นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 253

ปีที่ 53 ฉบับที่ 253 มีนาคม - เมษายน 2568 45 ตัวอย่างการใช้ AI ในชั้นเรียนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา และ มัธยมศึกษา 1. การนำ � AI มาใช้ร่วมกับสื่อการสอนประเภทต่างๆ ห้องปฏิบัติการเสมือนที่จำ �ลองการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ ทำ �ให้นักเรียนสามารถทำ �การทดลองในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและ ควบคุมได้ในรูปแบบที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้อย่างน่าสนใจ ตัวอย่างเช่น PhET Interactive Simulations ซึ่งพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยโคโลราโด โบลเดอร์ ที่มีการใช้ HTML5 ร่วมกับ Java หรือ Flash ในการจำ �ลอง การทดลองทางฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์และสถิติ และ โลกและ อวกาศ นักเรียนสามารถสำ �รวจแนวคิดต่างๆ ได้ เช่น ความหนาแน่น (Density) ระบบสุริยะของฉัน (My Solar System) ปรากฎการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect) หรือ รูปแบบและการเปลี่ยนแปลงของพลังงาน (Energy Forms and Changes) โดยไม่ต้องใช้วัสดุจริง นอกจากนี้ ยังมี เรื่องอื่นๆ ที่สามารถเลือกนำ �มาใช้ได้ทั้งในระดับมัธยมต้น มัธยมปลาย และมหาวิทยาลัย โดยสามารถเข้าไปเลือกใช้ได้ฟรีเป็นภาษาไทยได้ที่ https://phet.colorado.edu/th/ เมื่อนำ �มาใช้ในการสอนเรื่อง อุณหภูมิและความร้อน พบว่า PhET Simulation สามารถทำ �ให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน มัธยมศึกษาปีที่ 5 เพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับกลุ่มนักเรียนที่เรียนด้วยวิธี การสอนแบบเดิม และยังช่วยพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนด้วย (Haryadi และ Pujiastuti, 2020) และในระดับประถมศึกษา ที่มีการสอนเรื่อง “สถานะของสสารและการเปลี่ยนแปลงสถานะ” และ “การละลายและความอิ่มตัว” พบว่า PhET simulation ช่วยทำ �ให้นักเรียน เข้าใจแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ได้ง่ายขึ้น ช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมของ นักเรียน ทำ �ให้การเรียนรู้วิทยาศาสตร์น่าสนใจและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (Rayan et al., 2023) ครูสามารถใช้ AI ร่วมกับการใช้ PhET Simulation ได้ เช่น ใช้ AI ช่วยในการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบทดสอบเพื่อนำ �มาใช้ในการ จัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียน หรือการให้คำ �แนะนำ �ต่างๆ การสนับสนุนการ เรียนรู้อื่นๆ ที่เหมาะสม และสามารถใช้ AI ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลหรือ ให้คำ �แนะนำ �ตามพฤติกรรมของนักเรียนแต่ละคนได้ 2. ระบบการสอนส่วนตัวด้วย AI ตัวอย่างแพลตฟอร์ม เช่น Century Tech ที่สามารถทดลองใช้ได้ฟรี 7 วัน (https://www.century.tech/ ) ใช้ AI เพื่อสร้างเส้นทางการเรียนรู้ ที่เหมาะกับแต่ละคนในชั้นเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ระดับประถมและมัธยม โดย AI สามารถระบุจุดที่นักเรียนมีปัญหา เช่น การเข้าใจวัฏจักรน้ำ � และให้แบบฝึกหัดและคำ �อธิบายที่ตรงจุดเพื่อเสริม การเรียนรู้ได้ 3. การประเมินผลด้วย AI AI สามารถตรวจสอบและให้คำ �ติชมโดยละเอียดเกี่ยวกับการบ้าน วิทยาศาสตร์ เช่น เครื่องมือ Gradescope ใช้ AI ประเมินคำ �ตอบจากการ เขียน และรายงานการทดลอง ช่วยให้ครูประหยัดเวลาและให้นักเรียนได้ รับข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ ครูและนักเรียนสามารถสมัครใช้ได้ฟรีที่ https://www.gradescope.com/ โดยใช้ email ของสถานศึกษา แนวทางการปฏิบัติสำ �หรับครู 1. เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ก่อน เริ่มต้นด้วยการนำ �เครื่องมือ AI บางตัวมาใช้ในบทเรียนเฉพาะ เช่น ใช้ห้องปฏิบัติการเสมือนเพื่อเสริมการทดลองจริง ใช้ในการสร้างเกณฑ์ สำ �หรับการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียน ใช้ในการปรับเนื้อหา การเรียนรู้สำ �หรับนักเรียนที่เรียนรู้ได้ช้าหรือเก่งกว่านักเรียนคนอื่นๆ ใน ชั้นเรียน ใช้สร้างแผนการสอน และใช้สร้างแบบทดสอบการเรียนรู้ โดย อาจจะลองเลือกใช้ AI เช่น ChatGPT และ Copilot และเมื่อทดลองใช้ คำ �สั่งให้ ChatGPT สร้างภาพ โดยใช้คำ �สั่งว่า “ภาพประกอบส่วนประกอบ ของดอกไม้ พร้อมตัวอักษรภาษาไทยและภาษาอังกฤษบอกส่วนประกอบ ของดอกไม้ในภาพ” จะได้ผลดังภาพ 1 ซึ่งพบว่า AI จะยังไม่สามารถ ใช้ภาษาไทยในภาพได้ถูกต้อง (ภาพ 1ก) และการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อบอก ส่วนต่างๆ ของดอกไม้ก็ยังระบุตำ �แหน่งไม่ถูกต้อง (ภาพ 1ข) และ เมื่อใช้ Copilot โดยใช้คำ �สั่งเดียวกันกับที่ใช้กับ ChatGPT พบว่า Copilot ไม่สามารถใช้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อบรรยายส่วนประกอบ ในภาพได้เช่นเดียวกัน (ภาพ 1ค) ในขณะที่เมื่อใช้คำ �สั่งให้ Copilot สร้าง “ภาพวัฎจักรของน้ำ �” โดยไม่ระบุเกี่ยวกับตัวอักษรแสดงรายละเอียดในภาพ ก ข

RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5