นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 252
60 นิตยสาร สสวท. ทำ �ลายตลาดงาน โดยรวมแล้วรายงานฉบับนี้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่ AI จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำ �คัญต่อตลาดแรงงาน ทั้งในด้านการลดจำ �นวน พนักงาน การเปลี่ยนแปลงทักษะที่จำ �เป็น และความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ อนาคตของการทำ �งาน สุดท้ายจากเรื่องราวที่ต่ายนำ �เสนอ ต่ายเชื่อว่า น่าจะมีส่วนช่วยให้ คุณเข้าใจและเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอันเป็นผลกระทบ มาจากการเข้ามาของเทคโนโลยี AI ซึ่งจะค่อยๆ เข้ามาแทนที่อาชีพที่ใช้ ทักษะในแบบที่ AI สามารถทำ �ได้ เช่น งานที่มีรูปแบบของการทำ �แบบ เดิมๆ ซ้ำ �ๆ เช่น แคชเชียร์ หรือพนักงานเก็บเงินในร้านขายของหรือ ซูเปอร์มาร์เก็ตที่สามารถใช้ AI ทำ �งานร่วมกับกล้องร่วมกับระบบเซนเซอร์ ตรวจจับบาร์โคด โดยเริ่มใช้งานแล้วในหลายๆ ร้าน เช่น Amazon Go’s ในเมืองไทยก็มีร้าน Lotus’s Pick & Go ที่ใช้ระบบ True Virgo AI ที่พัฒนาโดย True Digital นอกจากนี้ ยังมีอาชีพอื่นๆ ที่มีความเสี่ยง ที่จะถูกแทนที่ เช่น นักแปล พนักงานโรงงาน นักข่าว พนักงานป้อน ข้อมูล พนักงานรักษาความปลอดภัย (ที่สามารถใช้หุ่นยนต์สุนัขแทนได้) ผู้ตรวจสอบเอกสาร นักวิเคราะห์การตลาด เจ้าหน้าที่ปล่อยสินเชื่อ เจ้าหน้าที่บริการลูกค้า และถ้า AI พัฒนาไปเพิ่มขึ้น ก็จะถูกนำ �มาใช้แทน อาชีพอื่นๆ ได้มากขึ้น ดังนั้น ทุกคนมีความจำ �เป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่ง พัฒนาทักษะที่จำ �เป็นและทักษะที่ก้าวหน้ากว่าที่เคยทำ �ได้ เพื่อทำ �ให้ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของการจ้างงานได้ หรืออย่างน้อยก็ต้อง มีความสามารถในการนำ � AI ไปใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพใน การทำ �งานได้ และเช่นเดิม หากสนใจหรืออยากให้ต่ายติดตามเรื่องราว อะไรเป็นพิเศษ ก็สามารถเขียน email ส่งมาบอกกล่าว หรือมาคุยกับต่าย ได้เหมือนเดิมที่ funny_rabbit@live.co.uk Pedro Domingos ได้กล่าวไว้ว่า “AI will not replace us, it will amplify us.”ิ ต ต่าย แสนซน เนื่องจากบริษัทได้หันมาใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลผลการเรียนเพื่อแปลเนื้อหา และปรับปรุงเนื้อหาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเนื่องจากพนักงานเหล่านี้ ไม่ใช่พนักงานประจำ � จึงถือได้ว่าไม่มีพนักงานคนใดของบริษัทถูกเลิกจ้าง อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม โฆษกของ Duolingo ได้อธิบายว่า ส่วนหนึ่งของการตัดสินใจที่จะยุติสัญญาเหล่านี้ “มาจาก AI” ซึ่งเป็นการ ส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากว่าบริษัทพร้อมที่จะเลิกใช้แรงงานมนุษย์ทำ �ในส่วนนี้ และหันมาใช้ AI ให้ทำ �งานแทน และบริษัทที่ต่ายเชื่อว่าคนไทยทุกคน ต้องรู้จัก นั่นคือ Google ที่ได้เริ่มต้นปีใหม่ปีที่แล้วก่อนใคร ด้วยการ ประกาศการเลิกจ้างสองรอบ โดย Sundar Pichai ซีอีโอของ Google