นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 250
ปีที่ 52 ฉบับที่ 250 กันยายน - ตุลาคม 2567 9 • การสืบสวน: ใช้คำ �ถาม ทำ �ไม และอย่างไร เกี่ยวกับสิ่งที่ เรียนรู้ รวมทั้งตอบคำ �ถามเหล่านั้นด้วยตนเอง • การใช้ภาษาของตนเอง: อธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่เรียนรู้ด้วย ภาษาของตนเอง • แผนผังความคิด: สร้างแผนผังความคิดของตนเองเกี่ยวกับ เรื่องที่เรียนรู้ • การจัดกลุ่ม: จัดกลุ่มข้อมูลในการเรียนรู้เป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อ ให้เรียนรู้ได้ง่ายขึ้น • ตัวช่วยความจำ �: ใช้ตัวช่วยความจำ � เช่น อักษรย่อ หรือ คำ �คล้องจอง • การทดสอบ: ฝึกทดสอบตนเองเพื่อจะได้ทราบว่ายังมีจุดไหน ที่ยังไม่เข้าใจ • การสอนเพื่อน: นำ �ความรู้ที่ได้เรียนรู้ไปสอนผู้อื่น หากย้อนกลับไปที่สถานการณ์การเรียนรู้งานใหม่ของสราลี สราลีอาจต้องพึ่งพาแนวทางในการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อให้เรียนรู้เกี่ยวกับ การเป็นนักพัฒนาเว็บไซต์อย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวคือ มีความรู้ความเข้าใจ และสามารถนำ �ไปใช้ในการทำ �งานจริงได้ รวมทั้งใช้เวลาในการพัฒนา ความสามารถดังกล่าวในระยะเวลาที่ไม่นานเกินไป เมื่อถึงตอนนี้ ผู้อ่านอาจได้แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการพัฒนา การเรียนรู้เพื่อการเรียนรู้ ทั้งทางด้านการพัฒนาความสามารถ ในการเรียนรู้ของตนเองผ่านการรู้คิด (Metacognition) และการสร้าง แรงจูงใจในการเรียนรู้ผ่านแนวคิดพื้นฐานของแรงจูงใจทั้ง 4 ด้าน ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางการเรียนรู้เบื้องต้นไปแล้ว ในฐานะผู้เรียน (ทั้งในและนอก ระบบการศึกษา) ครู หรือนักการศึกษาอาจประยุกต์ใช้ความรู้ดังกล่าว ทั้งในการพัฒนาการเรียนรู้เพื่อการเรียนรู้ของตนเอง และยังอาจใช้แนวคิด ดังกล่าวส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาการเรียนรู้เพื่อการเรียนรู้ของนักเรียน หรือผู้อื่นได้เช่นกัน หมายเหตุ: ในการเขียนบทความนี้ (รวมทั้งภาพประกอบที่ใช้) ผู้เขียนได้ดำ �เนินการโดยการทำ �งานร่วมกันกับ AI Gemini โดยผู้อ่านอาจ จะติดตามเบื้องหลังการทำ �งานในการเขียนบทความนี้ ในบทความ “ร่วมมือกับ AI Gemini ในการเขียนบทความทางวิชาการ” แนวคิดพื้นฐานของแรงจูงใจในการเรียนรู้ 4 ด้าน แต่ไม่ได้หมายความว่า ผู้เรียนรู้จะต้องมีแนวคิดพื้นฐานดังกล่าวครบทั้ง 4 ด้าน จึงจะเกิดแรงจูงใจ และเริ่มต้นการเรียนรู้ ผู้เรียนรู้อาจมีแนวคิดดังกล่าวเพียงหนึ่งด้านก็ อาจเกิดเป็นแรงจูงใจในการเรียนรู้แล้วก็เป็นได้ แนวทางการเรียนรู้ ในการเรียนรู้เพื่อการเรียนรู้นอกจากการมีความเข้าใจและกำ �กับ การเรียนรู้ของตนเอง และการสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้แล้ว การใช้หรือ หาแนวทางในการเรียนรู้ที่เหมาะกับตนเองและสิ่งที่จะเรียนรู้ก็นับว่าเป็น สิ่งที่สำ �คัญอีกองค์ประกอบหนึ่ง ผู้อ่านอาจมีแนวทางในการเรียนรู้ของ ตนเองอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ลองมาทำ �ความรู้จักแนวทางการเรียนรู้ต่อไปนี้ ซึ่งผู้อ่านอาจสามารถนำ �ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้ของตนเองได้ต่อไป • การทำ �ซ้ำ �: ศึกษาสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ซ้ำ �เป็นระยะ โดยเพิ่ม ระยะห่างของเวลาเรื่อยๆ • การแทรกสลับ: นำ �สิ่งที่เรียนรู้ในหลายๆ หัวข้อมาผสมกัน แล้วสุ่มเลือกอธิบายหัวข้อเหล่านั้นแทรกสลับไปมา Australian Curriculum, Assessment and Reporting Authority. Personal and Social Capability. Retrieved July 31, 2024, from https://www.australiancurriculum.edu.au/ f-10-curriculum/general-capabilities/personal-and-social-capability/. Cook, D. A. & Artino Jr, A. R. (2016). Motivation to Learn: an overview of contemporary theories. Medical education, 50 (10): 997-1014. European Parliament and the Council of the European Union. (2006). Recommendation of the European Parliament and of the Council of 18 December 2006 on Key Competences for Lifelong Learning. Official Journal of the European Union, 394 (December): 10-18. Hoskins, B. & Fredriksson, U. (2008). Learning to Learn: what is it and can it be measured? . European Commission JRC. OECD. (2019). Learning Compass 2030 Concept Note. https://www.oecd.org/education/2030-project/teaching-and-learning/learning/learning-compass-2030/. Schraw, G. & Moshman, D. (1995). Metacognitive theories. Educational Psychology Review, 7 : 351–371. Scott, C. L. (2015). The Futures of Learning 2: what kind of learning for the 21 st century? UNESCO Education Research and Foresight, Paris. [ERF Working Papers Series, No. 14. UNESCO International Bureau of Education. (2018). Comparative analysis of the national curriculum frameworks of five countries: Brazil, Cambodia, Finland, Kenya and Peru. https://unesdoc.unesco.org/ark: /48223/pf0000263831. บรรณานุกรม
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5