นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 253

14 นิตยสาร สสวท. ต่างๆ ได้ดี พอมาถึงการแก้ปัญหาและการหาข้อมูลเพื่อแก้ปัญหา เรื่องนี้ ก็ได้รับมาเต็มๆ จากการปลูกฝังความเป็นนักวิจัยที่ต้องมีคำ �ถามและ หาคำ �ตอบอยู่เสมอ หลังจากนั้นก็จะมาเป็นส่วนสุดท้ายครับ ก็คือเรื่อง การวางแผนหลังจากได้แนวทางการแก้ปัญหา ซึ่งจะประกอบไปด้วยการ จัดลำ �ดับความสำ �คัญ แล้วก็จัดผู้รับผิดชอบให้ถูกต้องและวางตารางเวลา ให้เหมาะสม ซึ่งในส่วนนี้ก็ได้ฝึกจากการบริหารตัวเองในการใช้ชีวิตที่ ต่างประเทศเป็นอย่างดีครับ ทักษะที่ติดตัวมาส่งผลต่ออาชีพปัจจุบันอย่างไร ตอนนี้ผมเป็นที่ปรึกษาที่ DGA คิดว่าได้ใช้ทักษะและความรู้ ที่ฝึกมาทางด้านดิจิทัลในการช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกที่จับต้องได้ ผมเรียนรู้ว่าการมีทักษะในหลายๆ ด้านเป็นเรื่องสำ �คัญ วิทยาศาสตร์ ภาคธุรกิจ นโยบาย เกี่ยวข้องกันหมด ทักษะที่ได้ใช้ในหน้าที่การงานตอนนี้ เกิดจากประสบการณ์การทำ �งานที่ผ่านมาครับ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ทางด้านเทคนิคเพื่อให้เข้าใจในเทคโนโลยี การสื่อสารกับ คนในทุกระดับ รวมถึงการวางแผนงานและจัดการปัญหา ความคาดหวังในอนาคต ผมอยากมีโอกาสนำ �ประสบการณ์และ ความรู้ทั้งทางด้านเทคนิคและทักษะต่างๆ ไปช่วยพัฒนาประเทศในด้าน อื่นๆ ด้วยครับ ทั้งงานด้านวิทยาศาสตร์ ช่วยขับเคลื่อนภาคธุรกิจ หรือ ด้านการศึกษา ก็อยากมีโอกาสถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้ที่จะมี ประโยชน์ต่อหลายๆ คน สำ �หรับความคาดหวังต่อผู้ดูแลระดับนโยบายหรือด้านโครงสร้าง การทำ �งาน อยากให้หน่วยงานต่างๆ เปิดกว้างและให้โอกาสการเปลี่ยนแปลง ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น เปิดรับไอเดียและแนวคิดจากหลายๆ ด้าน พร้อม เรียนรู้ไปด้วยกันเพื่อสร้างบรรยากาศให้นักเรียนทุนและเยาวชนรุ่นใหม่มี กำ �ลังใจในการช่วยกันพัฒนาประเทศครับิ ต อันดับแรกเลยคือ ด้านการใช้ชีวิตและการบริหารตัวเอง นักเรียนทุนไปอยู่ ต่างประเทศต้องบริหารเรื่องการเงิน เวลา และความกดดันครับ ต้อง จัดการเองทุกอย่างให้ได้ ตั้งแต่จบ ม.ปลาย ทำ �ให้ผมรู้จักการออม ศึกษา การลงทุน หารายได้เสริม… ผมเคยเริ่มหารายได้ตั้งแต่เข้าไปช่วยกวาดพื้น โรงอาหารที่โรงเรียนตอนไปปีแรก ไปถึงสอนพิเศษตามโรงเรียนต่างชาติ เพื่อจัดการการเงินให้ดีและคุ้มกับการที่เราต้องเรียนนานแล้วเริ่มทำ �งานช้า ครับ สำ �หรับการบริหารเวลา ในการใช้ชีวิตอยู่กับตัวเอง การบริหาร เวลาที่ดีจำ �เป็นมากๆ เพื่อไม่ให้เถลไถลจนเกินเหตุ และอีกอย่างคือการ ผ่านสภาวะกดดัน รวมถึงสิ่งไม่คาดคิดครับ หรือการยอมรับความผิดหวัง ทำ �ให้ผมมองโลกบวกแต่ไม่ใช่โลกสวย และไม่ได้เป็นพวกที่มีอุดมคติ (Perfectionist) สูงเกินไป ในด้านมุมมอง ทัศนคติต่างๆ จากการเรียนมหาวิทยาลัยทำ �ให้ เป็นคนเปิดกว้างมากขึ้น รู้จักหาโอกาส ทันโลก ซึ่งเกิดจากการไปอยู่ใน สภาพแวดล้อมที่แปลกไปจากสิ่งที่เราโตมา บวกกับการไปเรียนเป็นนักวิจัย ก็ส่งเสริมมุมมองการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำ �หรับ การสร้างแนวคิดการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาบนพื้นฐานของความ เป็นไปได้และความถูกต้อง นอกจากนี้ การเจอคนที่มีภูมิหลังที่แตกต่างกัน ทำ �ให้เรายอมรับความคิดที่หลากหลายและแตกต่าง รวมถึงได้ทักษะ การสื่อสารจากการทำ �งานร่วมกันกับบุคคลเหล่านี้ ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่ได้รับจากโครงการโอลิมปิก ทั้งก่อนและหลัง รับทุนครับ ส่วนการนำ �มาประยุกต์ใช้กับงานปัจจุบันผมคิดว่าสำ �คัญมาก ตัวอย่างเช่น ตอนนี้ผมเป็นที่ปรึกษาองค์กร เริ่มจากการมองภาพใหญ่ การเข้าใจสถานการณ์เป็นสิ่งสำ �คัญมาก ซึ่งได้จากการมีมุมมองที่เปิดกว้าง และรู้ทันโลกครับ เรื่องที่สองคือ เรื่องการสื่อสารที่ดี ซึ่งทำ �ให้เราสามารถ เข้าใจโจทย์ความต้องการของทุกฝ่าย สื่อสารกับทีมงานหรือผู้เกี่ยวข้อง

RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5