

จีนมีโครงการจะส่งยานอวกาศฉางเอ๋อ 5 เพื่อไปน�
ำหิน
ดินดวงจันทร์กลับมายังโลกใน พ.ศ. 2560 และส่งมนุษย์ไป
ยังดวงจันทร์ใน พ.ศ. 2568-2573
ฉางเอ๋อ 2 ไปอยู่ ณ ต�
ำแหน่ง L
2
เพื่อศึกษาดวงอาทิตย์
และสนามแม่เหล็กของโลก ในการเดินทางจากวงโคจรรอบ
ดวงจันทร์ยานอวกาศฉางเอ๋อ 2 ใช้เวลา 77 วัน จึงถึงจุด L
2
รูปที่ 5 ยานฉางเอ๋อ 3 แสดงรถยูตูอยู่ด้านบน
ซึ่งจะลงจากยานทางบันไดสีด�
ำ
(ที่มา:
http://motherboard.vice.com/blog/chinas-nuclear-rover-will-sample-the-moon)
ยานลงดวงจันทร์ฉางเอ๋อ 3 มีมวล 1,200 กิโลกรัม โดยรถ
มีมวล 120 กิโลกรัม สูง 1.5 เมตร ก�
ำหนดวนรอบดวงจันทร์
ในวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 2:30 UTC และลงสัมผัส
ผิวดวงจันทร์ในวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ณ ไซนัส อิริดุม
(อ่าวรุ้ง) ที่ละติจูด 44° เหนือ เป็นที่ราบของลาวาบะซอลต์ซึ่ง
เป็นส่วนต่อทางตะวันตกเฉียงเหนือของมาเรอิมเบรียม (ทะเล
แห่งฝน) ฉางเอ๋อ 3 จะเป็นยานอวกาศล�
ำแรกที่ลงสัมผัสผิวดวง
จันทร์อย่างนุ่มนวลต่อจากยานลูนา 24 ของสหภาพโซเวียต
รัสเซียเมื่อ พ.ศ. 2519 หรือ 37 ปีมาแล้ว
รูปที่ 6 ต�
ำแหน่งลงบนดวงจันทร์ของฉางเอ๋อ 3
(ที่มา:
http://en.wikipedia.org/wiki/Chang%27e_3)
ฉางเอ๋อ 3 น�
ำมลภาวะไปสู่ดวงจันทร์
การลงดวงจันทร์ของฉางเอ๋อ 3 ต้องยิงจรวดต้านการ
เคลื่อนที่เพื่อให้ยานลงช้า ๆ ไอเสียของจรวดและฝุ่นดวงจันทร์
ที่ฟุ้งกระจายจะท�
ำให้กลายเป็นมลภาวะบนดวงจันทร์ ใน
ระหว่างนี้มียานอวกาศขององค์การนาซาเพื่อส�
ำรวจบรรยากาศ
และฝุ่นบนดวงจันทร์ชื่อยานลาดี (LADEE: Lunar Atmos-
phere and Dust Environment Explorer) ยานลาดีออก
จากโลกเมื่อ 7 กันยายน พ.ศ. 2556 เมื่อเวลา 03:27 UTC
ไปวนรอบดวงจันทร์เหนือบริเวณศูนย์สูตร เพื่อศึกษาสภาพ
แวดล้อมของดวงจันทร์ในระดับเอกโซสเฟียร์รวมทั้งฝุ่นรอบ
ดวงจันทร์ โดยใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ บนยาน ได้แก่ เครื่องตรวจ
จับฝุ่น เครื่องวัดสเปกตรัม และการสาธิตด้านเทคโนโลยี การ
สื่อสารด้วยแสงเลเซอร์
รูปที่ 7 ภาพยานลาดี (Courtesy NASA/Ames)
(ที่มา:
http://lasp.colorado.edu/home/missions-projects/quick-facts-ladee/)
วงโคจรของยานลาดี เป็นรูปวงรีโดยมีจุดใกล้ดวงจันทร์
ที่สุดอยู่ที่ระดับสูง 20 กิโลเมตร และจุดไกลดวงจันทร์ที่สุดอยู่
ที่ระดับสูง 60 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 114 นาที ในการ
โคจรรอบดวงจันทร์ 1 รอบ ซึ่งเข้าสู่วงโคจรแล้วเมื่อ 6 ตุลาคม
พ.ศ. 2556 เวลา 10:57 UTC มีแผนการปฏิบัติงาน 100 วัน
นิตยสาร สสวท.
54