นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 256

ปีที่ 53 ฉบับที่ 256 กันยายน - ตุลาคม 2568 | 47 Bobrowsky, M. (2018). “How can I Make Science Fun and Have Students Learn More by Using Phenomenon-Based Learning?” Science & Children, September 2018: 70-73. Daehler, K.R. & Folsom, J. (2016). Making Sense of SCIENCE: phenomena-based learning . [Online]. Retrieved July 16, 2020, from https://we- mss.weebly.com/ uploads/8/6/4/9/ 8649828/ mss_pbl.pdf. Francis, C. & Breland, T. A. & Østergaard, E. & Lieblein, G. & Morse, S. (2013). “Phenomenon-Based Learning in Agroecology: a prerequisite for transdisciplinarity and responsible action”. Agroecology and Sustainable Food Systems, 37 (1): 60-75. ชลาธิป สมาหิโต. (2562). “การจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐานสำ �หรับเด็กปฐมวัย”. วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร, 39 (1): 113-129. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2564). ผลการประเมิน PISA 2018 การอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: สถาบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. สุพิชชา นาเทพ. (2566). การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปรากฎการณ์เป็นฐาน เพื่อพัฒนาสมถรรนะการอธิบายปรากฎการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ เรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง สำ �หรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. การค้นคว้าอิสระระดับปริญญาโท, มหาวิทยาลัยนเรศวร. อรพรรณ บุตรกตัญญู. (2561). การเรียนรู้โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐานเพื่อการสร้างมุมมองแบบองค์รวมและการเข้าถึงโลกแห่งความจริงของผู้เรียน. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, 46 (2) : 343-365. บรรณานุกรม ส่งเสริมสมรรถนะที่ 2 ในประเด็นย่อย 4) การตีความข้อมูลที่มีการนำ �เสนอ ในรูปแบบต่างๆ เพื่อลงข้อสรุปที่เหมาะสมและประเมินข้อดีที่เกี่ยวข้องกับ ข้อมูลเหล่านั้นได้ และส่งเสริมสมรรถนะที่ 3 การศึกษาค้นคว้า ประเมิน และใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพื่อการตัดสินใจและการลงมือกระทำ � ใน ประเด็นย่อย 1) การสืบค้น ประเมิน และสื่อสารเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ของข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ สำ �หรับนำ �ไปใช้ในการตัดสินใจในประเด็นที่ เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ การศึกษาค้นคว้าจากข่าวที่นำ �เสนอในช่องทางต่างๆ จะพบว่า นักวิชาการประมงและเกษตรกรผู้เลี้ยงปลามีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน เกี่ยวกับความทนของไข่ปลาหมอคางดำ �ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้ง โดย เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาระบุว่า “ตนเองได้ตากบ่อปลากลางแดดและโรย ปูนขาวทิ้งไว้ประมาณ 2 เดือน แต่เมื่อเติมน้ำ �ลงบ่อใหม่ ปรากฏว่าเจอ ลูกปลาหมอคางดำ �อยู่ในบ่อเป็นจำ �นวนมาก แสดงว่าไข่ของปลาหมอคางดำ � สามารถทนแดดและอยู่ในสภาพแห้งแล้งที่ไม่มีน้ำ �ได้เป็นเวลานาน” แต่ นักวิชาการประมงโต้แย้งว่า “พฤติกรรมของปลาหมอคางดำ �เป็นปลาที่ ฟักไข่ในปากของปลาเพศผู้ ไข่ปลาต้องได้รับความชุ่มชื้นและออกซิเจน อย่างเพียงพอจึงจะสามารถฟักเป็นลูกปลาได้ ดังนั้น ไข่ของปลาหมอ คางดำ �จึงไม่สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งได้ หากนำ �ไข่ ปลาหมอคางดำ �ขึ้นมาจากน้ำ �แล้วทิ้งไว้จนแห้งจะกลายเป็นไข่เสียที่ ไม่สามารถฟักเป็นตัวได้อีก และในปัจจุบันยังไม่พบรายงานวิจัยว่า ไข่ปลาหมอคางดำ �สามารถทนอยู่ในสภาพแห้งแล้งได้ถึง 2 เดือน แล้ว กลับมาฟักเป็นตัวได้อีก” ครูสามารถนำ �ความคิดเห็นที่แตกต่างกันนี้ของ นักวิชาการประมงและเกษตรกรผู้เลี้ยงปลามาให้นักเรียนวิพากษ์ว่า ความคิดเห็นของใครมีความน่าเชื่อถือมากกว่ากัน เพราะเหตุใด ซึ่งสามารถ ส่งเสริมสมรรถนะที่ 3 ในประเด็นย่อยที่ 2) การแยกแยะระหว่างคำ �กล่าวอ้าง ที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนหรือคำ �กล่าวอ้างจากผู้เชี่ยวชาญกับ คำ �กล่าวอ้างจากผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญหรือเป็นความเห็นของบุคคลทั่วไป 3) การสร้างข้อโต้แย้งในการสนับสนุนข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ที่เหมาะสม จากชุดข้อมูล 4) การวิจารณ์ข้อบกพร่องที่พบบ่อยในการโต้แย้งทาง วิทยาศาสตร์โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับการได้มาของความรู้และความรู้ด้าน กระบวนการ และ 5) การตัดสินใจโดยใช้ข้อโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ทั้ง ในระดับส่วนตัวหรือส่วนรวมเพื่อแก้ปัญหาในปัจจุบันหรือสนับสนุนการ พัฒนาที่ยั่งยืน บทสรุป การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐาน เป็นรูปแบบการ เรียนรู้ตามทฤษฎีการเรียนรู้ที่เน้นให้นักเรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) เป็นการฝึกให้นักเรียนแก้ปัญหาในชีวิตจริง ส่งเสริม ให้นักเรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning Skills) นักเรียนจะมีบทบาทเป็นนักแก้ปัญหา สามารถออกแบบการสำ �รวจเพื่อ แสวงหาคำ �ตอบหรือคำ �อธิบายที่ตนเองสงสัย โดยบูรณาการความรู้ใน หลากหลายศาสตร์ ตลอดจนเลือกใช้เครื่องมือและวิธีการที่จะนำ �มาใช้ ในการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม เป็นแนวทางหนึ่งในการพัฒนานักเรียน ที่เหมาะสมกับวัยอย่างเป็นองค์รวมทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับโลกใน ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ อย่างรวดเร็ว บางปรากฏการณ์ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐาน จะช่วยส่งเสริมให้นักเรียนไม่ตื่นตระหนกต่อปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น และสามารถวางแผนเพื่อรับมือและเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างมีสติปัญญาและรู้เท่าทัน ภาพจาก: https://www.seub.or.th/bloging/news/2024-224/

RkJQdWJsaXNoZXIy NzI2NjQ5