Previous Page  24 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 24 / 62 Next Page
Page Background

รูปที่ 6.1 แสดงการท�

ำงาน

ของระบบ LORAN

รูปที่ 6.2 แสดงความแตกต่างค่าคงตัวของ

เวลาที่มาถึงของสัญญาณ

รูปที่ 6 ระบบ LORAN (ที่มา:

http://www.hnsa.org/doc/missile/

part2.htm และ

http://britton.disted.camosun.bc.ca/jbconics.htm)

4.1 แสดงสมบัติการสะท้อนของไฮเพอร์โบลา

4.2 แสดงหลักการท�

ำงานของกล้องโทรทรรศน์

รูปที่ 4 การใช้ความรู้เรื่องไฮเพอร์โบลาในวิชาทัศนศาสตร์

(ที่มา :

http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=88461

และ

http://platonicrealms.com/encyclopedia/conics

)

รูปที่ 5 ภาพวาดแสดงทางเดินแสงของกล้องสะท้อนแสงคาสสิเกรน (Cassegrain

Reflector) (ที่มา:

http://www.atom.rmutphysics.com/charud/old-

news/0/278/cosmos/35.htm)

24

นอกจากนี้ ในวิชาทัศนศาสตร์ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของวิชาฟิสิกส์

ที่ศึกษาเกี่ยวกับแสงและการมองเห็นก็มีการใช้สมบัติการสะท้อนของ

ไฮเพอร์โบลาได้อย่างน่าสนใจ โดยแสงที่พุ่งไปที่โฟกัสจุดหนึ่งของ

กระจกที่มีภาคตัดขวางเป็นไฮเพอร์โบลาหรือที่เรียกว่า กระจกเงา

ไฮเพอร์โบลา จะกระทบกับกระจกเงาซึ่งท�

ำหน้าที่สะท้อนแสง

ไปยังโฟกัสอีกจุดหนึ่ง ดังแสดงในรูปที่ 4.1 หลักการดังกล่าว

สามารถน�

ำไปใช้สร้างกล้องโทรทรรศน์ได้โดยน�

ำกระจกเงาไฮเพอร์

โบลาวางในล�

ำกล้องเพื่อท�

ำหน้าที่สะท้อนแสงจากกระจกเงา

พาราโบลาที่เข้ามาจากภายนอก แสงที่สะท้อนจากกระจกเงา

พาราโบลาจะพุ่งไปยังโฟกัสจุดหนึ่ง (F

1

)

ของกระจกเงาไฮเพอร์โบลา

และกระจกเงาไฮเพอร์โบลาจะสะท้อนแสงกลับไปยังโฟกัสอีกจุด

หนึ่งที่อยู่ในต�

ำแหน่งของนัยน์ตา (F

2

)

ดังแสดงในรูปที่ 4.2

คาสสิเกรน (Guillaume Cassegrain) ได้คิดค้นและดัดแปลง

กล้องโทรทรรศน์ชนิดสะท้อนแสง โดยอาศัยหลักการเกี่ยวกับพารา

โบลาและไฮเพอร์ โบลาจนได้กล้องสะท้อนแสงคาสสิเกรน

(Cassegrain Reflector) ซึ่งใช้กระจกไพรมารี่ (Primary Mirror)

ที่เป็นกระจกเว้าและมีความโค้งเป็นแบบพาราโบลาในการรวบรวม

แสงขนานและสะท้อนแสงย้อนไปหน้ากล้อง จากนั้นใช้กระจก

ชิ้นที่สองซึ่งเป็นกระจกนูนและมีความโค้งไฮเพอร์โบลาท�

ำหน้าที่

สะท้อนแสงครั้งที่สอง เพื่อให้ต�

ำแหน่งโฟกัสกลับไปตกที่ท้ายกล้อง

เรียกโฟกัสแบบนี้ว่า โฟกัสคาสสิเกรน (Cassegrain Focus)

ปัจจุบันมนุษย์ได้น�

ำความรู้และหลักการเรื่องไฮเพอร์โบลาเข้ามา

ประยุกต์ใช้ในการติดตามความเคลื่อนไหว การคมนาคม หรือ

ค้นหาต�

ำแหน่งวัตถุด้วยคลื่นวิทยุ เรียกระบบนี้ว่า LORAN (Long

Range Navigation)

LORAN เป็นระบบค้นหาต�

ำแหน่งของวัตถุ ซึ่งประกอบด้วย

สถานีส่งสัญญาณคลื่นวิทยุภาคพื้นดินที่รู้ต�

ำแหน่งแน่นอนอย่างน้อย

สองสถานี หนึ่งในนั้นก�

ำหนดให้เป็น MASTER และเรียกสถานีอื่น ๆ

ว่า SECONDARY หรือ SLAVE มีหลักการท�

ำงานคือ สถานีMASTER

จะส่งคลื่นสัญญาณเป็นวงกลมถึงสถานี SLAVE จากนั้น สถานี

SLAVE ก็จะส่ งคลื่นสัญญาณเป็ นวงกลมความถี่เดิมไปยัง

ตัวรับสัญญาณที่เคลื่อนที่ ดังแสดงในรูปที่ 6.1 การมาถึงของ

สัญญาณ ณ จุดใด ๆ เช่น จุด P ในรูปที่ 6.1 จะมีเวลาที่ต่างกัน

ขึ้นอยู่กับระยะทาง เวลาในการปล่อยสัญญาณ และต�

ำแหน่งของ

ตัวรับสัญญาณ ซึ่งตัวรับสัญญาณ LORAN จะวัดความแตกต่างของ

เวลาที่สัญญาณมาถึงจากสถานีต่าง ๆ ซึ่งความแตกต่างจากสถานี

คู่ส่งนี้เป็นเส้นโค้งไฮเพอร์โบลา ดังแสดงในรูปที่ 6.2

กระจกชิ้นที่สอง กระจกนูน

ที่มีความโค้งไฮเพอร์โบลา

กระจกชิ้นที่สอง กระจกนูน

ที่มีความโค้งไฮเพอร์โบลา

โฟกัสคาสิเกรน

(Cassegrain focus)

เลนส์ใกล้ตา

โฟกัสไพร

(Prime focus)