นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 249

ปีที่ 52 ฉบับที่ 249 กรกฎาคม - สิงหาคม 2567 39 รู้แนวคิดต่างๆ ในเนื้อหาอย่างลึกซึ้งหรือไม่ได้รับการฝึกให้ตั้งคำ �ถามเกี่ยว กับเนื้อหาที่ได้เรียนรู้ไป (Muqeem et al., 2022; Bowen et al., 2022) ยิ่งไปกว่านั้น ผลกระทบจากการจัดการศึกษาแบบดั้งเดิมนี้ยัง ขยายออกไปกระทบกับบริบทต่างๆ นอกห้องเรียนด้วย เช่น วิธีการสอนที่เน้น การท่องจำ �อย่างเดียวมีผลกระทบไปขัดขวางการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา ซึ่งมีความสำ �คัญอย่างมากต่อความสำ �เร็จทางการเรียนในอนาคตและ อาชีพที่นักเรียนจะทำ �ต่อไป ( Göktaş, 2020) ในทางตรงกันข้าม การจัดการ เรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ลงมือกระทำ �และมีโอกาสที่จะใช้วิธีการคิด อย่างมีวิจารณญาณ เช่น การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ซึ่งจะช่วยเพิ่ม ความสามารถของนักเรียนในการประยุกต์ใช้ความรู้ที่เรียนไปกับสถานการณ์ ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง (Problem-based Learning) (จีระวรรณ เกษสิงห์ และ ณภัทร วอนศิริ, 2563; Salman et al., 2023) ดังนั้น แม้ว่าวิธีการสอนแบบดั้งเดิมจะมีบทบาทอย่างมากในระบบการศึกษาไทย แต่การเปลี่ยนแปลงไปสู่แนวทางที่เน้นการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้ลงมือ กระทำ �และใช้กระบวนการคิดกับสิ่งที่ได้กระทำ � (Active Learning) และ การเรียนรู้แบบสืบสอบ (Inquiry-based Learning) มากขึ้นเป็นสิ่งจำ �เป็น อย่างยิ่งสำ �หรับการบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ที่ไม่เพียงมีความรู้ แต่ยังมีความสามารถ ในการคิดอย่างมีวิจารณญาณและมีความสามารถในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ ความสำ �คัญของการสอนที่เน้นทักษะ ในปัจจุบันรูปแบบของแรงงานมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไป อย่างรวดเร็วมาก การวิเคราะห์และระบุทักษะที่จำ �เป็นสำ �หรับการจ้างงาน ในอนาคตจึงมีความสำ �คัญอย่างยิ่ง ขณะที่เทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI ยังคง เข้าไปปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น สถาบันการศึกษา จึงต้องมีการปรับปรุงหลักสูตรเพื่อเตรียมนักเรียนให้มีความพร้อมสำ �หรับ รับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ การนำ � AI เข้ามาใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบการศึกษาจำ �เป็น อย่างยิ่งที่จะต้องมีการประเมินวิธีการสอนที่ใช้ AI เป็นเครื่องมือ เพื่อให้ แน่ใจว่านักเรียนจะได้เรียนรู้ทักษะที่เกี่ยวข้อง สอดคล้อง และเป็นประโยชน์ กับการทำ �งานในอนาคต (Aghaziarati et al., 2023) และต้องตระหนักว่า นวัตกรรมในการศึกษาไม่ได้หมายถึงแค่การรวมเทคโนโลยีต่างๆ ไปใช้ ในห้องเรียนเท่านั้น แต่ยังมีความหมายรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ ของการเรียนการสอนเพื่อทำ �ให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะต่างๆ ที่สำ �คัญ สำ �หรับใช้ในการแข่งขันในโลกของธุรกิจ (Schleicher, 2015) ในอนาคต เพื่อทำ �ให้ผู้เรียนมีความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ สามารถทำ �งานเป็นทีม สามารถสร้างนวัตกรรมได้ และสิ่งต่างๆ ที่ได้เรียนรู้ต้องเป็นทักษะที่ ไม่สามารถทำ �แทนได้โดยใช้เครื่องจักรต่างๆ (Popenici & Kerr, 2017; Androutsos & Brinia, 2019) เกาหลีใต้เป็นอีกประเทศที่ตระหนักถึง ความสำ �คัญในเรื่องนี้ โดยมีการทดลองนำ � AI เข้าไปใช้กับนักเรียนที่ เรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นปีแรกเพราะเป็นช่วงที่มีการใช้ระบบ Free Semester (ที่ต่อมาขยายมาเป็น 1 ปี) เพื่อลดแรงกดดันในการเรียน การสอน ทำ �ให้นักเรียนได้เลือกเรียนในสิ่งที่สนใจได้ เพื่อเสริมสร้าง ประสบการณ์จากการลงมือปฏิบัติในการเรียน พัฒนาทักษะต่างๆ สำ �รวจ ความสนใจของตนเองเกี่ยวกับอาชีพ เป็นการเรียนรู้แบบที่ไม่ต้องสอบใน ช่วงเวลานี้ และการนำ � AI เข้าไปใช้กับหลักสูตรที่ออกแบบมานี้จะเน้นให้ นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับทักษะการแก้ปัญหาและความสามารถทาง เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ผลการนำ �ไปใช้กับนักเรียนพบว่า การเปลี่ยนแปลง รูปแบบการเรียนการสอนไปสู่รูปแบบที่เน้นทักษะไม่เพียงแต่เตรียมนักเรียน ภาพจาก: https://socialgiver.com/en/give/provide-a-student-with-one-semes- ter-of-good-quality-education ภาพจาก: https://www.kenan-asia.org/blog/education/active-learning-to-enhance-the- learning-performance-of-thai-students/ ภาพจาก: https://iamkru.com/en/tag/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%8 1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0% B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2 %E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80-e/

RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5