Previous Page  55 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 55 / 62 Next Page
Page Background

55

ปีที่ 42 ฉบับที่ 190 กันยายน- ตุลาคม 2557

ในปี 1637 Descartes ได้เรียบเรียงหนังสือชื่อ

A Discourse

on Method

ซึ่งมีอิทธิพลมากต่อความคิดของนักวิทยาศาสตร์

ในเวลาต่อมา โดยได้ย�้

ำว่า นักวิทยาศาสตร์ไม่ควรถกเถียง

กับนักบวชว่า ค�

ำสอนต่าง ๆ ในคัมภีร์ไบเบิลเป็นเรื่องจริงหรือไม่

แต่ควรสงสัยในความ “จริง” ทุกเรื่อง และเลิกสงสัยเมื่อสิ่งนั้น

ได้รับการพิสูจน์ นอกจากนี้ การจะรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องที่

เป็นไปได้ และเมื่อมนุษย์คิด ไม่ว่าจะคิดผิด คิดถูก หรือคิดเพี้ยน

การคิดจะท�

ำให้รู้ว่าตัวเองมีตัวตน Descartes ได้เอ่ยค�

ำกล่าวที่

เป็นอมตะว่า Cognito, ergo sumซึ่งแปลว่า I think, therefore I am

หนังสือเล่มนี้ยังกล่าวถึงความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ว่ า

อาจเปลี่ยนแปลงได้ และนักวิทยาศาสตร์ต้องใช้ความคิดในการ

แก้ปัญหาทุกเรื่อง อนึ่งเวลาแก้ปัญหา นักวิทยาศาสตร์ควร

พยายามหาค�

ำตอบที่ง่ายที่สุดก่อน แล้วต่อมาจึงพยายามหาค�

ำตอบที่

ซับซ้อนยิ่งขึ้น นั่นคือ Descartes คิดว่าค�

ำตอบน่าจะเป็นเรื่อง

ตรงไปตรงมามากกว่าเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ในท�

ำนองเดียวกับที่

เส้นตรงเป็นรูปทรงที่ง่ายกว่าเส้นโค้ง อย่างไรก็ตามเมื่อได้ค�

ำตอบ

แล้ว ก็ให้พิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้นว่าจะเป็นเช่นไรเพื่อให้รู้ว่า

ค�

ำตอบนั้นถูกหรือผิด

หลังจากที่ Descartes เสียชีวิต 16 ปี โลงศพของ Descartes

ถูกน�

ำออกจากสุสานของโบสถ์Adolf Fredriks ในกรุง Stockholm

ประเทศสวีเดนไปเก็บที่บ้านพักของเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส

ประจ�

ำสวีเดน ชื่อ Hugues de Terlon ซึ่งได้เปิดฝาโลงออก

แล้วน�

ำชิ้นส่วนต่าง ๆ ของศพใส่ในโลงทองแดงเพื่อน�

ำไปเก็บที่

โบสถ์ St. Geneviève ในกรุงปารีส

ในหนังสือ “Descartes’s Bones: A Skeletal History of

the Conflict Between Faith and Reason” ที่ Russell

Shorto เรียบเรียง และจัดพิมพ์โดย Doubleday ในปี 2008

Shorto เล่าว่า หลังจากที่ Descartes เสียชีวิต คนที่ศรัทธาใน

ความสามารถของ Descartes ได้พากันเก็บกระดูกของเขาเพื่อ

น�

ำไปบูชาหรือเป็นที่ระลึก บ้างก็มอบเป็นมรดกให้ลูกหลาน เช่น

กระดูกนิ้วชี้มือขวาของ Descartes ถูกตัดแยกออกจาก

โครงกระดูกทั้งหมด เพราะคนที่คลั่งไคล้ในตัว Descartes เชื่อว่า

นิ้วชี้นั้นมีบทบาทมากในการเขียนความคิดทางปรัชญาของผู้ตาย

ครอบครัวชาวสวีเดนครอบครัวหนึ่งอ้างว่าได้ตัดส่วนที่เป็น

กระโหลกศีรษะของ Descartes ไปเก็บเป็นที่ระลึก เพราะถือว่า

อวัยวะส่วนนี้ คือ ต้นก�

ำเนิดของแนวคิดอย่างมีเหตุผลของมนุษย์

เมื่อเกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่ในฝรั่งเศส Alexandre Lenoir

ซึ่งเป็นคนรับผิดชอบการดูแลรักษากระดูกของคนส�

ำคัญของ

ฝรั่งเศสได้รับค�

ำสั่งให้น�

ำกระดูกของ Descartes จากโบสถ์

St. Geneviève ไปวางที่ Panthéon ตามค�

ำบัญชาของคณะปฏิวัติ

แต่เขากลับน�

ำไปเก็บในสวนส่วนตัว ณ วันนี้จึงไม่มีใครรู้ว่าชิ้นส่วน

ของกระดูกที่ Lenoir เก็บในสวนเป็นของ Descartes ทั้งหมดหรือไม่

เพราะในระหว่างปี ค.ศ. 1640 – 1660 นักเก็บสะสมของแปลก

และหายากชาวอังกฤษชื่อ John Bargrave หลังจากที่ได้เดินทาง

ไปแสวงหาของหายากในยุโรป เมื่อกลับถึงอังกฤษได้มอบกระดูก

ของนักบุญ 31 องค์ แหวน สร้อย ฯลฯ ที่ได้เก็บสะสมมาเป็นเวลา

นานแก่บาทหลวงแห่ง Canterbury Cathedral โดยมีค�

ำบรรยาย

ก�

ำกับว่า หาได้จากที่ใด คืออะไร และได้มาเมื่อใด ประเด็นที่น่า

สนใจคือ ในบรรดาสิ่งที่ Bargrave เก็บสะสมนั้น มีการอ้างว่า เป็น

กระดูกนิ้วมือขวาของ Descartes ด้วย

ส่วนที่เป็นกระโหลกศรีษะของ Descartes นั้น ก็มีคนหลาย

คนอ้างเก็บ เช่นในปี ค.ศ.1821 นักชีววิทยาชื่อ George Cuvier

อ้างว่า มีกระโหลกของ Descartes ในครอบครอง แต่ไม่มีใคร

พิสูจน์ยืนยัน ณ วันนี้ กระโหลกนี้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Musée de L’

Homme ใน Palais de Chaillot ที่ปารีส

(ที่มา

http://www.amazon.com/

Discourse-Method-Meditations-Philo

sophy-Principles/dp/144172365X)

(ที่มา

http://www.general-ebooks.com/

search/rene-descartes-discourse-

on-the-method/2)

บรรณานุกรม

Damasio, António R. (1994).

Descartes’ Error

:

Emotion,

Reason and the Human Brain.

Grosset/Putnam.