นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 253

44 นิตยสาร สสวท. ปัจจุบันนี้ มีการแข่งขันกันทางด้านธุรกิจที่เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ในทุกๆ ด้าน ทำ �ให้ เกิดการแข่งขันกันพัฒนาระบบ AI กันอย่างมาก และในด้านการศึกษาก็เช่นเดียวกัน AI กำ �ลังเปลี่ยนแปลงวงการการ ศึกษาโดยนำ �เสนอวิธีการและรูปแบบใหม่ๆ ในการสร้างความสนใจให้กับนักเรียน จัดการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคลหรือ เรียนตามความต้องการของแต่ละคน (Personalized Learning) และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ �ความเข้าใจทาง วิทยาศาสตร์ แม้ว่าส่วนใหญ่มีการพูดถึง AI ในเชิงวิชาเฉพาะทางเหมือน Standalone Subject เช่น วิชาคณิตศาสตร์ วิชาฟิสิกส์ วิชาเคมี แต่การนำ � AI มาใช้ร่วมในชั้นเรียนวิทยาศาสตร์สามารถส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ของนักเรียนที่มีต่อแนวคิด ทางวิทยาศาสตร์ได้ บทความนี้จะนำ �เสนอแนวทางหรือวิธีการที่จะนำ � AI มาใช้ในการเรียนและการสอนวิทยาศาสตร์ ทั้งในระดับประถมและมัธยมศึกษา พร้อมยกตัวอย่างและวิธีการเบื้องต้นที่จะทำ �ให้ครูสามารถนำ � AI ไปใช้ได้อย่างมี ประสิทธิภาพในอนาคต ทำ �ไมต้องใช้ AI ในการสอนวิทยาศาสตร์ AI มีศักยภาพอย่างมากในการแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับครู และ ยังสามารถสร้างประสบการณ์ในการเรียนรู้ที่ดีขึ้นสำ �หรับนักเรียนด้วย ดังตัวอย่างต่อไปนี้ 1. การเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล: AI จะช่วยตอบโจทย์ความ แตกต่างของการเรียนรู้ของแต่ละบุคคลได้ 2. การสร้างความสนใจ: การเลือกใช้ AI ที่มีปฏิสัมพันธ์สามารถ ทำ �ให้วิทยาศาสตร์ดูน่าสนใจและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น 3. ประสิทธิภาพ: AI สามารถทำ �งานบริหารจัดการอัตโนมัติ ช่วยให้ครูมีเวลาโฟกัสกับการสอนมากขึ้น 4. ข้อมูลเชิงลึก: AI สามารถวิเคราะห์ผลการเรียนของนักเรียน เพื่อระบุปัญหาของการเรียนรู้และนำ �ไปสู่การปรับกลยุทธ์ในการสอนของ ครูได้ ในการปรับเนื้อหาการเรียนรู้ เมื่อ AI ได้รับข้อมูลของนักเรียน แต่ละคนแล้ว AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลของนักเรียนแต่ละคน เช่น ความรู้ พื้นฐานก่อนเรียน ความสนใจ และสไตล์การเรียนรู้ เพื่อปรับเนื้อหาและ ระดับความยากง่ายของบทเรียนให้เหมาะสมกับแต่ละคนได้ ข้อมูลจาก งานวิจัยของ Kulik และ Fletcher (2016) พบว่าระบบการสอนด้วย AI (AI-Powered Tutoring Systems) สามารถช่วยให้นักเรียนมีความเข้าใจ เนื้อหาที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนที่เรียนช้า หรือ มีปัญหาในการเรียนรู้บางด้าน เช่น นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการ เรียนรู้ โดยในงานวิจัยได้ทำ �การวิเคราะห์อภิมาน (Meta-Analysis) ของ ระบบการสอนด้วย AI ที่อยู่ใน CAI (Computer-Assisted Instruction) และ ITSs (Intelligent Tutoring Systems) พบว่านักเรียนที่ใช้ระบบการสอน ด้วย AI มีผลการเรียนดีขึ้นอย่างมีนัยสำ �คัญ โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ และนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้หรือ เรียนช้าได้รับประโยชน์ค่อนข้างมากเช่นเดียวกัน เนื่องจากระบบสามารถ ปรับเนื้อหาและความเร็วในการสอนให้เหมาะสมกับความต้องการของ แต่ละคนได้ (Kulik & Fletcher, 2016) สำ �หรับ AI ที่อยู่ใน CAI จะเป็น Basic AI Elements ที่มีความสามารถจำ �กัดเมื่อเทียบกับ AI ในยุคปัจจุบัน เช่น สามารถกำ �หนดเส้นทางการเรียนรู้ของนักเรียนได้จาก การวิเคราะห์คำ �ตอบของนักเรียน และ AI ที่อยู่ในระบบ ITSs จะเป็น AI ที่ฉลาดกว่า AI ที่ใช้ใน CAI โดยสามารถปรับการเรียนรู้ของนักเรียนได้ มากกว่า สามารถให้ความช่วยเหลือนักเรียนได้ในขณะเรียน เช่น ให้คำ �ใบ้ คำ �ชม คำ �แนะนำ �ขณะเรียนได้ จากการศึกษาพบว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถช่วยครู วางแผนและดำ �เนินการทดลองทางวิทยาศาสตร์ในห้องเรียนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ (Kotsis, 2024) รวมทั้งนักศึกษาครูที่นำ � Copilot AI มาใช้ เป็นเครื่องมือช่วยในการจัดการเรียนการสอนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “AI ช่วยทำ �ให้สามารถเตรียมการสอนหรือวางแผนต่างๆ ได้ไวขึ้น” โดย สามารถใช้ช่วยในการเตรียมแผนการสอน สร้างวิธีการจัดการเรียนรู้แบบ นักเรียนเป็นศูนย์กลาง จัดทำ �สื่อการสอน สร้างตาราง ภาพประกอบต่างๆ และการจัดการเกี่ยวกับเอกสารที่จะใช้ในการวัดและประเมินผลได้ (Abualrob, 2025) AI ช่วยให้ครูสามารถปรับเนื้อหาและวิธีการสอนให้เหมาะสมกับ ความต้องการของนักเรียนแต่ละคนผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของ นักเรียนแต่ละราย AI สามารถสร้างแผนการเรียนรู้ที่เป็นส่วนตัว ช่วยให้ นักเรียนเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามเป้าหมายมากขึ้น นอกจากนี้ AI ยังสามารถช่วยลดภาระงานของครูในการตรวจสอบและ ประเมินผลการเรียนรู้ ทำ �ให้ครูมีเวลาให้คำ �ปรึกษาและส่งเสริมพัฒนาการ ของนักเรียนได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม การนำ � AI มาใช้ในการศึกษา ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม เช่น การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการขาด ปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนนักเรียน การสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ และการ ลดอคติที่อาจเกิดขึ้นจากข้อมูลและอัลกอริทึม (Maghsudi et al., 2021) อย่างไรก็ตาม การนำ � AI มาใช้ในห้องเรียนจำ �เป็นต้องคำ �นึง ถึงประเด็นทางจริยธรรม เช่น ความเป็นส่วนตัว ความเป็นธรรม ความโปร่งใส และควรมีการพัฒนาระบบ AI ที่เหมาะสมกับบริบทการศึกษาไทย โดยคำ �นึงถึงความต้องการเฉพาะของครูและนักเรียน นอกจากนี้ การอบรม เพื่อพัฒนาครูเกี่ยวกับการใช้ AI ในการสอนอย่างเหมาะสมและมี ประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำ �คัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ครูสามารถนำ � AI มาใช้ในการ พัฒนาการเรียนการสอนได้อย่างเต็มศักยภาพและสร้างประสบการณ์ การเรียนรู้ที่ดีที่สุดให้กับนักเรียน

RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5