Previous Page  21 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 21 / 62 Next Page
Page Background

21

ในองค์ความรู้ที่จะได้จากการท�

ำวุ้นกรอบนี้ก็มี อัตราส่วน

หรือการเทียบมาตราการชั่งตวงวัด นั่นคือ

ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ มีมวล 5 กรัม

ส่วนผสมใช้ 2 ช้อนโต๊ะก็มีมวล 10 กรัม

น�้

ำสะอาด1 ถ้วยตวง มีมวล 250 กรัม

น�้

ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง มีมวล 200 กรัม

ในการละลายของสารนั้น เมื่อน�

ำส่วนผสมเข้ามาคนให้เข้ากัน

น�้

ำตาลทรายละลายในน�้

ำ และผงวุ้นจะไม่เรียกว่าละลายในน�้

เนื่องจากว่าผงวุ้นมีขนาดอนุภาคที่ใหญ่กว่า 10

-7

cm. ในการให้

ความร้อนแก่ส่วนผสมจะท�

ำให้ผงวุ้นหลอมตัวเหลวได้ง่าย จึง

ท�

ำให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันได้ดี สารผสมที่ได้ก็จะมีลักษณะเป็น

คอลลอยด์ เมื่อทิ้งไว้ให้เย็นจะแข็งตัว หลังจากนั้น น�

ำไปผึ่งลม

หรือแดด น�้

ำที่อยู่ในวุ้นบริเวณผิวของวุ้นจะระเหยออกไปเรื่อย ๆ

ท�

ำให้สารละลายน�้

ำตาลที่ผิววุ้นมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ

ยิ่งหลายวันขึ้นสารละลายน�้

ำตาลทรายก็ยิ่งเข้มข้นขึ้นจนกลาย

เป็นสารละลายน�้

ำตาลอิ่มตัวและเมื่อน�้

ำระเหยไปอีก น�้

ำตาลทราย

บางส่วนจึงไม่สามารถละลายอยู่ได้ ตกผลึกออกมาเกาะที่รอบ ๆ

ผิววุ้น ถ้าผู้สอนให้ผู้เรียนได้ลองไปค้นหาวิธีท�

ำวุ้นกะทิ หรือวุ้น

ธรรมดามาเปรียบเทียบกัน ผู้เรียนจะพบว่า ในวุ้นกรอบจะมี

ส่วนผสมที่มีความเข้มข้นของน�้

ำตาลสูงกว่าในวุ้นกะทิ อีกประการ

หนึ่งที่ผู้เรียนควรจะได้ท�

ำในกิจกรรมนี้คือให้ผู้เรียนได้ค�

ำนวณ

หาความเข้มข้นของสารละลายน�้

ำตาลในน�้

ำว่ามีความเข้มข้นเท่าใด

ในการขยายความรู้ให้ได้มากขึ้นกว่านี้ ผู้สอนอาจกระตุ้นให้ผู้เรียนได้

ทดลองหาสูตรที่อาจจะท�

ำให้วุ้นกรอบตกผลึกน�้

ำตาลออกมาได้เร็วขึ้น

โดยลองเพิ่มส่วนผสมของน�้

ำตาลให้มากขึ้นก็เป็นได้

ปรากฏการณ์ที่ 2 ท�

ำไมกระดาษไม่ติดไฟ

อีกปรากฏการณ์หนึ่งที่มักน�

ำมาเล่นให้พิศวงงงงวยกันก็คือ การน�

ำภาชนะกระดาษมาต้มน�้

ำ ส่วนมากนักเรียนจะคุ้นเคยมาก

ใคร ๆ เขาก็รู้กันอยู่ คราวนี้ลองอธิบายซิว่า ท�

ำไมกระดาษที่ใช้ต้มน�้

ำจึงไม่ไหม้ไฟ หรือติดไฟ ส่วนมากเลยตอบได้ และค�

ำตอบ

คงจะเป็นไปในท�

ำนองนี้ ว่า “น�้

ำที่บรรจุอยู่ในกระดาษจะได้รับความร้อนโดยการถ่ายโอนความร้อนจากไฟ ผ่านกระดาษ และ

ไปสู่น�้

ำ ท�

ำให้กระดาษมีอุณหภูมิไม่สูงจนถึงจุดสันดาป แต่ถ้าน�้

ำเดือดจนแห้งหมดแล้ว กระดาษก็จะมีอุณหภูมิสูงจนติดไฟได้”

ซึ่งเหมือนกับความเชื่อในการดูว่าหยกที่เราจะซื้อเป็นหยกแท้หรือเทียม โดยการน�

ำเส้นผมมาพันให้แนบกับหยก แล้วจุดไฟเผา

เส้นผมดู ถ้าเป็นหยกแท้ หยกจะเย็น เส้นผมจะไม่ไหม้ไฟ ซึ่งก็เป็นเหตุผลเดียวกับการใช้ภาชนะกระดาษต้มน�้

ำนั่นเอง

ถ้ามีข้อซักถามต่อไปว่า ถ้าเราน�

ำกระดาษมารองอยู่ข้างใต้เหล็กแล้วน�

ำมาวางตั้งบนไฟ กระดาษจะไหม้ไฟหรือไม่

ในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นนักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องความจุความร้อนจ�

ำเพาะ ซึ่งหมายถึงปริมาณความร้อนที่พอดี

ท�

ำให้สาร 1 หน่วยมวล มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นหรือลดลงจากเดิม 1 องศา มีหน่วยเป็น หน่วยของปริมาณความร้อนต่อหน่วยมวล

ต่อหน่วยองศา ในระบบ SI หน่วยความจุความร้อนจะเป็น จูลต่อกิโลกรัมต่อองศาเคลวิน ( J kg

-1

K

-1

) คราวนี้มาพิจารณาค่า

ของความจุความร้อนจ�

ำเพาะของสารแต่ละชนิดดูกัน