

59
ปีที่ 41 ฉบับที่ 181 มีนาคม - เมษายน 2556
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.มนตรี
จุฬาวัฒนทล ประธานกรรมการสถาบันส่ง
เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(สสวท.)
เปิดเผยว่าจากการประชุมคณะ
กรรมการ สสวท. เมื่อวันที่ 11 มกราคม
2556 ที่ผ่านมาที่ประชุมเห็นร่วมกันถึงความ
สำ
�คัญของการส่งเสริมให้เกิด“สะเต็มศึกษา”
(STEM Education) ขึ้นในประเทศไทย
โดยสะเต็มศึกษา (Science Technology
Engineering and Mathematics Educa-
tion) เป็นแนวทางใหม่ในการจัดการศึกษา
สายวิทยาศาสตร์ที่เน้นบูรณาการ การเรียน
วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี
ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนถึงอุดมศึกษา อาชีวศึกษา
และการศึกษาตลอดชีวิต เพื่อให้คนรุ่นใหม่มี
ความรู้และทักษะในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
สามารถประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี มีคุณภาพชีวิตที่ดีในยุคประชาคม
เศรษฐกิจอาเซียน พร้อมทั้งมีเป้าหมาย
ที่จะยกระดับคุณภาพและเพิ่มจำ
�นวนผู้
สำ
�เร็จการศึกษาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
และเทคโนโลยี เร่งเพิ่มขีดความสามารถ
ในการแข่งขันของประชากรไทยให้ทันการ
เปลี่ยนแปลงโลก
“สะเต็มศึกษา” เป็นแนวทางใหม่ที่
แตกต่างจากการเรียนการสอนปัจจุบัน
โดยจุดเด่นของสะเต็มคือ เน้นบูรณาการ
และนำ
�ไปใช้แก้ปัญหาด้วยกระบวนการ
ใหม่ ๆ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ มุ่งฝึกฝนสร้าง
ผู้เรียนให้เกิดทักษะในการนำ
�องค์ความ
รู้ไปใช้ประโยชน์ สามารถเชื่อมโยงสู่การ
ประกอบอาชีพรวมทั้งการดำ
�เนินชีวิตอย่าง
มีคุณภาพในสังคมและเศรษฐกิจอนาคตซึ่ง
เป็นโลกแห่งการแข่งขัน
ประธานกรรมการสสวท.กล่าวว่าที่
ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่าในระยะแรกควร
ดำ
�เนินงาน
“สะเต็มศึกษา” เป็นโครงการ
นำ
�ร่อง
เพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจนก่อน จากนั้น
หากพิจารณาแล้วเห็นผลสำ
�เร็จอย่างเป็นรูป
ธรรมจะนำ
�เสนอต่อคณะรัฐมนตรีขอประกาศ
เป็นวาระแห่งชาติต่อไป โดย สสวท.จะร่วม
มือกับสำ
�นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น
พื้นฐาน ซึ่งให้การสนับสนุนแนวทางดังกล่าว
และพร้อมรับเป็นหน่วยงานภาคปฏิบัติ ดำ
�เนิน
การผลักดันให้เกิดสะเต็มศึกษาขึ้นในภูมิภาค
โดยจะขอหารือเรื่องกำ
�หนดยุทธศาสตร์ปฏิบัติ
จำ
�นวนเขตการศึกษา และรายละเอียดต่าง ๆ
ของระยะนำ
�ร่องร่วมกันต่อไป
รูปแบบของ “สะเต็มศึกษา” นั้น สสวท.
อาจจัดให้ เป็นแหล่งข้อมูลและศูนย์รวม
หลักสูตร หนังสือ แบบเรียน คู่มือครู สื่อและ
อุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีคุณภาพ ส่ง
เสริมการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและวิศวกรรม ทั้งสิ่ง
พิมพ์ สิ่งประดิษฐ์และดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศ ครูเข้าถึงการใช้งานสะดวก อีกทั้ง
หาซื้อได้ง่ายจากร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ เรียกว่า
ไอสะเต็ม (iSTEM) เป็นเครื่องมือเพิ่มศักยภาพ
ครูสู่การจัดการเรียนรู้ของนักเรียน สร้างทักษะ
ในการแก้ปัญหา ส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ ๆ
สร้างความตระหนักและนำ
�วิทยาศาสตร์ ไป
ใช้ในการดำ
�รงชีวิตในทุกสาขาอาชีพได้ตามเป้า
หมายของ STEM Education
“สะเต็มศึกษา”เป็นระบบบริหารจัดการ
เชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งต้องประสานร่วมมือใน
หลาย ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งกระทรวง
วิทยาศาสตร์ โรงเรียน เขตพื้นที่การศึกษา ภาค
เอกชน ธุรกิจ อุตสาหกรรม และมีคณะทำ
�งาน
ที่ชัดเจนซึ่งสสวท.จะจัดตั้งคณะทำ
�งานด้าน
STEM ศึกษาเร็ว ๆ นี้
สสวท.เตรียมจับมือ สพฐ. นำ
�ร่อง
ตั้ง “สะเต็มศึกษา” พลิกโฉมการ
เรียนวิทย์ไม่เรียนเพื่อสอบ แต่ปั้น
คนรุ่นใหม่ “เก่งทักษะ แก้ปัญหา
แข่งขันทันโลก”