นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 253
ปีที่ 53 ฉบับที่ 253 มีนาคม - เมษายน 2568 59 ส วัสดีคุณผู้อ่านที่รัก ฉบับนี้ต่ายจะชวนมาทำ �ความเข้าใจกับเรื่องราว ที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ กับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างพม่า เมื่อเวลา 13:21 น. วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 ขนาด 8.2 ริกเตอร์ ซึ่งมีความรุนแรงมากที่สุดในรอบ 100 ปี ซึ่งเป็นเหตุการณ์ ที่ไม่ได้อยู่ไกลตัวเราอย่างที่คิดเพราะแรงสั่นสะเทือนของภัยพิบัติทาง ธรรมชาติในครั้งนี้ได้ส่งผลมาถึงประเทศไทยของเราในหลายพื้นที่เลย ทีเดียว คุณคงได้รับข่าวสารกันบ้างแล้วจากสื่อต่างๆ ว่ามีผลกระทบ อย่างไรบ้าง สิ่งแรกที่ต่ายอยากจะชวนคุณมาดูกันคือ ทำ �ไมแผ่นดินไหว ที่เกิดขึ้นในพม่าส่งผลมาถึงประเทศไทยได้ เรื่องนี้เราต้องมาทำ �ความ เข้าใจลักษณะทางธรณีวิทยาของภูมิภาคเรากันก่อน ประเทศไทยโดย เฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันตกมีรอยเลื่อน (Fault Lines) ที่มีพลังอยู่ หลายแห่งซึ่งเชื่อมโยงกับการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในบริเวณใกล้เคียง เช่น พม่ามีแรงสั่นสะเทือน โดยจะถูกส่งผ่านชั้นหินใต้ดินมายังพื้นที่ใกล้เคียง ทำ �ให้เรารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้แม้ว่าศูนย์กลางแผ่นดินไหวจะอยู่ไกล ออกไปก็ตาม ประเด็นต่อมาที่สำ �คัญไม่แพ้กันคือ ระดับความรุนแรงของ แผ่นดินไหวในพม่าครั้งนี้เป็นอย่างไร และแรงสั่นสะเทือนที่มาถึงประเทศไทย มีความรุนแรงแค่ไหน? ข้อมูลที่แม่นยำ �เกี่ยวกับขนาดและความลึกของ แผ่นดินไหวเป็นสิ่งสำ �คัญอย่างมาก! ที่จะช่วยทำ �ให้เราประเมินผลกระทบได้ โดยทั่วไปแล้วหากแผ่นดินไหวมีขนาดใหญ่และเกิดขึ้นในระดับความลึกที่ ไม่มาก (รอบนี้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร) แรงสั่นสะเทือนที่ส่งมาถึงพื้นที่ห่างไกลก็จะมีความรู้สึกได้ชัดเจนมากขึ้น ในครั้งนี้แรงสั่นสะเทือนที่รับรู้ได้ในประเทศไทยอาจจะมีความแตกต่างกันไป ในแต่ละพื้นที่ ขึ้นอยู่กับระยะทางจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว ลักษณะทาง ธรณีวิทยาของแต่ละท้องที่ (เช่น เป็นดิน เป็นหิน หรือเป็นดินเลนปากแม่น้ำ �) และความสูงของอาคารที่เราอยู่ แล้วผลกระทบที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมีอะไรบ้าง จากรายงานข่าว เบื้องต้น คุณๆ คงทราบแล้วว่าหลายจังหวัดในภาคเหนือ ภาคกลาง และ แม้แต่กรุงเทพมหานคร รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ หลายคนอาจจะรู้สึกถึง การสั่นไหวของอาคาร สิ่งของแขวนแกว่ง หรือได้ยินเสียงดังคล้ายเสียง ระเบิด ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้อาจจะสร้างความตกใจและความกังวลให้กับ Q U I Z ต่าย แสนซน หลายๆ คน สิ่งสำ �คัญคือ เราต้องติดตามข่าวสารจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินสถานการณ์และรับทราบคำ �แนะนำ �ต่างๆ อีกเรื่องหนึ่งที่ต่ายอยากจะเน้นย้ำ �คือ ความแตกต่างระหว่างการ รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนกับการเกิดความเสียหาย แม้ว่าเราจะรู้สึกถึง แรงสั่นสะเทือนได้ แต่ในหลายๆ ครั้ง แรงสั่นสะเทือนนั้นอาจจะไม่ได้รุนแรง พอที่จะทำ �ให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างอาคารบ้านเรือน อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีหากอาคารไม่ได้รับการออกแบบและก่อสร้างให้รองรับ แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวก็อาจจะได้รับความเสียหายได้ ดังนั้น การทำ �ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานการก่อสร้างอาคารที่ปลอดภัยจึงเป็น เรื่องที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากนี้ สิ่งที่คนไทยควรทำ �ความเข้าใจและเตรียมพร้อมคือ แนวทางการปฏิบัติตนเมื่อเกิดแผ่นดินไหว แม้ว่าแผ่นดินไหวที่ส่งผลกระทบ มาถึงประเทศไทยส่วนใหญ่มักจะไม่รุนแรง แต่การมีความรู้พื้นฐานในการ รับมือก็เป็นสิ่งที่สำ �คัญ เช่น หากอยู่ในอาคาร ควรหาที่หลบใต้โต๊ะที่แข็งแรง หรือยืนชิดผนังด้านใน หากอยู่นอกอาคาร ควรอยู่ในที่โล่ง ห่างจาก สิ่งปลูกสร้าง เสาไฟฟ้า และต้นไม้ใหญ่ การมีสติและปฏิบัติตามคำ �แนะนำ � ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะช่วยลดความเสี่ยงจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ จากที่เราได้คุยกันถึงสาเหตุ กลไก และผลกระทบเบื้องต้นของ แผ่นดินไหวข้ามประเทศกันไปแล้ว อีกประเด็นที่น่าสนใจและต่ายอยากชวน คุณๆ มาพิจารณาคือ ความถี่และความรุนแรงของแผ่นดินไหวในภูมิภาค ของเรามีแนวโน้มเป็นอย่างไร แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ใช่ประเทศที่ตั้งอยู่บน แนวรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกโดยตรงเหมือนกับหลายๆ ประเทศที่ประสบ กับแผ่นดินไหวรุนแรงเป็นประจำ � แต่เราก็ได้รับผลกระทบจากกิจกรรมทาง ธรณีวิทยาที่เกิดขึ้นในบริเวณใกล้เคียงอยู่เสมอ การศึกษาข้อมูลทางสถิติและ ประวัติศาสตร์การเกิดแผ่นดินไหวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้ง สถิติการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยจากเว็บไซต์ของกองเฝ้าระวัง แผ่นดินไหว https://earthquake.tmd.go.th/inside.html จะช่วยให้เรา เห็นภาพรวมและประเมินความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวได้ทำ �การศึกษา และเฝ้าระวังรอยเลื่อนต่างๆ ที่มีพลังในภูมิภาคของเราอย่างต่อเนื่อง ข้อมูล เหล่านี้มีความสำ �คัญในการทำ �ความเข้าใจถึงศักยภาพในการเกิดแผ่นดินไหว และอาจช่วยในการคาดการณ์ความเสี่ยงในอนาคตได้ แม้ว่าการพยากรณ์ แผ่นดินไหวอย่างแม่นยำ �ในปัจจุบันยังเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่การติดตาม ภาพจาก: https://www.ft.com/content/d2c4b833-366f-4eed-9100-b06ec39f6f4a
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5