทำ �ให้การเรียนรู้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยครูมีความว่องไว ในการวินิจฉัยว่าผู้เรียนมีความพร้อมและความเข้าใจในการเรียนรู้หรือ การลงมือปฏิบัติในระดับใด หากพบว่ายังขาดความพร้อมก็สามารถปรับ กิจกรรมการเรียนรู้หรือใช้กลยุทธ์ในการสนับสนุนการเรียนรู้ 2) ครูที่เป็นเสมือนนักออกแบบ ที่มีความสามารถในการเลือก แนวทางการจัดการเรียนรู้ ความสามารถในการออกแบบสถานการณ์ท้าทาย ในการเรียนรู้ของผู้เรียน และความสามารถในการเลือกตัวแทนการเรียนรู้ ที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้ผู้เรียนก้าวข้ามความยากลำ �บากในการเรียนรู้ (Learning Difficulty) ได้อย่างเหมาะสม หรือปรับใช้แนวคิดร่วมกับ กลยุทธ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมเพื่อส่งมอบประสบการณ์การเรียนรู้ให้ ผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกัน ระหว่างจุดประสงค์การเรียนรู้ที่แสดงถึงสมรรถนะเป้าหมายของผู้เรียนที่ มุ่งพัฒนาวิธีและกลยุทธ์การสอนเพื่อสนับสนุนให้ผู้เรียนบรรลุเป้าหมายที่ ตั้งไว้ และแนวทางการวัดประเมินผลเพื่อส่งเสริมพัฒนาการของผู้เรียน 3) ครูที่เป็นเสมือนนักวิจัย ที่กลายเป็นแนวคิดสำ �คัญที่ช่วย ขยายความเป็นหมอและความเป็นนักออกแบบผ่านความสามารถในการศึกษา อย่างเป็นระบบระเบียบเมื่อวินิจฉัยพบว่าผู้เรียนต้องการความช่วยเหลือ สำ �หรับการเรียนรู้ในลักษณะใดบ้าง การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ จะช่วยให้ผู้สอนสามารถกำ �หนดหรือสังเคราะห์พฤติกรรมบ่งชี้ รวมไปถึง การกำ �หนดรูบริคระดับความสามารถได้เช่นเดียวกันกับการออกแบบ การสอนแบบผสมผสานเพื่อเป้าหมายเฉพาะ และดำ �เนินการอย่างเป็น ขั้นตอนเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลหรือหลักฐานเชิงประจักษ์ที่แสดงถึง ความเปลี่ยนแปลงหรือความเป็นไปภายใต้หัวข้อวิจัยที่ผู้สอนมุ่งศึกษา หากกล่าวถึงการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน (Classroom Action Research) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ครูหรือผู้สอนหลายท่านมีความคุ้นเคย อาจมีโอกาสได้ทดลองทำ �บ้างตามโอกาส หรือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องเป็น ประจำ � ผ่านขั้นตอนสำ �คัญ คือ การวางแผน (Plan) การปฏิบัติการสอน (Act) การสังเกตการสอน (Observe) และการสะท้อนเกี่ยวกับการปรับปรุง การสอน (Reflect) ในลักษณะของการดำ �เนินงานแบบวงจรวนซ้ำ �จน ปัญหาที่ศึกษาดังกล่าวคลี่คลายหรือเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น (Kemmis & McTaggart, 1988; Kemmis, 2007) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกลับพบว่าไม่ใช่ครูทุกคน ที่จะมีความมั่นใจในการกำ �หนดหัวข้อวิจัยในชั้นเรียนตามลักษณะของ ปัญหาที่เกิดขึ้นจริง นำ �ไปสู่การผลิตหัวข้อคำ �ถามวิจัยในชั้นเรียนซ้ำ � หรือ บางปัญหาในชั้นเรียนนั้นได้ถูกแก้ไขเรียบร้อยแล้วแต่ก็ยังคงคำ �ถามวิจัยใน ชั้นเรียนไว้เช่นเดิม ภาพ 1 เทมเพลต AR-CANVAS โดย ชาตรี ฝ่ายคำ �ตา และคณะ (2567)
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5