นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 256
ปีที่ 53 ฉบับที่ 256 กันยายน - ตุลาคม 2568 | 11 และอธิบายองค์ประกอบของนวัตกรรมและเชื่อมโยงกับแนวคิดของโมเดล เศรษฐกิจ BCG โดยมีข้อมูลสนับสนุนอย่างสมเหตุสมผล วัสดุ-อุปกรณ์ ก ารที่จะพัฒนานักเรียนให้มีสมรรถนะหรือทักษะที่สามารถสร้าง นวัตกรรมเพื่อตอบสนองนโยบายแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติฉบับที่ 13 ได้นั้น ควรเริ่มจากครูที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนหลักสูตร หรือออกแบบกิจกรรมที่เน้นการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ให้มากขึ้น ผลักดันให้มีการบูรณาการระหว่างวิชาได้แก่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี และการปรับบทบาทของตนเองจากที่ในอดีตครูจะเป็นผู้ที่ ให้ความรู้เพียงอย่างเดียวก็ให้เปลี่ยนเป็นผู้อำ �นวยความสะดวก (Facilitator) หนึ่งในหลักสูตรที่น่าจะตอบสนองความต้องการในการพัฒนา ทรัพยากรมนุษย์ของประเทศได้คือ หลักสูตรวิทยาศาสตร์พลังสิบ ซึ่ง สสวท. ได้ร่วมมือกับ สพฐ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาหลักสูตรวิทยาศาสตร์ พลังสิบขึ้นมา โดยเป็นหลักสูตรในรายวิชาเพิ่มเติมตั้งแต่ระดับประถมศึกษา จนไปถึงมัธยมศึกษาตอนต้น หลักสูตรนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาส่งเสริม ศักยภาพ และสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับผู้เรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี โดยวางเป้าหมายพัฒนาครูและบุคลากร ทางการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ผ่านการปรับปรุงหลักสูตร การสร้าง เครือข่ายการพัฒนาศักยภาพระหว่างมหาวิทยาลัย โรงเรียน ครู และ นักเรียน และการเพิ่มสมรรถนะของนักเรียนในระยะเวลา 10 ปี กิจกรรม การเรียนรู้ในโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบจะเน้นการเสริมสมรรถนะ นักเรียน (Student Competency) โดยพัฒนาทักษะที่จำ �เป็น ต่อการดำ �รงชีวิต พร้อมปลูกฝังความเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และ นวัตกรรมสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดทักษะการคิดขั้นสูง สามารถสืบเสาะ หาความรู้ด้วยตนเองอย่างเป็นระบบ โดยมีจุดเน้นในแต่ระดับการศึกษา ที่แตกต่างกันไป ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2568 สสวท. ได้นำ �หลักสูตรวิทยาศาสตร์ พลังสิบ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ไปอบรมครูแกนนำ � โรงเรียนแม่ข่ายที่อยู่ในโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ จำ �นวน 10 โรงเรียน โดยเรื่องเกี่ยวกับ “นวัตกรรม” ได้ถูกบรรจุอยู่ในกิจกรรมที่ 1.2 เรื่อง นวัตกรรมคืออะไร ซึ่งในการอบรมครูทุกคนจะได้รับ 2 บทบาทคือ นักเรียนและครูไปพร้อมกัน เมื่อจบการอบรมครูแกนนำ �โรงเรียนแม่ข่าย จะต้องนำ �กิจกรรมดังกล่าวไปอบรมให้กับครูที่อยู่ในเครือข่ายของโรงเรียน และห้องเรียนของตนเองต่อไป กิจกรรมที่ 1.2 นวัตกรรมคืออะไร เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เรียน ได้ลงมือปฎิบัติกิจกรรมผ่านการอ่านใบความรู้ การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อ ตอบคำ �ถาม ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งในเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับ ความหมายของนวัตกรรม