นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 253

12 นิตยสาร สสวท. อย่างเต็มที่ บวกกับความรู้สึกว่าการเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยจะสร้าง องค์ความรู้ให้กับโลกได้ จึงตัดสินใจรับทุนโอลิมปิกวิชาการเพื่อไปเรียนต่อ ที่ประเทศอังกฤษทางด้านเคมี โดยมีเหรียญโอลิมปิกเป็นใบเบิกทาง ที่ดีสู่การเข้า Oxford มหาวิทยาลัยชั้นนำ �ของโลก ด้วยองค์ความรู้เดิม ที่ได้จากค่ายโอลิมปิกทำ �ให้การเรียนเคมีปีแรกผ่านไปด้วยดีและได้ ผลการเรียนเป็นอันดับที่ 1 ของภาควิชา จากเพื่อนประมาณ 180 คน จึง ทำ �ให้อาจารย์คาดหวังกับเรามากพอสมควร หรืออาจจะเป็นตัวเราที่นำ � ผลการเรียนมากดดันตัวเองหลังจากปีนั้น การเรียนที่ Oxford มีเพื่อนศักยภาพสูงมาจากหลากหลาย ประเทศ หลายคนก็ผ่านเวทีโอลิมปิกวิชาการมาด้วยเหมือนกัน และที่สำ �คัญ คือ ระบบการเรียนการสอนจากหลายประเทศที่เพื่อนเรียนมา เน้นการเรียน แบบคิดแก้ปัญหา คิดสร้างสรรค์ คิดนอกกรอบ ไม่เน้นท่องจำ �หรือสอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องปรับตัวสูงจากระบบการเรียนจากประเทศไทยที่อาจ เน้นการสอบเป็นหลัก การเรียนระดับอุดมศึกษาที่ประเทศอังกฤษทำ �ให้ผมรู้สึกว่า เรื่องหลายเรื่องที่เราอาจจะไม่เคยสงสัยหรือตั้งคำ �ถามเลย เขากลับให้ ความสนใจและตั้งคำ �ถามกัน ขอยกตัวอย่างจากคำ �ถามที่ชอบถามในการ สัมภาษณ์เข้าเรียน Oxford ว่าทำ �ไมท้องฟ้าถึงเป็นสีฟ้า จริงๆ เราก็ไม่เคย ตั้งคำ �ถามนี้กับตัวเองเพราะว่าเราก็รู้มาตลอดว่าท้องฟ้าเป็นสีฟ้า หรือเรียน แบบจำ �มาตลอดว่าสิ่งนี้คือสีฟ้านะ แต่การเรียนที่นั่น เค้าจะให้เราคิดครับ ว่าทำ �ไมท้องฟ้าถึงเป็นสีฟ้า ให้เข้าใจหลักการ ไปศึกษาค้นคว้าให้ได้คำ �ตอบ อย่างแท้จริง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นนักวิจัยที่ดีครับ พอมาปีที่สอง ความรู้จากค่ายโอลิมปิกก็เหลือน้อยลง ต้องเรียน แบบทำ �ความเข้าใจและต้องขยันอ่านหนังสือมากขึ้น ปีสองผมทำ �กิจกรรม เยอะขึ้นพอสมควร เป็นประธานสมาคมนักเรียนไทยที่ Oxford ได้จัด กิจกรรม สนุกดีนะครับ ได้รู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มีภูมิหลังที่หลากหลาย แตกต่างกัน แต่ก็แลกมาด้วยผลการเรียนที่ตกลงมา จากการแบ่งเวลา ทำ �ให้ในปีที่สามมีความกดดันพอสมควร ในปีที่สามผมพยายามจัดเวลาตัวเองให้ดีขึ้น จัดลำ �ดับความสำ �คัญ ของสิ่งที่จะต้องทำ � ยังทำ �กิจกรรมแต่ก็แบ่งเวลาในการทบทวนหนังสือมากขึ้น ซึ่งผลการเรียนมีความสำ �คัญมากในการสมัครเรียนต่อปริญญาเอก ยังดี ที่กลับมาจัดระเบียบกับตัวเองทันครับ เลยทำ �ให้ผลการเรียนกลับมาอยู่ ในจุดที่ใช้การได้ ผมได้เรียนรู้ความสำ �คัญของการวางแผนเวลากับการรักษา สมดุลระหว่างความสามารถ (Capability) กับศักยภาพ (Capacity) เราอาจจะมีความสามารถในการทำ �ได้หลายอย่าง แต่เราอาจจะไม่มีเวลา พอที่จะทำ �ได้ทุกอย่างพร้อมกัน การผ่านค่ายโอลิมปิกมีประโยชน์อีกอย่างหนึ่งคือ เราได้ผ่าน การทำ �แล็บในระดับมหาวิทยาลัย ทำ �ให้เรามีพื้นฐานด้านงานวิจัยที่ดี สิ่งนี้ ทำ �ให้ผมได้รับโอกาสฝึกทำ �การวิจัย (Research Internship) ได้ในช่วง ปิดเทอมของทุกปี ตั้งแต่เรียนปีแรก ซึ่งก็ทำ �ให้ผมรู้จักตัวเองมากขึ้นว่าชอบ ทำ �เคมีในด้านไหน ด้วยความโชคดีตอนอยู่ปริญญาตรี ปีที่สองได้มีโอกาส ทำ �งานวิจัยแล้วประสบผลสำ �เร็จได้ตีพิมพ์เปเปอร์ชื่อแรกทำ �ให้เป็น ใบเบิกทางในการสมัครและได้ทุนจากมหาวิทยาลัยในระดับปริญญาเอกครับ การวางแผนอนาคตหลังสำ �เร็จการศึกษา การเป็นนักเรียนทุนอาจจะทำ �ให้แผนอนาคตเหลือทางเลือก ไม่มาก ผมขอย้อนกลับไปตอนที่ผมเลือกสมัครเรียนต่อปริญญาเอก ตอนนั้นถ้าจบปริญญาโทด้านเคมีแล้วกลับมาทำ �งานใช้ทุนที่ประเทศไทย เลย ก็จะมีอาชีพที่ทำ �ได้ค่อนข้างจำ �กัด หรือตอนนั้นผมอาจจะยังไม่ได้มี ประสบการณ์ในการรู้ได้ว่ามีอะไรที่ทำ �ได้บ้างก็ได้ ผมจึงตัดสินใจเรียนต่อ ปริญญาเอก โดยได้รับทุนให้เปล่าจากมหาวิทยาลัย Cambridge โดย ศึกษาต่อในโครงการปริญญาโทควบเอกด้านนาโนเทคโนโลยี (NanoDTC)

RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5