นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 252
ปีที่ 53 ฉบับที่ 252 มกราคม - กุมภาพันธ์ 2568 35 ภาพ 3 แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของวิธีการรักษามะเร็งปอด ด้วยภูมิคุ้มกันบำ �บัด ซึ่งเป็นการรักษาที่มุ่งเน้นการใช้ระบบภูมิคุ้มกันของ ร่างกายเองในการต่อสู้กับมะเร็ง โดยแต่ละวิธีการจะมีกลไกการทำ �งานที่ แตกต่างกันไป ซึ่งเป็นการใช้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเองในการต่อสู้กับ เซลล์มะเร็ง วิธีการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำ �บัดที่สำ �คัญมี 4 ประเภท ดังนี้ Checkpoint Inhibitors เป็นยาที่ไปบล็อกจุดตรวจที่เซลล์มะเร็ง ใช้หลบหลีกระบบภูมิคุ้มกัน ทำ �ให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถตรวจพบและ ทำ �ลายเซลล์มะเร็งได้ Monoclonal Antibodies เป็นแอนติบอดีสังเคราะห์ที่ออกแบบ มาให้จับกับโปรตีนเฉพาะบนเซลล์มะเร็ง ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถ โจมตีเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ � Cancer Vaccines เป็นวัคซีนที่กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันสร้าง ภูมิคุ้มกันต่อเซลล์มะเร็ง ช่วยให้ร่างกายสามารถจำ �แนกและทำ �ลายเซลล์มะเร็ง ได้ในอนาคต Adoptive T cell Therapies เป็นการนำ �เซลล์ T ของผู้ป่วยออกมา ดัดแปลงในห้องปฏิบัติการให้มีความสามารถในการต่อสู้กับเซลล์มะเร็งมากขึ้น จากนั้นนำ �กลับไปฉีดให้ผู้ป่วย การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำ �บัดเป็นการรักษาที่ซับซ้อนและผลลัพธ์ ภาพ 3 วิธีการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำ �บัด ที่มา: https://www.verywellhealth.com/immunotherapy-for-lung-cancer-7852137 จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำ �แนะนำ �ที่ เหมาะสมกับแต่ละรายบุคคล และในประเทศไทยมีรายงานความก้าวหน้า ทางการแพทย์ ซึ่งผู้เขียนได้สืบค้นมาจากแหล่งข่าวเพื่อเป็นตัวอย่างให้ผู้อ่าน ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้ ยาภูมิคุ้มกันบำ �บัดฉีดใต้ผิวหนังผ่าน อย.แล้ว เพิ่มทางเลือกรักษา “มะเร็งปอด” เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ได้มีการจัดบรรยายพิเศษเรื่อง ความจริงเกี่ยวกับมะเร็งปอดในไทย : สถิติและปัจจัยเสี่ยงที่ต้องรู้ ในงาน เปิดตัวนวัตกรรมยารักษาโรคมะเร็งปอดรูปแบบใหม่ โดย นพ.ยศวัจน์ รุ่งโรจน์วัฒนา อายุรแพทย์ สาขามะเร็งวิทยา คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล กล่าวว่า ยาภูมิคุ้มกันบำ �บัดเดิมมักให้ทางหลอดเลือดดำ �ผ่านสายน้ำ �เกลือ แต่ปัจจุบันในต่างประเทศมีการใช้แบบฉีดใต้ผิวหนัง ซึ่ง อย. ไทยเพิ่งผ่าน การรับรอง จึงเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ป่วย ทั้งนี้ ปกติใต้ผิวหนัง จะสามารถฉีดยาเข้าไปได้ประมาณ 1 - 2 มิลลิลิตร หากเกินกว่านั้นจะมี อาการบวมและปวด แต่ยาภูมิคุ้มกันบำ �บัดแบบฉีดใต้ผิวหนัง มีการใช้ เทคโนโลยี Halozyme Therapeutics Drug Delivery Technology หรือ เอนฮานซ์ โดยใช้เอนไซม์ “ไฮยาลูโรนิคเดส” ฉีดเข้าไปเพื่อสลายไฮยาลูโรแนน ในชั้นใต้ผิวหนังทําให้เกิดช่องว่างชั่วคราวภายใต้ชั้นผิวหนัง จึงสามารถ เพิ่มปริมาณยาที่ฉีดเข้าไปได้ ซึ่งภูมิคุ้มกันบำ �บัดเราใช้ประมาณ 15 มิลลิลิตร โดยคนไข้ไม่มีอาการบวมปวด ผลข้างเคียงจากยาน้อยมาก ซึ่งนวัตกรรมนี้ มีการนำ �มาใช้ในยาเบาหวานด้วย จากการศึกษาทางคลินิก พบว่าการให้ยาฉีดใต้ผิวหนังเทียบกับ ให้ยาทางหลอดเลือดดํา ปริมาณยาที่ใช้ไม่น้อยลง ระดับยาในเลือด ผลการตอบสนองต่อยา ผลข้างเคียงต่างๆ ประสิทธิภาพและ ความปลอดภัยไม่แตกต่างกัน แต่จะไม่มีอาการแพ้ยาขณะหยดยาทาง หลอดน้ำ �เกลือ สามารถบริหารยาสะดวกขึ้นใช้เวลาน้อยลง เพราะการหยด ทางหลอดเลือดดำ �ต้องใช้เวลาในการผสมยากับน้ำ �เกลือปริมาณ 100 - 250 มิลลิลิตร และต้องใช้เวลาในการหยดต่อเนื่องอีกราว 1 ชั่วโมง แต่การฉีด ใต้ผิวหนังใช้ง่ายมากใช้เวลา 4 - 8 นาที เฉลี่ย 7 นาที ทำ �ให้คนไข้ กลับบ้านได้เร็วขึ้นและไปใช้ชีวิตประจําวันได้ตามที่ต้องการ ช่วยลด ปริมาณงานบุคลากร เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลช่วยเหลือคนไข้ได้ดียิ่งขึ้น (ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์) Jennifer Welsh. (2025). Lung Cancer Immunotherapy. Retrieved January 13, 2025, from https://www.verywellhealth.com/immunotherapy-for-lung-cancer-7852137. Malignant Neoplasm. Retrieved January 13, 2025, from https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/22319-malignant-neoplasm. ผู้จัดการออนไลน์. (2567). ยาภูมิคุ้มกันบำ �บัดฉีดใต้ผิวหนังผ่าน อย.แล้ว เพิ่มทางเลือกรักษา “มะเร็งปอด” ลดเวลารักษา คนไข้กลับบ้านได้เร็ว . สืบค้นเมื่อ 13 มกราคม 2562568, จาก https://mgronline.com/qol/detail/9670000059562. บรรณานุกรม
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5