นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 255
ปีที่ 53 ฉบับที่ 255 กรกฎาคม - สิงหาคม 2568 | 23 มี มอินเทอร์เน็ต (Internet Meme) หรือมีม (Meme) คือ เนื้อหา ประเภทหนึ่งที่มีการเผยแพร่และกระจายอย่างรวดเร็วผ่านช่องทาง อินเทอร์เน็ต กำ �ลังเป็นที่นิยมอย่างมากในผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตพบได้บ่อย ในโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยมักจะมีการดัดแปลงหรือทำ �ซ้ำ �โดยผู้ใช้คนอื่นๆ และมีการกระจายไปอย่างต่อเนื่อง มีมส่วนใหญ่เป็นเรื่องตลกขบขัน เหตุการณ์ในปัจจุบัน หรือการแสดงความคิดทางวัฒนธรรม สังคม โดย สามารถปรากฏในหลากหลายรูปแบบ เช่น รูปภาพ วีดิทัศน์ ข้อความ มีมเป็นคำ �ที่ถูกคิดขึ้นโดย ริชาร์ด ดอว์คินส์ (Richard Dawkins) นักชีววิทยาชาวอังกฤษ ถูกนำ �เสนอครั้งแรกในปี ค.ศ. 1976 ในหนังสือ ชื่อ The Selfish Gene (ฉบับแปลเป็นภาษาไทยใช้ชื่อว่า “ยีนเห็นแก่ตัว”) โดยมีมเป็นคำ �อธิบายหน่วยทางวัฒนธรรมที่แพร่กระจายหรือเลียนแบบ เช่น ความคิด พฤติกรรม รูปแบบ ข้อความ ที่แพร่กระจายในสังคม คล้ายกับการที่ยีนกระจายลักษณะทางพันธุกรรม (ยีน ภาษาอังกฤษคือ Gene หมายถึง ส่วนของดีเอ็นเอทำ �หน้าที่กำ �หนดลักษณะทางพันธุกรรม ต่างๆ ของสิ่งมีชีวิต ผ่านการสร้างโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างและ กิจกรรมต่างๆ ของเซลล์ของสิ่งมีชีวิต ลักษณะที่ปรากฏภายนอกแบบต่างๆ เช่น รูปร่างหน้าตาของเด็กที่มีส่วนคล้ายกับพ่อแม่ สีสันของดอกไม้หรือ รสชาติของผลไม้ รวมไปถึงลักษณะภายในบางอย่างที่ไม่อาจสังเกต เห็นได้ด้วยตา ซึ่งเป็นผลโดยตรงหรือผลบางส่วนร่วมกับสิ่งแวดล้อม จากการทำ �งานของยีน) คำ �ว่า “มีม” มาจากคำ �ภาษากรีกว่า “มิมีม” (Mimeme) หมายถึง “สิ่งที่ถูกเลียนแบบ” ในบริบทนี้ มีมจึงหมายถึง องค์ประกอบทางวัฒนธรรมที่แพร่กระจายจากคนหนึ่งไปยังคนอื่น นอกจากมีมจะถูกใช้เพื่อความสนุกแล้ว มีหลายงานวิจัย พบว่ามีมยังสามารถนำ �มาใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนได้อีกด้วย เช่น ในงานวิจัยของ Vivekananth Subbiramaniyan และคณะในปี ค.ศ. 2022 พบว่าจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 (COVID-19 Pandemic) ทำ �ให้การเรียนการสอนทั่วโลกต้องเปลี่ยนจากการสอนออนไซต์ ไปสู่ระบบออนไลน์ คณาจารย์จึงได้แสวงหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อส่งเสริม การมีส่วนร่วมของนักศึกษาในการเรียนรู้แบบออนไลน์ งานวิจัยนี้มุ่งศึกษา ประสิทธิภาพของการใช้มีมอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือทางการสอน เพื่อกระตุ้นความสนใจและการมีส่วนร่วมของนักศึกษาในรายวิชา สรีรวิทยามนุษย์ คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพและการแพทย์ เมืองโซฮาร์ (Sohar) ประเทศโอมาน (Oman) โดยนักศึกษายังได้รับการเชิญชวนให้ แสดงความเห็นแบบไม่เปิดเผยรายชื่อเกี่ยวกับประสบการณ์ในการทำ � กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับมีม มีนักศึกษา 142 คนจากทั้งหมด 280 คน ที่ให้ข้อเสนอแนะ เมื่อนำ �มาวิเคราะห์ในเชิงเนื้อหา (Thematic Analysis) ผลการวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า การใช้มีมช่วยกระตุ้นความสนใจในเนื้อหา ส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมชั้น ช่วยทำ �ให้แนวคิดที่ซับซ้อน เข้าใจง่ายขึ้น ส่งผลดีต่อการจดจำ �ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและยังสร้างบรรยากาศ การเรียนรู้ที่ดีและเป็นบวกมากยิ่งขึ้น ภาพ 1 ตัวอย่างมีมฟิสิกส์เรื่องสมการการเคลื่อนที่แบบสองมิติกรณีไม่มีความเร่งและกรณีมีความเร่ง ดัดแปลงจาก https://publish.illinois.edu/society-of-physics-students/memes/
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5