Previous Page  7 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 7 / 62 Next Page
Page Background

7

ปีที่ 42 ฉบับที่ 190 กันยายน- ตุลาคม 2557

ปัจจัยที่ส�

ำคัญของ แนวคิดการจัด

การเรียนรู้แบบสืบเสาะแบบต่อเนื่อง คือ

การมีอิสระในการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก

กิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียนแยกออก

เป็น 5 ส่วน ตาม 5 คุณลักษณะที่จ�

ำเป็น

ของห้องเรียนแบบสืบเสาะ แต่ละส่วน

แบ่งออกเป็นเฉดสีของความต่อเนื่องของ

ห้องเรียนแบบสืบเสาะและมีอิสระต่อกัน

ครูจึงสามารถผสมผสานกิจกรรมการเรียนรู้

แต่ละเฉดสีเข้าด้วยกันให้สอดคล้องกับ

ความต้องการของผู้สอนและความเหมาะสม

ของห้องเรียน เช่น ครูอาจเลือกที่จะเป็น

ผู้ก�

ำหนดค�

ำถามให้นักเรียนศึกษา (ขั้นที่ 1)

แต่เปิดโอกาสให้นักเรียนออกแบบการ

ทดลอง แนวทางในการศึกษาเพื่อตอบ

ค�

ำถามนั้นเอง (ขั้นที่ 4) หลังจากที่เก็บ

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องแล้ว ครูก็เปิดโอกาสให้

นักเรียนสร้างค�

ำอธิบายจากหลักฐานที่มี

อยู่โดยมีครูเป็นผู้ช่วยแนะน�

ำ (ขั้นที่ 3)

เป็นต้น การมีอิสระในการจัดการเรียนรู้

ตาม 5 คุณลักษณะที่จ�

ำเป็นของห้องเรียน

แบบสืบเสาะนี้ ท�

ำให้การจัดการห้องเรียน

แบบสืบเสาะไม่ถูกจ�

ำกัดให้เป็นบันได

เพียง 4 ขั้นอีกต่อไป แต่ครูกลับมีตัวเลือก

อีกไม่จ�

ำกัดในการผสมผสานแต่ละเทคนิค

วิธีเข้าด้วยกันให้เหมาะสมกับห้องเรียน

ของตน

วิธีการเลือกระดับการจัดการเรียนรู้แบบ

สืบเสาะแบบต่อเนื่อง

การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะแบบ

ต่อเนื่องมีหลายระดับซึ่งแต่ละระดับก็มี

คว าม เ หมา ะสมกับสถานกา รณ์ ใ น

ห้องเรียนที่ต่างกันไป แน่นอนว่าในทาง

ทฤษฎี หรือ ในห้องเรียนอุดมคติ อาจถือ

ได้ว่าห้องเรียนแบบสืบเสาะระดับที่ 4

(Open Inquiry) ที่นักเรียนเป็นผู้ก�

ำหนด

แนวทางของห้องเรียนด้วยตัวนักเรียน

ทั้งหมด เป็ นห้ อง เรียนที่ดีที่สุดของ

การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ แต่ในทาง

ปฏิบัติห้องเรียนสืบเสาะระดับนี้อาจส่งผลเสีย

มากกว่าผลดีต่อนักเรียนและครูเอง หากมี

การน�

ำไปใช้ในสถานการณ์ที่ไม่หมาะสม

ดังนั้นในห้ อง เรียนแบบสืบเสาะที่มี

การจัดการเรียนรู้ที่

ยืดหยุ่น

เหมาะสม

และ

ท้าทาย

กับนักเรียนและครูต่างหาก

ที่ถือว่าเป็น

ห้องเรียนที่ดีที่สุด

ห้องเรียนที่มีการจัดการเรียนรู้แบบ

สืบเสาะได้ดีที่สุดจะต้องประกอบไปด้วย

หลักส�

ำคัญ 3 ประการ คือ

1. ความยืดหยุ่น

หมายถึงการผสมผสาน

ห้องเรียนแบบสืบเสาะระดับต่างๆ เข้าด้วยกัน

ตามแนวคิดเรื่องการจัดการเรียนรู้แบบ

สืบเสาะแบบต่อเนื่อง ซึ่งได้เปิดโอกาสและ

ให้อิสระทางความคิดแก่ครูมากขึ้นใน

การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ให้

สอดคล้ องกับความต้ องการและจุด

ประสงค์ของห้องเรียนในขณะใดขณะหนึ่ง

2. ความเหมาะสม

หมายถึง กิจกรรม

ที่ จั ด ขึ้ นต้ อ ง เ หม า ะ ส ม กับค ว า ม รู้

ความสามารถของทั้งครูและนักเรียนใน

ขณะนั้น ๆ อีกทั้งยังต้ อง เหมาะสม

กับเนื้อหา และเหมาะสมกับเวลาที่ก�

ำหนด

3. ความท้าทาย

หมายถึง การที่ครูไม่

เลือกที่จะย�่

ำอยู่กับที่ หรือ เลือกที่จะใช้

เฉพาะกิจกรรมที่ครูและนักเรียนคุ้นเคย

และสามารถท�

ำได้ดีแล้ว ดังนั้นครูต้องใส่

ความท้าทายลงไปในตัวกิจกรรมทีละนิด

เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของทั้งครูและ

นักเรียนด้วย เช่น ส�

ำหรับครูและนักเรียน

ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการเรียนรู้แบบ

สืบเสาะหรือครูและนักเรียนที่คุ้นเคยกับ

การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบบอก

ความรู้ นักเรียนอาจยังไม่มีทักษะใน

การออกแบบการทดลอง หรือประมวล

ข้อมูลออกมาเป็นหลักฐาน ครูก็อาจยัง

ไม่มีทักษะในการใช้ค�

ำถามเพื่อกระตุ้นให้

นักเรียนเกิดกระบวนการคิด หรือเพื่อชี้น�

ห้องเรียน เป็นที่แน่นอนว่าการจัดการ

เรียนรู้แบบสืบเสาะระดับที่ 4 จะส่งให้

การจัดการ เรียนรู้ ไม่ มีประสิทธิผล

กิจกรรมการเรียนรู้ อาจสะเปะสะปะ

ไร้ทิศทาง ซึ่งในที่สุดจะส่งผลเสียต่อการ

เรียนรู้ของนักเรียน และอาจส่งผลเสียต่อ

ความมั่นใจของครูเองในการจัดการเรียน

การสอนวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะในครั้ง

ต่อ ๆ ไป