

ลักษณะจ�
ำเป็นของห้องเรียนแบบสืบเสาะ
ความหลากหลายของห้องเรียน
น้อย การมีส่วนร่วมของนักเรียน มาก
มาก ก�
ำหนดแนวทางโดยครูหรือหนังสือ น้อย
นักเรียนมีความสนใจใน
ค�
ำถามเชิงวิทยาศาสตร์
ค�
ำถามถูกก�
ำหนดโดยครูหรือ
หนังสือเรียน
นักเรียนปรับปรุงค�
ำถามที่
ก�
ำหนดให้
นักเรียนเลือกค�
ำถามจาก
รายการค�
ำถามที่ก�
ำหนดให้ นักเรียนเป็นผู้ตั้งค�
ำถาม
นักเรียนให้ความส�
ำคัญกับ
หลักฐานที่ใช้ตอบค�
ำถาม
ข้อมูลและวิธีการวิเคราะห์
ข้อมูลถูกก�
ำหนดให้โดยครู
ครูให้ข้อมูลแล้วให้นักเรียน
วิเคราะห์
ครูเป็นผู้แนะน�
ำว่าข้อมูลใดที่
นักเรียนต้องเก็บ
นักเรียนเป็นผู้วางแผนและ
ตัดสินใจว่าข้อมูลใดบ้างที่ส�
ำคัญ
นักเรียนสร้างค�
ำอธิบายจาก
หลักฐานที่มีอยู่
หลั ก ฐ า น แ ล ะ ค�
ำ อ ธิ บ า ย
ถูกก�
ำหนดโดยครู
ผู้สอนบอกวิธีที่เป็นไปได้ที่
นักเรียนจะใช้หลักฐานในการ
สร้างค�
ำอธิบาย
นักเรียนสร้างค�
ำอธิบายจาก
หลักฐานที่มีอยู่โดยมีครูเป็น
ผู้ช่วยแนะน�
ำ
นักเรียนสร้างค�
ำอธิบายหลัง
จากสรุปหลักฐานที่ปรากฏ
นักเรียนเชื่อมต่อค�
ำอธิบาย
เข้ากับหลักการ ความรู้ทาง
วิทยาศาสตร์
ครูเชื่อมโยงค�
ำอธิบายเข้ากับ
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์
ครูเสนอแนวทางที่เป็นไปได้
ในการเชื่อมโยงค�
ำอธิบายเข้า
กับความรู้ทางวิทยาศาสตร์
ครูแนะน�
ำสื่อหรือองค์ความรู้
ทางวิทยาศาสตร์ที่นักเรียน
สามารถเชื่อมโยงองค์ความรู้ที่ได้
นักเรียนค้นคว้าความรู้ทาง
วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องแล้ว
เชื่อมโยงค�
ำอธิบายเข้ากับความ
รู้ทางวิทยาศาสตร์ด้วยตัวเอง
นักเรียนสื่อสารและแสดงให้
เห็นถึงความสมเหตุสมผล
ของค�
ำอธิบาย
ครูก�
ำหนดวิธีการน�
ำเสนอ
และสื่อสารองค์ความรู้
ครูให้แนวทางในการน�
ำเสนอ
และ สื่อสาร ความรู้อย่างคร่าว ๆ
นักเรียนเป็นผู้ก�
ำหนดวิธีการน�
ำ
เสนอและสื่อสารองค์ความรู้
โดยมีครูเป็นผู้ช่วยน�
ำทาง
นักเรียนเป็ นผู้ ก�
ำหนดวิธี
การน�
ำเสนอและ สื่อสารองค์
ความรู้อย่างสมเหตุสมผล
แปลและเรียบเรียงจาก National Research Council Inquiry and the National Science Education Standards
Washington D.C.: National Academy Press, 2000
ค�
ำถามที่จะใช้ในการจัดการเรียนรู้สามารถแบ่งเป็น 4 ระดับ
เริ่มตั้งแต่
ระดับที่ 1. ครูเป็นผู้ก�
ำหนดค�
ำถามหรือ ใช้ค�
ำถามที่ปรากฏ
อยู่แล้วในหนังสือเรียน ในการสืบเสาะหาความรู้
ระดับที่ 2. ครูก�
ำหนดค�
ำถาม ที่จะใช้ในกระบวนการสืบเสาะ
ในห้องเรียนแล้วให้โอกาสกับนักเรียนในการจะปรับปรุง แก้ไข
ค�
ำถามที่ครูก�
ำหนด
ระดับที่ 3. ครูเป็นผู้ก�
ำหนดค�
ำถามหลาย ๆ ค�
ำถามที่จะใช้ใน
ห้องเรียน แล้วให้นักเรียนเป็นผู้ตัดสินใจเลือกค�
ำถามที่ต้องการศึกษา
ระดับที่ 4. นักเรียนตั้งค�
ำถามที่จะใช้ในห้องเรียน
ประเด็นส�
ำคัญที่ควรท�
ำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดนี้คือ
ถึงแม้ว่าห้องเรียนสืบเสาะแบบต่อเนื่อง จะแบ่งคุณลักษณะ
ที่จ�
ำเป็นของห้องเรียนแบบสืบเสาะในแต่ละข้อออกเป็น 4 ระดับ
คล้ายกับแนวคิดบันได 4 ขั้นที่ได้กล่าวมาแล้ว แต่จริง ๆ แล้ว
แนวคิดการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะแบบต่อเนื่องอาจจะมีอีก
หลายระดับที่เชื่อมอยู่ระหว่างกลางเปรียบได้กับเฉดสี เช่น อาจมี
ระดับ 3.5 แทรกกลางระหว่าง ขั้นที่ 3 และ 4 ซึ่งครูอาจ
จะเป็นผู้ก�
ำหนดค�
ำถามหลาย ๆ ค�
ำถามให้นักเรียนเลือก เมื่อเลือก
ค�
ำถามที่สนใจแล้วก็เปิดโอกาสให้ดัดแปลง ปรับปรุงค�
ำถามนั้น ๆ
หรือ อาจจะเป็นระดับที่ 3.8 ที่ถือว่าครูเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
การเรียนรู้ดังนั้นจึงเปิดโอกาสให้ทั้งครูและนักเรียนช่วยกัน
ตั้งค�
ำถามที่สนใจที่จะศึกษาแล้วเลือกค�
ำถามที่นักเรียนสนใจ
และมีความเป็นไปได้ที่จะท�
ำการศึกษาในห้องเรียน ดังนั้นค�
ำถาม
ที่ได้อาจจะมาจากนักเรียน หรือ ครูก็ได้เมื่อครูเข้าใจในแนวคิดนี้
แล้วการออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะจะได้ไม่ถูก
จ�
ำกัดอยู่แค่ 4 ระดับ แต่ครูสามารถออกแบบการจัดการเรียนรู้
ที่มีความหลากหลายมากขึ้นโดยค�
ำนึงถึงจุดเชื่อมโยงอีกหลาย ๆ
จุดที่อยู่ระหว่างบันไดทั้ง 4 ขั้นนั้นของทั้ง 5 คุณลักษณะที่จ�
ำเป็น
ของห้องเรียนแบบสืบเสาะ
ตารางแสดง ความหลากหลายของห้องเรียนตามแนวคิดการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะแบบต่อเนื่อง
6
นิตยสาร สสวท.