นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 249

ปีที่ 52 ฉบับที่ 249 กรกฎาคม - สิงหาคม 2567 53 ภาพ 7 ผลงานของนักเรียนกลุ่มที่ 1 ได้ยินเสียงร้องไห้ จึงเข้ามาช่วยสร้างสะพานโดยใช้ปีกของนกกางเขนจนช่วยให้เจ้าหญิงทอผ้าข้ามทางช้างเผือกไปพบกับชายเลี้ยงวัว ผู้เป็นที่รัก แสดงดังภาพ 7 ภาพ 8 ผลงานกลุ่มที่ 3 อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงมุมมองการเลียนแบบธรรมชาติ พบว่ามีเพียง 1 กลุ่ม นั่นคือ นักเรียนกลุ่มที่ 3 ที่ใช้รูปร่าง ของต้นกาบหอยแครงมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบอุปกรณ์ประคองแก้วป้องกันการหล่นของแก้ว เมื่อใช้ที่รองแก้วได้ กล่าวคือ ใช้ลักษณะของแผงหนาม (Cilia) บริเวณขอบกาบใบ ซึ่งทำ �หน้าที่คล้ายกรงป้องกันการหนีของเหยื่อมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ อุปกรณ์ที่สร้างเชื่อมต่อออกจากบริเวณฐานแก้วสูงขึ้นไปในแนวดิ่ง เพื่อให้แก้วสามารถคงอยู่ได้ในที่รองแก้วและไม่หล่น ดังภาพผลงาน กลุ่มที่ 3 บริเวณที่ลูกศรชี้ แสดงถึงโครงสร้างที่นักเรียนออกแบบโดยเลียนแบบกาบหอยแครง แสดงดังภาพ 8 แนวทางการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ แนวทางการพัฒนากิจกรรมในครั้งถัดไป ครูสามารถใช้เรื่องราวตำ �นานความรักซึ่งเป็นเนื้อหาด้านประเพณีวัฒนธรรมของ เทศกาลทานาบาตะเชื่อมโยงเข้ากับความรู้ทางดาราศาสตร์ที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มดาวทั้ง 3 ได้แก่ กลุ่มดาวพิณ (Lyra) ในกลุ่ม ดาวหงส์ (Cygnus) กลุ่มดาวนกอินทรี (Aquila) และทางช้างเผือก (Milky way) ที่มีช่วงเวลาที่สว่างไสวมากที่สุดของปีคือช่วงเดือน กรกฎาคม จนเกิดเป็นสามเหลี่ยมฤดูร้อน (Summer Triangle) โดยเราสามารถมองเห็นดวงดาวเหล่านี้ได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งเป็นช่วงเวลา เดียวกันกับที่ดาวเวกา (Vega) ซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าหญิงทอผ้า และดาวอัลแตร์ (Altair) ซึ่งเป็นตัวแทนของหนุ่มเลี้ยงวัว ในกลุ่มดาวพิณ (Lyra) และกลุ่มดาวหงส์ (Cygnus) อีกทั้งยังมีดาวหางหงส์ (Deneb) ซึ่งเป็นตัวแทนของนกกางเขน ในกลุ่มดาวนกอินทรี (Aquila) ที่สามารถสังเกต เห็นได้บริเวณข้างซ้ายและขวาของทางช้างเผือก (Milky way) อันเป็นตัวแทนของแม่น้ำ �แห่งสวรรค์ (มติพล ตั้งมติธรรม, 2566) ครูอาจจัดเป็นกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลและเชื่อมโยงตำ �นานเข้ากับ ความรู้ทางด้านดาราศาสตร์ ทำ �ความเข้าใจเกี่ยวกับปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าในช่วงเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้

RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5