Previous Page  41 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 41 / 62 Next Page
Page Background

41

ปีที่ 43 ฉบับที่ 193 มีนาคม - เมษายน 2558

นางสมปอง ตรุวรรณ์ ครูโรงเรียนนารีนุกูล

จังหวัด

อุบลราชธานี น�

ำเสนอแนวการจัดการเรียนการสอนในแนวทาง

STEM หรือการจัดการเรียนการสอนที่มีการบูรณาการ

วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์

ในรายวิชาการออกแบบเทคโนโลยี และวิชาเทคโนโลยี

สารสนเทศ ที่นักเรียนได้พัฒนาความคิดวิเคราะห์อย่างมีระบบ

จนเกิดชิ้นงาน โครงงาน หรือการวิจัย เช่น โครงงานหุ่นยนต์

พลีชีพกู้ระเบิด โครงงานเก้าอี้อัจฉริยะช่วยคนพิการหรือคนชรา

โครงงานหุ่นยนต์ท�

ำงานแทนมนุษย์ รวมทั้งส่งเสริมให้นักเรียน

น�

ำเสนอผลงานวิชาการหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ

เทคโนโลยี

นางชวนชื่น มลิลา ครูโรงเรียนชุมแพศึกษา

จังหวัด

ขอนแก่น บอกเล่าเรื่องราวการจัดการเรียนการสอนในแนวทาง

สะเต็มศึกษา ในวิชาเคมี โดยใช้วิธีสอดแทรก STEM ในเนื้อหา

โดยฝึกให้นักเรียนเชื่อมโยงเนื้อหากับสิ่งเกิดขึ้นจริงในสังคม

ร ว มทั้ ง ชี้ ใ ห้ เ ห็นถึ ง ก า ร บู รณา ก า ร ส ะ เ ต็มศึกษ า ผ่ า น

การเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน ตัวอย่างโครงงานของนักเรียน

เช่น การศึกษาประสิทธิภาพของสารสกัดจากเมล็ดน้อยหน่า

และเปลือกมะขามป้อมต่อระยะเวลาการตายของหอยเชอรี่

การดูดซับสีย้อมผ้าโดยใช้เปลือกไข่ อินดิเคเตอร์จากข้าว

เหนียวด�

ำ และโครงงานสาหร่ายสายใยกระดาษ

“จะเห็นได้ ว่ าสิ่งที่นักเรียนได้ รับจากการเรียนรู้ ตาม

แนวทางสะเต็มศึกษา คือ นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ คิดค้น

สิ่งใหม่ได้จากการใช้ความรู้แบบบูรณาการหลายวิชา มีทักษะ

ในการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูล และ

สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เป็นผู้มี

ความคิดอย่างมีวิจารณญานในการเลือกและตัดสินใจแก้ปัญหา

การออกแบบและด�

ำเนินการ ช่วยเหลือกันท�

ำงาน สามารถ

สื่อสารสิ่งที่ค้ นพบต่ อชุมชน มีความรับผิดชอบและร่ วม

แก้ปัญหาในฐานะที่เป็นสมาชิกของคนในชุมชน ซึ่งคุณสมบัติ

นี้จะส่งผลให้ผู้เรียนมีทักษะชีวิตที่ดีในอนาคต” นางชวนชื่นกล่าว

โดยสรุปแล้ว นับว่า งาน วทร. 22 ครั้งนี้ ได้ช่วยเปิด

โลกทัศน์ด้านสะเต็มศึกษาให้ครู บุคลากรทางการศึกษา และ

ผู้ร่วมงาน ให้ได้ เห็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอน

ด้านสะเต็มศึกษามากขึ้น ได้ เห็นตัวอย่างผลงานเด่นด้าน

สื่อการเรียนการสอน กิจกรรมการเรียนรู้ด้านสะเต็มศึกษา

รวมทั้งตัวอย่างของการน�

ำสะเต็มศึกษาไปใช้จริงในชั้นเรียน ใน

โรงเรียนต่าง ๆ จากเพื่อนครูที่มีประสบการณ์มาก่อนแล้ว

รวมทั้งความรู้และแนวทางในการพัฒนาการเรียนรู้ส่วนอื่น ๆ

อาทิ การวัดผลประเมินผล การท�

ำวิจัยในชั้นเรียน ระบบ

การศึกษาออนไลน์แบบต่าง ๆ เป็นต้น

ท้ายสุดองค์ความรู้ที่ได้รับจากงานนี้ หากมีการน�

ำไปใช้และ

พัฒนาต่อยอด พร้อมทั้งร่วมมือกันท�

ำงานเป็นเครือข่ายอย่าง

เข้มแข็งทุกภาคส่วน ก็จะน�

ำไปสู่การยกระดับการศึกษาด้าน

วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีของประเทศไทยใน

ที่สุด

ในอีก 2 ปีข้างหน้า ขอเชิญพบกับงาน วทร. 23 ที่

มหาวิทยาลัยทักษิณ จังหวัดสงขลา และโปรดติดตามกันต่อไป

ว่าอนาคตข้างหน้านั้นสะเต็มศึกษาจะมีการพัฒนาต่อยอด หรือ

ส่งผลอย่างไรในวงการศึกษาไทย

สแกนโค้ดนี้เพื่อ

ชมภาพเคลื่อนไหว