

55
ปีที่ 42 ฉบับที่ 187 มีนาคม - เมษายน 2557
ศ. ดร.สุทัศน์ ยกส้าน
ราชบัณฑิต สำ
�นักวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์และดาราศาสตร์
(ที่มา :
http://www.famousscientists.org/henry-cavendish/)
แม้จะได้รับการยกย่องว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์อังกฤษผู้ยิ่ง
ใหญ่ที่สุดแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 18 (หลังจากที่ Newton เสีย
ชีวิต) แต่ถ้าถามใครสักคนในสมัยที่ Henry Cavendish ยังมี
ชีวิตอยู่ว่ารู้จัก Cavendish หรือไม่ เขาก็จะตอบว่า “ไม่รู้จัก”
ทั้งนี้เพราะ Henry Cavendish แม้จะเป็นคนฉลาดระดับอัจฉริยะ
ที่มีผลงานส�
ำคัญมากมาย เช่น พบแก๊สไฮโดรเจน และเป็นผู้ที่หามวลของ
โลกเป็นคนแรก แต่เขามีบุคลิกภาพที่ประหลาดคือ เป็นคนขี้อายถึงระดับ
จิตผิดปกติ เช่น เวลานั่งรถม้าไปไหนมาไหน ก็จะปิดม่านหน้าต่างรถไม่
ให้ใครเห็น ชอบเดินเล่นคนเดียวในเวลากลางคืน ไม่ชอบออกจากบ้าน
ในเวลากลางวัน แม้ที่บ้านจะมีคนใช้ท�
ำความสะอาด และหุงหาอาหาร
ให้ แต่ Cavendish ก็ไม่ชอบพบปะเธอ ดังนั้น จึงใช้วิธีเขียนใบสั่งงาน
แทน มีอยู่ครั้งหนึ่ง Cavendish พบสาวใช้ที่หน้าบ้านโดยบังเอิญ เขารู้สึก
ทุกข์ใจมาก จึงสั่งให้สร้างบันไดหลังบ้านส�
ำหรับให้เธอใช้โดยเฉพาะ และ
ก�
ำหนดว่า Cavendish เป็นผู้ใช้บันไดหน้าบ้านแต่เพียงผู้เดียว เวลานั่งรับ
ประทานอาหารก็จะไม่โอภาปราศรัยกับใคร ชอบนั่งกินข้าวคนเดียว และ
ทุกวันจะกินขาแกะทอดเป็นอาหารหลัก อีกทั้งไม่ชอบแต่งตัว และชอบใส่
สูทชุดเดิม แม้วันเวลาจะผ่านไปหลายปีก็ตามสไตล์ของเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็
ยังเหมือนเดิม Cavendish จึงเป็นคนแต่งตัวตกยุค และเวลาออกสังคม
ชอบใส่หมวกปีกทรงสามเหลี่ยม และมักแขวนหมวกที่ขอแขวนเดิม บาง
คืนจะปีนขึ้นต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านเพื่อดูดาว และได้ติดตั้งเทอร์โมมิเตอร์บน
หลังคาบ้าน เพื่อบันทึกอุณหภูมิของอากาศในแต่ละวัน
นิสัยเหล่านี้แสดงชัดว่า Cavendish เป็นคนไม่แคร์ใคร และไม่มี
ความรู้สึกผูกพันกับใครหรือกับสิ่งใด ชีวิตจึงด�
ำเนินไปเหมือนนาฬิกา คือ
ซ�้
ำ ๆ ซาก ๆ แต่ตรงเวลา
กระนั้น Cavendish ก็ยังมีส่วนดีอยู่บ้าง คือเป็นคนรวยที่มีใจเมตตา อีก
ทั้งรักวิทยาศาสตร์และคิดว่า ความรักที่มีนี้เพียงพอส�
ำหรับชีวิตของเขาแล้ว
ตามปกติ Cavendish ไม่ชอบพูดโอ้อวดความส�
ำเร็จของตัวเอง และ
Henry Cavendish
ชอบเก็บความรู้สึก ไม่ว่าจะเสียใจหรือดีใจเกี่ยวกับอะไรก็ตาม Cavendish
จะไม่ปริปากเล่าคนอื่น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจเลยที่หลังจาก
ที่ Cavendish ได้ตายจากไปนานนับศตวรรษ จึงมีคนพบงานวิจัยของ
Cavendish อีกหลายชิ้นที่โลกไม่เคยรู้มาก่อน
