นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 249

ปีที่ 52 ฉบับที่ 249 กรกฎาคม - สิงหาคม 2567 49 แนวคิดการเลียนแบบธรรมชาติ แนวคิดการเลียนแบบธรรมชาติ (Biomimicry) คือ การเลียนแบบสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติมาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาของ มนุษย์ มีต้นกำ �เนิดมาจากภาษากรีกคำ �ว่า “Bios” เเปลว่า “ชีวิต” และ “Mimic” มีความหมายว่า ‘ลอกเลียนแบบ’ จึงเป็นมุมมอง ของการนำ �ธรรมชาติมาเป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษากลยุทธ์ที่ธรรมชาติใช้ในการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อมด้วย มนุษย์ได้ประยุกต์ใช้ศาสตร์ของแนวคิดการเลียนแบบธรรมชาติในงานออกแบบทางศิลปะและสร้างนวัตกรรมที่มี เอกลักษณ์เฉพาะตัว หรือเพื่อแก้ไขโจทย์ปัญหาในการดำ �เนินชีวิตมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ (ชาคริต นิลศาสตร์, 2559) และยังเป็น แนวทางที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เชิงรุกได้อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติของชีววิทยา (ศานิกานต์ เสนีวงศ์ วันชัย น้อยวงค์ และจีรนันท์ เพชรแก้ว, 2567) ดังตัวอย่างต่อไปนี้ ตัวอย่างที่ 1 การลอกเลียนแบบรูปร่าง ลักษณะทางกายภาพของสิ่งมีชีวิต เช่น อิจิ นากาซึ วิศวกรออกแบบรถไฟความเร็วสูง และเป็นนักส่องนกมืออาชีพ เขาค้นพบพฤติกรรมการพุ่งลงไปจับปลาในน้ำ �และด้วยรูปทรงของจะงอยปากที่เรียวยาวของนกกระเต็น (Kingfisher) จึงช่วยลดแรงต้านแม้จะดำ �ลึกลงไปในน้ำ �แต่เมื่อโผล่พ้นน้ำ �ขึ้นมากลับไม่มีการกระจายวงน้ำ �หรือมีน้อยมาก อิจิ นากาซึ จึง นำ �เอาลักษณะจะงอยปากเรียวยาวของนกกระเต็นมาออกแบบเป็นหัวรถไฟทรงหัวกระสุน ชาวญี่ปุ่นจึงได้รถไฟชินคันเซนที่สามารถวิ่ง ด้วยความเร็วสูง มีเสียงเงียบ และใช้พลังงานไฟฟ้าลดลงถึงร้อยละ 15 (ธเนศ รัตนกุล, 2561) ตัวอย่างที่ 2 การลอกเลียนแบบกระบวนการของสิ่งมีชีวิต เช่น Jube อุปกรณ์จับแมลงที่เลียนแบบการทำ �งานของต้นหม้อ ข้าวหม้อแกงลิง โดยมีหลักการใช้อย่างง่ายคือ เมื่อนำ �เศษอาหารใส่ลงใน Jube แมลงจะเข้าไปกินอาหารในโพรงและติดอยู่ด้านใน ไม่สามารถหนีหรือปีนออกมาได้ (ชาคริต นิลศาสตร์, 2559) ตัวอย่างที่ 3 การลอกเลียนแบบระบบนิเวศที่มีอยู่ในธรรมชาติ เช่น โครงการ Bosco Verticale กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสถาปนิกชื่อ Stefano Boeri ออกแบบอาคารที่อยู่อาศัยในเมืองสูง 27 ชั้น โดยได้แรงบันดาลใจจากระบบนิเวศของต้นไม้ ในด้านของ การแลกเปลี่ยนแก๊ส การสังเคราะห์ด้วยแสง การคายน้ำ �ของพืช เพื่อเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ให้กับพื้นที่ภายในและโดยรอบ สามารถลด อุณหภูมิและเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโครงการและยังมีการออกแบบระบบน้ำ �ที่ใช้เพื่อการเจริญเติบโตของต้นไม้ไว้อย่างดี ซึ่งเป็นการใช้น้ำ � รีไซเคิลที่ได้จากน้ำ �ทิ้งของอาคารตามแนวทางการออกแบบยั่งยืน (ต่อพงษ์ ลิ่มลัญจกร, 2565) ตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษาโดยใช้ SLED Model ผู้เขียนออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษาโดยใช้ SLED Model โดยมีเป้าหมายเพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 ที่เข้าร่วมกิจกรรมสะเต็มศึกษาสามารถออกแบบที่รองแก้วได้ตรงกับเงื่อนไขและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ ภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง ผู้เขียนทั้ง 3 คนเป็นผู้สอนกิจกรรมดังกล่าวโดยมีรายละเอียดของกิจกรรมแต่ละขั้น ดังนี้ ขั้นที่ 1 ระบุปัญหา (Identify Problem) ครูนำ �เสนอสถานการณ์การใช้ที่รองแก้วกระดาษรองแก้วชาเขียวเย็นในช่วงงานเลี้ยงเทศกาลทานาบาตะของครอบครัว เพื่อให้นักเรียนวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น โดยให้นักเรียนฟังเรื่องราว อ่านเรื่องเล่า โดยครูนำ �เสนอสถานการณ์ เกี่ยวกับที่รองแก้วที่เป็นกระดาษในงานเลี้ยงเทศกาลทานาบาตะที่เปื่อยยุ่ยได้ง่าย ไม่สามารถรองรับน้ำ �จากแก้วได้และไม่มีลวดลาย ที่รองแก้วที่เข้ากับเทศกาลทานาบาตะพร้อมทั้งเล่าถึงความเป็นมาของเทศกาลทานาบาตะ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้นักเรียนได้เผชิญกับ ปัญหาการเปื่อยยุ่ยของที่รองแก้วกระดาษ จึงนำ �ตัวอย่างที่รองแก้วมาให้นักเรียนแต่ละคนได้สังเกตและสำ �รวจข้อมูลพื้นฐานของ ที่รองแก้วเช่น รูปทรงของที่รองแก้ว วัสดุที่ใช้ในการสร้าง ความทนทานของที่รองแก้ว ลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อเปียกน้ำ � และให้ ภาพจาก: https://savvytokyo.com/tanabata-romantic-legend-japan/

RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5