เข้าใจองค์ประกอบ และคุณค่าของนวัตกรรม สามารถแยกความแตกต่างระหว่างนวัตกรรมกับสิ่งประดิษฐ์ ผ่าน กระบวนการทำ �งานเป็นกลุ่ม โดยกิจกรรมที่ 1.2 นี้เป็นกิจกรรมที่ต่อ เนื่องจากกิจกรรมที่ 1.1 เสริมจุดแข็ง ทำ �น้อยได้มาก เพื่อชุมชนยั่งยืน ซึ่งมีจุดประสงค์วิเคราะห์คุณค่าของผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับแนวคิดของ โมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) และอธิบาย ผลของการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมใน ระดับตนเอง ชุมชน หรือระดับประเทศ กิจกรรมที่ 1.2 นวัตกรรมคืออะไร กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์การเรียนรู้ คือ นักเรียนสามารถวิเคราะห์ ที่ 1 2 3 รายการ บัตรข้อมูลนวัตกรรม (1 ชุด 3 เรื่อง) แบบบันทึกกิจกรรมที่ 1.2 นวัตกรรมคืออะไร ใบความรู้ที่ 1.2 นวัตกรรม (Innovation) จำ �นวน 1 ชุด ต่อกลุ่ม 1 ชุด ต่อคน 1 ชุด ต่อคน บทบาทของครู: เป็นผู้อำ �นวยความสะดวก โดยใช้คำ �ถามกระตุ้นการคิด การอภิปราย การเปรียบเทียบ และการสะท้อนผลการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมกลุ่ม และการนำ �เสนอผลงาน พร้อมให้คำ �แนะนำ �อย่างใกล้ชิดตลอดกิจกรรม แนวการจัดกิจกรรม 1. ครูใช้คำ �ถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน โดยใช้คำ �ถาม เปรียบเทียบเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้สังเกต วิเคราะห์ และตั้งข้อสงสัย จากตัวอย่างผลิตภัณฑ์ในกิจกรรมที่ 1.1 เสริมจุดแข็ง ทำ �น้อยได้มาก จากนั้น อภิปรายคำ �ตอบที่ได้เพื่อนำ �เข้าสู่การปฏิบัติกิจกรรมที่ 1.2 นวัตกรรม คืออะไร 2. นักเรียนศึกษาใบความรู้ที่ 1.2 นวัตกรรม (Innovation) และร่วมกันอภิปรายตัวอย่างการวิเคราะห์นวัตกรรมถุง Active PAK ถุงหายใจได้ 3. แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 4 - 5 คน ปฏิบัติกิจกรรมที่ 1.2 นวัตกรรมคืออะไร และบันทึกผลการปฏิบัติกิจกรรมในแบบบันทึก กิจกรรมที่ 1.2 นวัตกรรมคืออะไร ในระหว่างปฏิบัติกิจกรรมครูเดิน สังเกตการณ์/ตอบคำ �ถามนักเรียนหากมีข้อสงสัย 4. แต่ละกลุ่มนำ �เสนอผลการปฏิบัติกิจกรรม และร่วมอภิปราย ผลการวิเคราะห์ของกลุ่มอื่นในด้านคุณค่าของนวัตกรรม โดยครูจะนำ �การ อภิปรายผลการนำ �เสนอเกี่ยวกับการระบุคุณค่าของนวัตกรรมของแต่ละกลุ่ม ซึ่งสามารถแตกต่างกันได้ขึ้นอยู่กับการอธิบายโดยใช้ข้อมูลสนับสนุนที่ สมเหตุสมผล 5. แต่ละกลุ่มตอบคำ �ถามท้ายกิจกรรม และร่วมกันอภิปราย คำ �ถามท้ายกิจกรรม แล้วสรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม 6. ครูนำ �อภิปรายเชื่อมโยงความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมและแนวคิด ของโมเดลเศรษฐกิจ BCG จากกิจกรรม ที่ 1.1 เพื่อตรวจสอบว่านักเรียน สามารถเชื่อมโยงความรู้ระหว่างกิจกรรมที่ 1.1 และ 1.2 ได้ถูกต้องมาก น้อยเพียงใด 7. นักเรียนศึกษาสถานการณ์ที่ครูกำ �หนด และร่วมกันอภิปราย ความแตกต่างของนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ 8. ครูขยายความรู้ เกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ว่า “สิ่งประดิษฐ์ (Invention)” อาจเป็นจุดเริ่มต้นของนวัตกรรมที่มีคุณค่าได้ หากสิ่งประดิษฐ์นั้น ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน มีการนำ �ไปพัฒนาต่อ และนำ �ไปใช้ ในวงกว้าง
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5