Henry Cavendish เกิดเมื่อ ค.ศ.1731 (รัชสมัยพระภูมินทราชา) ใน
ปีที่ Cavendish ถือก�
ำเนิด Isaac Newton เสียชีวิตแล้ว 4 ปี Benjamin
Franklin อายุ 25 ปี และ Leonhard Euler มีอายุ 24 ปี บิดาของ
Cavendish ชื่อ Lord Charles Cavendish เป็นลูกคนที่ 3 ของ Duke
of Devonshire ที่ 2 เมื่อบิดาแต่งงานกับ Lady Anne Grey นั้นสุขภาพ
ของเธอไม่ดีเลย ดังนั้น เมื่อเธอตั้งครรภ์ แพทย์จึงแนะน�
ำให้ครอบครัวไป
พักผ่อนที่เมือง Nice ในฝรั่งเศส และเธอได้คลอดลูกคนแรกชื่อ Henry
Cavendish เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ.1731 อีกสองปีต่อมา หลังจาก
ที่คลอดลูกคนที่ 2 ได้ไม่นาน มารดาก็เสียชีวิต Cavendish จึงก�
ำพร้า
มารดาตั้งแต่มีอายุได้ 2 ขวบ
Cavendish เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนชื่อ Hackney Academy ใน
ลอนดอน ซึ่งเป็นโรงเรียนส�
ำหรับลูกของเศรษฐี จากที่นี่ Cavendish ได้ไป
เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่ St. Peter’s College แห่งมหาวิทยาลัย
Cambridge เป็นเวลา 4 ปี จากนั้นบิดาได้ให้ Cavendish เดินทางแบบ
Grand Tour ไปยุโรปซึ่งเป็นประเพณีที่นิยมท�
ำในสมัยนั้น Cavendish
ได้เดินทางไปฝรั่งเศส เพื่อเรียนคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ที่ปารีส
เมื่อกลับถึงอังกฤษ Cavendish ได้เข้าพักกับบิดาที่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่
ที่ถนน Great Marlborough ในย่าน Soho ของลอนดอน และพ�
ำนัก
อยู่ที่นั่นนานเกือบ 30 ปี เพราะบิดาของ Cavendish เป็นนักฟิสิกส์ที่
มีความสามารถอีกทั้งยังเป็นสมาชิกของ Royal Society ด้วย ดังนั้น
Cavendish จึงเริ่มใช้ชีวิตวิทยาศาสตร์โดยการท�
ำงานเป็นผู้ช่วยในห้อง
ปฏิบัติการของบิดา เพื่อทดลองเรื่องไฟฟ้า ความร้อน และแม่เหล็ก ซึ่ง
ได้ท�
ำให้ James Clerk Maxwell ซึ่งได้อ่านผลงานของ Cavendish ใน
เวลาต่อมารู้สึกประทับใจมาก
เมื่อบิดาเสียชีวิตในปีค.ศ. 1783 Cavendish ได้รับมรดกเป็นเงิน
มหาศาล ท�
ำให้เป็นมหาเศรษฐีที่ร�่
ำรวยที่สุดในอังกฤษ แต่ Cavendish
ก็ยังใช้ชีวิตอย่างสมถะเหมือนเดิม
Cavendish มีบ้านหลายหลัง โดยเฉพาะบ้านที่ Clapham ซึ่งตั้ง
อยู่ทางใต้ของลอนดอน มีอุปกรณ์ทดลองวิทยาศาสตร์มากมาย และมี
ห้องสมุดขนาดใหญ่ให้นักวิชาการซึ่งเป็นเพื่อน ๆ ของบิดามาค้นคว้า
Cavendish ได้จ้างบรรณารักษ์มาดูแลห้องสมุดนี้และให้เงินเดือนค่อน
ข้างสูง ที่บริเวณนอกบ้านมีต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ Cavendish ปีนขึ้นไป
สังเกตดูดาวในท้องฟ้าด้วยกล้องโทรทรรศน์ และจดบันทึกข้อมูลดินฟ้า
อากาศ และที่ Clapham นี้เอง Cavendish ได้พบว่าน�้
ำประกอบด้วย
ไฮโดรเจนกับออกซิเจน
อัจฉริยะผู้มีปัญหาด้านจิตใจ