Previous Page  54 / 61 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 54 / 61 Next Page
Page Background

นิตยสาร สสวท.

54

ในการส่งจดหมายล่าลายเซ็นของนักวิทยาศาสตร์

ทั่วโลกให้ประท้วงการทดลองระเบิดมหาประลัยนี้ Pauling

ได้ลงทุนออกค่าส่ง 250 ดอลลาร์ การกระท�

ำของ Pauling

ที่ต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรงนี้ ท�

ำเองให้กรรมการสภามหาวิทยาลัย

แห่ง Caltech ยื่นใบลาออก 3 คน เหตุการณ์นี้ท�

ำให้

Pauling รู้สึกว่าถึงเวลาที่จะต้องลาออกจากต�

ำแหน่งหัวหน้า

ภาคเคมีแล้วและได้ขอลดเงินเดือนจาก 18,000 เหรียญต่อปี

เป็น 15,000 เหรียญต่อปี

ความยึดมั่นในความเชื่อของ Pauling เริ่มได้ผล

เมื่อประธานาธิบดี Eisenhower แห่งสหรัฐฯ เริ่มการเจรจา

กับรัสเซียเพื่อยุติการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ในบรรยากาศโลก

และสนธิสัญญาห้ามการทดลองระเบิดปรมาณูได้รับการลง

นามรับรองโดยรัฐบาลอเมริกาและรัสเซียในปี ค.ศ.1963

ผลที่เกิดตามมาส�

ำหรับการกระท�

ำนี้ คือ ในปลายปี

ค.ศ. 1963 Pauling ก็ได้รับการประกาศให้เป็นผู้ได้รับรางวัล

โนเบลสาขาสันติภาพ เขาจึงเป็นบุคคลเดียวในโลกที่ได้รับ

รางวัลโนเบลถึง 2 ครั้งโดยปราศจากผู้รับร่วม เป็นที่น่าสังเกตว่า

ผู้บริหารของสถาบัน Caltech ในเวลานั้นไม่มีใครแสดง

ความชื่นชมในเกียรติยศที่ Pauling ได้รับเลย

ในปีค.ศ. 1964 Pauling ได้ขอลาออกจากมหาวิทยาลัย

หลังจากที่ท�

ำงานที่นั่นนาน 41 ปี โดยไม่มีการจัดงานล�่

ำลาใด ๆ

จากมหาวิทยาลัย

ผลงานชิ้นสุดท้ายที่ Pauling ท�

ำเพื่อวงการเคมี

และชีววิทยา คือ การใช้วิตามินซีต่อสู้ความผิดปกติของ

จิตใจ โรคหวัด และมะเร็ง แต่ไม่เป็นผล

เมื่อใกล้จะเสียชีวิตด้วยมะเร็งในวัย 93 ปี Pauling

ก็ยังเชื่อว่า ถ้าเขาไม่ได้กินวิตามิน C มาก ๆ ทุกวัน เขาก็คง

ตายไปก่อนนี้นานแล้ว

เมื่อ Pauling เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1994 ประธานาธิบดี

Bill Clinton ได้เขียนจดหมายอาลัยถึงทายาทของ Pauling

และกล่าวว่าความพยายามอย่างเด็ดเดี่ยวและยิ่งยวดของ

บิดาพวกคุณได้ท�

ำให้ผู้น�

ำนานาชาติต้องทบทวนเรื่องระเบิด

ปรมาณูใหม่ และในที่สุดโลกก็ได้เป็นสถานที่ที่ ๆ ทุกชีวิต

ปลอดภัยขึ้น

มรดกส�

ำคัญที่ Pauling ได้ทิ้งไว้ให้วงการวิทยาศาสตร์

คือ เป็นคนที่ท�

ำให้ทุกคนตระหนักว่าพันธะเคมีคือพื้นฐานของ

ทุกชีวิต

บรรณานุกรม

Pauling, L. and Wilson, E.B. (1985).

