Previous Page  48 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 48 / 62 Next Page
Page Background

นิตยสาร สสวท.

48

- อนุสิทธิบัตร (Petty patent)

เป็นการให้ความคุ้มครอง

สิ่งประดิษฐ์ เช่นเดียวกับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ แต่แตกต่างกัน

ตรงที่ความคิดสร้างสรรค์ที่มีระดับการพัฒนาไม่สูงมาก โดยอาจ

เป็นการประดิษฐ์คิดค้นขึ้นใหม่หรือปรับปรุงจากการประดิษฐ์

เดิมที่มีอยู่ก่อนเพียงเล็กน้อย

2.

การออกแบบผลิตภัณฑ์ (Design Patent)

หมายถึง การให้

ความคุ้มครองความคิดสร้างสรรค์ที่เกี่ยวกับ การออกแบบรูปร่าง

ลวดลาย หรือสีของผลิตภัณฑ์ ที่มองเห็นได้จากภายนอก ซึ่ง

สามารถใช้เป็นแบบส�

ำหรับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม รวมทั้ง

หัตถกรรมหรืองานฝีมือในแบบต่าง ๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ แจกัน

ลายผ้า กล่องบรรจุภัณฑ์ รองเท้า นาฬิกา เสื้อผ้า เครื่องประดับ ฯลฯ

เงื่อนไขในการขอรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์

การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ขอรับสิทธิบัตรได้ กฎหมาย

ก�

ำหนดว่า จะต้องมีคุณสมบัติครบทั้ง 2 อย่าง ดังต่อไปนี้

1. เป็ นการออกแบบผลิตภัณฑ์ ใหม่ คือ เป็นการ

ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่เคยมีหรือขายมาก่อน หรือยังไม่เคย

เปิดเผยในเอกสารสิ่งพิมพ์ใด ๆ ทั้งในและนอกประเทศมาก่อน

ไม่ว่าในรูปแบบใด

2. สามารถน�

ำไปใช้ประโยชน์ในการผลิตทางอุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมหรือหัตถกรรมได้

เงื่อนไขในการขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์

การประดิษฐ์ที่

ขอรับสิทธิบัตรได้ กฎหมายก�

ำหนดว่า จะต้องมีคุณสมบัติครบทั้ง

3 อย่าง ดังนี้

1. เป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ (Novelty) คือ ยังไม่เคยมีจ�

ำหน่าย

มาก่อนหรือยังไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดของสิ่งประดิษฐ์ใน

เอกสารสิ่งพิมพ์ใด ๆ ทั้งในและนอกประเทศมาก่อน ไม่ว่าใน

รูปแบบใด

2. มีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น (Inventive Step) คือไม่เป็น

สิ่งประดิษฐ์ที่สามารถท�

ำได้ง่ายโดยผู้มีความรู้ในระดับธรรมดา

หรือการประดิษฐ์นั้นไม่สามารถท�

ำได้ง่ายโดยบุคคลที่มีความ

สามารถในระดับสามัญส�

ำหรับงานประเภทนั้น

3. สามารถน�

ำไปประยุกต์ใช้ทางอุตสาหกรรม (Industrial

Applicable) รวมทั้ง หัตถกรรม เกษตรกรรมและพาณิชยกรรมได้

การประดิษฐ์ที่ขอรับอนุสิทธิบัตรได้

กฎหมายก�

ำหนดว่า จะต้อง

มีคุณสมบัติครบทั้ง 2 อย่างดังนี้

1. เป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ (Novelty) คือ ยังไม่เคยมีจ�

ำหน่าย

หรือ ขายมาก่อน หรือยังไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดของ

สิ่งประดิษฐ์ในเอกสารสิ่งพิมพ์ใด ๆ ทั้งในและนอกประเทศ

มาก่อน ไม่ว่าในรูปแบบใด

2. สามารถน�

ำไปประยุกต์ใช้ในทางอุตสาหกรรม (Industrial

Applicable) รวมทั้งหัตถกรรม เกษตรกรรมและ พาณิชยกรรมได้

2. งานภาพถ่าย โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง หรือ

งานแพร่เสียงแพร่ภาพมีอายุ 50 ปี นับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้น

3. งานที่สร้างสรรค์โดยการจ้างหรือตามค�

ำสั่งของกระทรวง

ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐ ให้มีอายุ 50 ปีนับ

แต่ได้สร้างสรรค์งานนั้น

4. งานศิลปประยุกต์ ลิขสิทธิ์มีอายุ 25 ปี นับแต่ได้สร้างสรรค์

งานนั้น

การแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์

ลิขสิทธิ์เป็นสิทธิที่เกิดขึ้นทันทีที่มีการสร้างสรรค์ผลงานโดย

ไม่ต้องจดทะเบียน อย่างไรก็ตามกรมทรัพย์สินทางปัญญามี

บริการรับแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลและรวบรวม

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับงานลิขสิทธิ์ ซึ่งจะเป็นองค์ประกอบหนึ่ง

ในการพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์ ทั้งยังเป็น

แหล่งข้อมูลส�

ำหรับผู้ที่ต้องการขออนุญาตใช้ลิขสิทธิ์ ให้สามารถ

ตรวจค้นเพื่อประโยชน์ในการติดต่อธุรกิจกับเจ้าของลิขสิทธิ์ได้

นอกจากนี้ เจ้าของลิขสิทธิ์อาจน�

ำหนังสือรับรองการแจ้ง

ข้อมูลลิขสิทธิ์มาใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินกับธนาคาร

ในโครงการแปลงทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทุนได้

การคุ้มครองลิขสิทธิ์ไม่ครอบคลุมถึงความคิดหรือขั้นตอน

กรรมวิธีหรือระบบหรือวิธีใช้งาน หรือแนวคิด หลักการ การค้นพบ

หรือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์

ความหมายของทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมแต่ละประเภท

สิทธิบัตร (Patent)

คือ หนังสือส�

ำคัญที่รัฐออกให้เพื่อ

คุ้มครองการประดิษฐ์หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Industrial Design)

ที่มีลักษณะตามกฎหมายก�

ำหนด ได้แก่ สิทธิบัตรการประดิษฐ์

สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ และอนุสิทธิบัตร

ผู้ทรงสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรมีสิทธิเด็ดขาดหรือสิทธิขาด

แต่ผู้เดียวในการแสวงหาผลประโยชน์จากการประดิษฐ์หรือ

จากการออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิ์บัตร

นั้นภายในระยะเวลาที่ก�

ำหนด

ประเภทของสิทธิบัตร

แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือสิทธิบัตรการประดิษฐ์และสิทธิ

บัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์

1.

การประดิษฐ์ (Invention Patent)

หมายถึง การให้

ความคุ้มครองด้านการประดิษฐ์คิดค้นเกี่ยวกับกลไก โครงสร้าง

หรือการคิดค้นกรรมวิธีในการผลิต การเก็บรักษา หรือการ

ปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ิ