ไม่ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่างานเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี AI โดยตรง อย่างไรก็ตาม การลดจำ �นวนงานซึ่งส่วนใหญ่ส่งผลกระทบต่อ พนักงานจากแผนกโฆษณาของบริษัทเกิดขึ้นพร้อมกับการนำ � AI ไปใช้ อย่างหนักในกระบวนการดูแลลูกค้าและการขายโฆษณา รวมไปถึงความ พยายามทั่วทั้งบริษัทในการที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุง “ประสิทธิภาพ การดำ �เนินงาน” ในทุกๆ ส่วนงานของ Google ในปี พ.ศ. 2568 นี้ มีการคาดการณ์ว่าจะมีการเลิกจ้าง พนักงานในบริษัทที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีในหลายๆ บริษัท โดยมีสาเหตุหลัก มาจากการปรับโครงสร้างบริษัทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน รวมถึง การนำ � AI เข้ามาใช้ซึ่งส่งผลให้งานบางตำ �แหน่งไม่จำ �เป็นอีกต่อไป เช่น Meta ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 5% หรือประมาณ 3,600 คน จากพนักงาน ทั้งหมด 72,000 คน โดยพุ่งเป้าไปที่พนักงานที่มีผลการประเมินการทำ �งานต่ำ � ก่อน และจะแจ้งให้พนักงานแต่ละคนรู้ตัวภายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ และถ้าคุณๆ ตามข่าวประเภทนี้อยู่จะพบว่า ในปี พ.ศ. 2565 - 2566 META ได้ปลดพนักงานออกไปแล้วประมาณ 21,000 คน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ของจำ �นวนพนักงานทั้งหมด และแม้แต่บริษัทใหญ่อย่าง Microsoft ก็ได้ ประกาศว่ามีแผนที่จะปรับลดจำ �นวนพนักงานลงด้วยเช่นกัน เพียงแค่ยัง ไม่ได้ระบุจำ �นวนออกมาเท่านั้นเอง และล่าสุดข้อมูลจากรายงาน “Future of Jobs” ของ World Economic Forum (WEF) เกี่ยวกับผลกระทบของ AI ต่อการจ้างงาน แสดงให้เห็นว่า 1) ภายในปี พ.ศ. 2573 บริษัททั่วโลก วางแผนที่จะลดจำ �นวนพนักงานลง เนื่องจากการเพิ่มขีดความสามารถของ AI ที่เพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ว่าจะทำ �ให้มีจำ �นวนพนักงานลดลงไปประมาณ 41% เลยทีเดียว เมื่อเทียบกับตำ �แหน่งงานที่กำ �ลังทำ �อยู่ในขณะนี้ 2) 77% ของธุรกิจวางแผนที่จะ Upskill หรือ Reskill พนักงานที่มีอยู่ เพื่อให้ สามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างเต็มที่ โดยเน้นการทำ �งานร่วมกัน ระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยีขั้นสูง 3) เกือบ 70% ของบริษัทวางแผนที่จะ จ้างพนักงานที่มีทักษะในการสร้างเครื่องมือและส่วนปรับปรุง AI ใหม่ๆ และ 62% จะมองหาพนักงานที่มีความสามารถในการทำ �งานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4) ในรายงานฉบับนี้ ได้เน้นย้ำ �ถึงศักยภาพของ AI ในการเสริมสร้างผลผลิตของมนุษย์มากกว่าที่จะเข้ามาแทนที่โดย สมบูรณ์ โดยยังคงให้ความสำ �คัญกับ “ทักษะที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง” และประเด็นสุดท้าย 5) เกิดความกังวลเกี่ยวกับ AI ในเรื่องของความมั่นคง ในการทำ �งานในยุค AI เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีการเลิกจ้างงานในภาค เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความก้าวหน้าของ AI และความกังวลว่า AI อาจ
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5