Introduction to

QuantumMechanics with Applications to Chemistry.

การได้ รับรางวัลโนเบลสาขาเคมี

ประจ�

ำปี ค.ศ. 1954 ท�

ำให้ Pauling

กล้าแสดงออกโดยให้ความเห็น

ต่าง ๆ มากขึ้น เช่น ได้เตือนภัยจาก

ฝุ่นกัมมันตรังสีที่เกิดจากการ

ทดลองร ะ เ บิดปรมาณูทั้ง ใ น

มหาสมุทรแปซิฟิกและในรัสเซีย

ลุถึงปี ค.ศ. 1951 Pauling ได้หันมาสนใจโปรตีนซึ่ง

เป็นโมเลกุลขนาดใหญ่ ที่นักเคมีในสมัยนั้นคิดว่า ซับซ้อนเกิน

กว่าที่ใครจะวิเคราะห์หาโครงสร้างได้ แต่ Pauling ก็ได้

เสนอความคิดว่า โปรตีน (polypeptide) น่าจะมีโครงสร้าง

แบบ -helix ซึ่งเมื่อได้รับการยืนยันโดยการทดลอง Pauling

ก็ยิ่งมีความมั่นใจในตนเองถึงระดับสุดยอด

อีกหนึ่งปีต่อมา Pauling ได้หันไปสนใจโมเลกุล DNA

และได้เสนอความคิดว่า DNA มีโครงสร้างแบบเกลียว

3 สาย ซึ่งผิด เพราะ James Watson และ Francis Crick

ได้พิสูจน์ในเวลาต่อมาว่า มันมีโครงสร้างเป็นเกลียวคู่

ส�

ำหรับความล้มเหลวของ Pauling ในการเป็นคนแรก

ที่พบโครงสร้างของ DNA นี้ นักประวัติวิทยาศาสตร์มีความ

เห็นว่าเกิดจากหลายสาเหตุ ที่ส�

ำคัญคือ Pauling มีปัญหาส่วน

ตัวมากมาย ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติได้ไม่นาน คือ

Pauling รู้สึกต่อต้านการใช้อาวุธนิวเคลียร์มาก และได้ออก

ปราศรัยในที่ต่าง ๆ ว่าไม่เห็นด้วยกับการแข่งขันระหว่าง

ประเทศมหาอ�

ำนาจในการสร้ างระเบิดปรมาณูและ

ในช่วงเวลาที่สงครามเย็นก�

ำลังเกิดนั้น J. Edgar Hoover ซึ่งเป็น

ผู้อ�

ำนวยการหน่วยข่าวกรอง (FBI) ของอเมริกาได้มอบให้ FBI

จับตาดูการกระท�

ำทุกอย่างของ Pauling ตลอดเวลาเสมือน

ว่า Pauling เป็นบุคคลอันตราย นอกจากนี้กระทรวงต่าง

ประเทศก็ได้เพิกถอนหนังสือเดินทางของ Pauling แม้แต่

เพื่อน ๆ ของ Pauling ก็ได้เขียนจดหมายถึงอธิการบดี

ของสถาบัน Caltech ให้ไล่ Pauling ออกจากงาน

เมื่อสถาบัน Caltech ที่สังกัดก�

ำลังถูก FBI เพ่งเล็ง

เพราะตนเป็นอาจารย์ประจ�

ำ Pauling จึงตัดสินใจหยุด

ปราศรัยโจมตีรัฐบาล แต่รัฐบาลอเมริกันก็ยังไม่คืนหนังสือเดินทาง

ให้ และไม่ให้ทุนวิจัยใด ๆ ด้วย ในที่สุด Pauling ก็ได้หวนกลับ

สู่วงการเมืองอีก และกล่าวว่า วิทยาศาสตร์จะไม่รุ่ง

ถ้านักวิทยาศาสตร์ถูกลงโทษ เพราะพูดในสิ่งที่ตนเชื่อ