นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 256

46 | นิตยสาร สสวท. เมื่อนักเรียนแต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลและบันทึกลงในใบกิจกรรม เรียบร้อยแล้ว จึงให้ทุกกลุ่มออกมานำ �เสนอข้อค้นพบของตนเอง หลังจาก นำ �เสนอครบทุกกลุ่ม ครูให้นักเรียนทั้งห้องช่วยกันสร้างแผนผังความคิด หรือ Infographic เพื่อสรุปแนวทางการแก้ปัญหาที่คิดว่าเป็นไปได้ทั้งหมด ภาพ 3 การสร้าง Infographic เพื่อสรุปแนวทางการแก้ปัญหาการแพร่ระบาด ของปลาหมอคางดำ � ภาพ 4 การจัดทำ �เป็นรายงานสรุปสําหรับผู้บริหาร เพื่อสรุปแนวทางการแก้ปัญหา การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ � ดังตัวอย่างในภาพ 3 หรืออาจให้นักเรียนทั้งห้องร่วมกันจัดทำ �เป็น รายงานสรุปสําหรับผู้บริหาร (Executive Summary) ที่มีการศึกษาอย่าง รอบด้านเพื่อนำ �ไปสู่การวางแผนแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ดังตัวอย่าง ในภาพ 4 จะเห็นได้ว่านอกจากการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ ปรากฎการณ์เป็นฐาน: กรณีการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ �จะทำ �ให้ นักเรียนเรียนรู้แนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องการแล้ว การให้นักเรียน สืบเสาะหาความรู้ด้วยตนเองในเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ที่ศึกษา ยังเป็นการบูรณาการให้นักเรียนเรียนรู้แนวคิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กรณี ที่นักเรียนนำ �เสนอวิธีแก้ปัญหาโดยการพัฒนาพันธุ์ปลาหมอ 4n เพื่อทำ �ให้ ลูกปลาหมอรุ่นต่อมาเป็นหมันจะทำ �ให้นักเรียนเรียนรู้แนวคิดเกี่ยวกับ การใช้เทคโนโลยีในการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ให้มีลักษณะตามที่ต้องการ ลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต โครโมโซมและหน้าที่ของโครโมโซม การให้นักเรียนนำ �เสนอผลการค้นคว้าข้อมูล การสร้าง Infographic รวมทั้งการเขียนรายงานในลักษณะของรายงานสรุปสำ �หรับผู้บริหาร สามารถส่งเสริมทักษะการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน การให้ นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มสวมบทบาทเป็นบุคคลที่แตกต่างกันเพื่อคิดหา แนวทางในการแก้ปัญหาตามบทบาทที่แต่ละคนได้รับ รวมถึงการให้ นักเรียนนำ �เสนอและวิพากษ์วิจารณ์แนวคิดระหว่างกลุ่มเกี่ยวกับข้อดี ข้อเสีย และความเป็นไปได้ของแต่ละแนวทางในการแก้ปัญหา เป็นการส่งเสริม ให้เกิดการโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ในชั้นเรียน และส่งเสริมการคิดอย่าง มีวิจารณญาณ การคิดตัดสินใจ เพื่อร่วมกันลงข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทาง การแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของชั้นเรียน การใช้กรณีการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ �มาเป็น ตัวขับเคลื่อนการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ยังสามารถส่งเสริมสมรรถนะทาง วิทยาศาสตร์ตามกรอบโครงสร้างการประเมินของ PISA 2025 ให้เกิดขึ้น ในตัวของนักเรียนได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น สมรรถนะที่ 1 การอธิบาย ปรากฏการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ ในประเด็นย่อย 1) การระลึกและนำ � ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม 2) การใช้รูปแบบ ต่างๆ ในการแสดงแทนของความรู้ 3) การวางแผนแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้อง กับวิทยาศาสตร์ และ 4) การแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการนำ �ความรู้ ทางวิทยาศาสตร์ไปใช้เพื่อประโยชน์ของสังคม การให้นักเรียนตั้งคำ �ถาม ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษา ปรากฏการณ์ที่นำ �ไปสู่การสืบเสาะ ค้นคว้า เพื่อหาคำ �ตอบ ในการสอนขั้นที่ 3 สามารถส่งเสริมสมรรถนะที่ 2 การ ออกแบบและประเมินกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และ การแปลความหมายข้อมูลและใช้ประจักษ์พยานในเชิงวิทยาศาสตร์อย่าง มีวิจารณญาณ ในประเด็นย่อย 1) การระบุคำ �ถามอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยการให้นักเรียนร่วมกันพิจารณาคำ �ถามที่นักเรียนตั้งขึ้นมาว่า คำ �ถาม ใดบ้างเป็นคำ �ถามทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถตรวจสอบได้ด้วยวิธีการทาง วิทยาศาสตร์ และคำ �ถามใดบ้างเป็นคำ �ถามที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วย วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ถ้าคำ �ถามที่นักเรียนสนใจศึกษาในเชิงลึก เป็นคำ �ถามที่ต้องอาศัยการทดลองก็จะช่วยส่งเสริมสมรรถนะที่ 2 ใน ประเด็นย่อย 2) การออกแบบการทดลองที่เหมาะสมเพื่อตอบคำ �ถาม 3) การประเมินการทดลองที่ออกแบบไว้ว่าเหมาะสมที่สุดสำ �หรับการตอบคำ �ถาม หรือไม่ การให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของ ปลาหมอคางดำ �จากมุมมองตามบทบาทสมมติที่แต่ละคนได้รับสามารถ

RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5