

3
ปีที่ 42 ฉบับที่ 190 กันยายน- ตุลาคม 2557
รอบรู้วิทย์
ความเข้าใจคลาดเคลื่อน
ในการจัดห้องเรียนแบบสืบเสาะ
และ
แนวทางปรับความเข้าใจ
ดร.นิพนธ์ จันเลน
นักวิชาการ สาขาวิทยาศาสตร์มัธยมศึกษาตอนต้น สสวท. / e-mail :
niche@ipst.ac.thการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหรือ inquiry-based instruction
ถูกกล่าวถึงว่าเป็นการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียนที่ช่วยให้นักเรียน
สร้างความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเนื้อหา กระบวนการ และแนวคิดทาง
วิทยาศาสตร์ แต่ปัจจุบันครูผู้สอนก็ยังคงประสบกับปัญหาและความ
ยุ่งยากในการน�
ำแนวคิดนี้มาประยุกต์ใช้จัดการเรียนรู้ในสถานการณ์
ห้องเรียนจริง ปัจจัยส�
ำคัญอันหนึ่งที่ท�
ำให้การจัดการเรียนรู้แบบ
สืบเสาะไม่ประสบความส�
ำเร็จเท่าที่ควรคือ ความเข้าใจคลาดเคลื่อน
เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะของครูผู้สอนเอง
ความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ
ความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่พบได้บ่อย ๆ ในครูวิทยาศาสตร์
มีอยู่สองแบบหลัก ๆ คือ หนึ่ง ความคลาดเคลื่อนที่อยู่ในรูปแบบ
น้อยไป
นั่นคือ ครูที่เข้าใจว่า การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะคือ
การให้นักเรียนลงมือท�
ำการทดลองเท่านั้น โดยทั่วไปครูในกลุ่มนี้
จะจัดให้นักเรียนท�
ำการทดลองตามขั้นตอนที่ปรากฏอยู่ใน
คู่มือปฏิบัติการหรือหนังสือเรียน เปรียบเทียบได้กับการทดลอง
ท�
ำอาหารตามหนังสือสอนการท�
ำอาหารที่มีรายละเอียดอยู่ค่อนข้าง
สมบูรณ์แล้ว หรือเรียกว่า การท�
ำปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์
แบบ cookbook นั่นเอง ความเข้าใจแบบนี้ของครูมองว่า การลงมือ
ปฏิบัติจริงในการทดลอง หรือ กิจกรรมต่าง ๆ ก็เพียงพอแล้วที่
จะช่วยให้นักเรียนจดจ�
ำหรือ เข้าใจบทเรียนส่งผลให้ครูให้ความส�
ำคัญ
เฉพาะการท�
ำการทดลอง หรือ กิจกรรมที่ต้องลงมือปฏิบัติ ทั้ง ๆ ที่
ในความเป็นจริงยังมีอีกหลายองค์ประกอบของห้องเรียนแบบ
สืบเสาะที่มีความส�
ำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการลงมือท�
ำการทดลอง
เช่น การตั้งค�
ำถาม การวิเคราะห์ข้อมูล การน�
ำเสนอข้อมูล
การโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์