นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 252

ปีที่ 53 ฉบับที่ 252 มกราคม - กุมภาพันธ์ 2568 25 กรณีที่มีทีมแข่งขันจำ �นวน 3 ทีม การแสดงบทบาทของแต่ละฝ่ายในการแข่งขัน (The Team Performance in the Stage) เป็นดังนี้ กรณีที่มีทีมแข่งขันจำ �นวน 4 ทีม การดำ �เนินงานเกี่ยวกับกิจกรรมฟิสิกส์สัประยุทธ์ในประเทศไทย สสวท. ร่วมกับสำ �นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดอบรมปฎิบัติการให้กับครูและนักเรียนที่สนใจ และจัดการแข่งขันฟิสิกส์สัประยุทธ์ระดับชาติเป็นประจำ �ทุกปี โดยคัดเลือก จากโจทย์ฟิสิกส์สัประยุทธ์ที่ใช้แข่งขันในระดับนานาชาติ 17 ข้อ คัดเลือกเหลือจำ �นวน 10 ข้อ นอกจากนั้น สสวท. ยังมีหน้าที่ในการ อบรมปฎิบัติการและเตรียมความพร้อมให้ทีมผู้แทนประเทศไทยที่จะเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ โดยทั่วไปการจัดการแข่งขัน ฟิสิกส์สัประยุทธ์แบ่งเป็นรอบคัดเลือกและรอบชิงชนะเลิศ ในรอบคัดเลือกจะแข่งขันแบบแบ่งสายการประกบคู่แข่งขันโดยแต่ละสาย จะประกอบด้วยทีมแข่งขันจำ �นวน 3 หรือ 4 ทีม ขึ้นกับจำ �นวนทีมที่เข้าแข่งขัน ในการแข่งขันระดับนานาชาติรอบคัดเลือกจะมี การแข่งขันทั้งหมด 5 รอบ เมื่อเสร็จสิ้นจะนำ �คะแนนรวมของการแข่งขันมาจัดลำ �ดับ ทีมที่มีคะแนนรวมสูงที่สุด 3 อันดับแรก จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ อาจมีการพิจารณาให้สิทธิ์ทีมเข้าชิงชนะเลิศเป็น 4 ทีมได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ ของคณะกรรมการตัดสินในแต่ละการแข่งขัน การแข่งขันแต่ละรอบประกอบด้วย 3 หรือ 4 ยก (Stage) ขึ้นอยู่กับจำ �นวนของ ทีมที่เข้าแข่งขันในรอบนั้นๆ กล่าวคือ ถ้ามี 3 ทีมจะแข่ง 3 ยก หรือ ถ้ามี 4 ทีม จะแข่ง 4 ยก โดยแต่ละทีมจะได้รับบทบาท แตกต่างกันในแต่ละยก ดังนี้ ทีม 1 ทีม 2 ทีม 3 ทีม ทีม ยก ยก ฝ่ายนำ �เสนอ ฝ่ายซักค้าน ฝ่ายวิพากษ์ ฝ่ายสังเกตการณ์ มีหน้าที่นำ �เสนอคำ �ตอบของปัญหาในส่วนสาระสำ �คัญโดยต้องบ่งชี้ให้ผู้ฟังเห็นถึงแนวคิด หลักการทาง ฟิสิกส์ และข้อสรุปที่สมเหตุสมผล เพื่อให้ทีมอื่นๆ และคณะกรรมการยอมรับในทฤษฎีและผลของการ ทดลองของฝ่ายนำ �เสนอ มีหน้าที่ตั้งคำ �ถามและวิจารณ์ประเด็นต่างๆ ที่ฝ่ายนำ �เสนอได้นำ �เสนอ โดยต้องชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่อาจ เป็นความคลาดเคลื่อนจากการตีโจทย์ปัญหาและการทดลองของฝ่ายนำ �เสนอ วิเคราะห์ข้อเด่นข้อด้อย ของทั้งคำ �ตอบและการนำ �เสนอของฝ่ายนำ �เสนอด้วย ทั้งนี้ ฝ่ายซักค้านไม่ควรนำ �เสนอคำ �ตอบของตนเอง ในระหว่างการอภิปรายซักค้าน มีหน้าที่ให้คำ �ชี้แนะเกี่ยวกับการแสดงบทบาทของฝ่ายนำ �เสนอและฝ่ายซักค้าน มีหน้าที่สังเกตการนำ �เสนอของฝ่ายนำ �เสนอ ฝ่ายซักค้าน และฝ่ายวิพากษ์ เท่านั้น ทีม 1 ทีม 2 ทีม 3 ทีม 4 1 นำ �เสนอ ซักค้าน วิพากษ์ 1 นำ �เสนอ ซักค้าน วิพากษ์ สังเกตการณ์ 2 วิพากษ์ นำ �เสนอ ซักค้าน 2 สังเกตการณ์ นำ �เสนอ ซักค้าน วิพากษ์ 3 ซักค้าน วิพากษ์ นำ �เสนอ 3 วิพากษ์ สังเกตการณ์ นำ �เสนอ ซักค้าน 4 ซักค้าน วิพากษ์ สังเกตการณ์ นำ �เสนอ รูปแบบการแข่งขันฟิสิกส์สัประยุทธ์ มีการโต้ตอบกันระหว่าง 3 บทบาท เริ่มต้นด้วยฝ่ายนำ �เสนอต้องนำ �เสนอโจทย์ และวิธีการทดลองเพื่ออธิบายปรากฏการณ์ของโจทย์จากหลักฐานการทดลอง ทฤษฎี หรือตัวแปรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายซักค้านจะต้อง หาจุดอ่อนของฝ่ายนำ �เสนอเพื่อค้านข้อเสนอของฝ่ายนำ �เสนอ จากหลักฐานการทดลอง ทฤษฎี หรือตัวแปรอื่นๆ ที่ตนเองยกมา และฝ่ายวิพากษ์จะเป็นผู้สรุปการโต้แย้งของทั้ง 2 ฝ่าย โดยมีคณะกรรมการเป็นผู้ตัดสิน ฝ่ายใดแสดงบทบาทและทำ �การทดลองได้ ครอบคลุมตามที่โจทย์กำ �หนดมากที่สุดตามเกณฑ์ในการให้คะแนนของการแข่งขันฟิสิกส์สัประยุทธ์ ดังนั้น ในกระบวนการแข่งขัน ฟิสิกส์สัประยุทธ์จึงมีการโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นไปพร้อมกัน เริ่มจากฝ่ายนำ �เสนอที่ต้องยกข้อกล่าวอ้าง (Claim) หลักฐาน (Evidence) จากการทดลอง และเหตุผล (Rationale) สมมติฐาน หรือทฤษฎี มาใช้อธิบายการทดลองของตนเอง เช่นเดียวกันกับ ฝ่ายซักค้านที่ต้องหาข้อกล่าวอ้างเพื่อค้านผลการกล่าวอ้างของฝ่ายนำ �เสนอจากหลักฐานและเหตุผล จึงนำ �มาสู่การส่งเสริมทักษะ