Previous Page  29 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 29 / 62 Next Page
Page Background

29

ปีที่ 43 ฉบับที่ 193 มีนาคม - เมษายน 2558 ี

ที่ ั

บี่ ี

ครูผู้ดูแลนักเรียน

1.นายคมศิลป์ โคตรมูล

ครูวิชาการ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จังหวัดนครปฐม 02-8497211

amolozo@mwit.ac.th

2.นางสาวลัดดา บูรพากูล

ครูช�

ำนาญการพิเศษ โรงเรียนสุรนารีวิทยา จังหวัดนครราชสีมา

044-255740

burapakul@hotmail.com

องค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป The European Organization for Nuclear Research, (CERN) เป็นสถาบันวิจัยฟิสิกส์อนุภาค

ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีฐานะเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่นักวิทยาศาสตร์ และวิศวกรชั้นน�

ำของโลกไปรวมตัวกันเพื่อค้นหาค�

ำตอบ

ของจักรวาล เซิร์ นได้ ออกแบบและสร้ าง เครื่อง เร่ งอนุภาคขนาดใหญ่ ที่สุดในโลกที่เรียกว่ า Lar ge Hadron

Collider (LHC) ภายในอุโมงค์ใต้ดินรูปวงแหวนขนาดเส้นรอบวง 27 กิโลเมตร ซึ่งมีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ใต้ดินของประเทศ

ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ LHC เป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่เร่ง อนุภาคโปรตอน (Proton) ให้มีพลังงานสูง และควบคุมให้อนุภาค

โปรตอนชนกันเพื่อจ�

ำลองเหตุการณ์หลังการเกิดบิ๊กแบง (Big Bang) ที่เชื่อว่าเป็นจุดก�

ำเนิดของจักรวาล เพื่อค้นหาอนุภาคที่เป็น

ที่มาของอนุภาคมูลฐานของสสาร ซึ่งจะน�

ำไปสู่ การไขความลับเกี่ยวกับการก�

ำเนิดจักรวาล เมื่อ พ.ศ. 2556

ที่ผ่ านมา เซิร์ นได้ ประกาศเกี่ยวกับการค้ นพบอนุภาคฮิกส์ (Higgs particle) หรือเรียกว่ าเป็ นอนุภาคพระเจ้ า

(God particle) เนื่องจากอนุภาคชนิดนี้เป็นอนุภาคที่อธิบายว่าท�

ำไมอนุภาคมูลฐานชนิดอื่น เช่น ควาร์ก อิเล็กตรอน ฯลฯ

ถึงมีมวลได้ งานวิจัยของเซิร์นยังประยุกต์ใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อย่างเช่น ด้านการแพทย์ เป็นต้นนอกจากนี้เซิร์น ยังถือว่าเป็น

สถาบันวิจัยที่ให้ก�

ำเนิด เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web (WWW)) ขึ้นในโลกอีกด้วย

ตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ ที่ผู้เข้าร่วมโครงการได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมที่เซิร์นนั้น ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์ใน

วงการวิทยาศาสตร์ของโลก ได้เห็นการท�

ำงานของนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรเก่ง ๆ ระดับรางวัลโนเบล พัฒนาความรู้

ทางฟิสิกส์อนุภาค สร้างแรงบันดาลที่จะเป็นนักฟิสิกส์ต่อไปในอนาคต และที่ส�

ำคัญได้ไปเห็นเครื่องเร่งอนุภาคที่มีขนาดใหญ่ที่สุด

ในโลกอีกด้วย

นอกจากกิจกรรม Singapore and Thailand Summer School ซึ่งเป็นกิจกรรมของนักเรียนระดับมัธยมปลายนี้แล้ว

สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ยังมีกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจ เทคโนโลยีแสงซินโครตรอน และต้องการ

เข้ามาสัมผัสและเรียนรู้กับเราอีกหลายกิจกรรม อาทิ โครงการนักศึกษา และครูฟิสิกส์ภาคฤดูร้อนเซิร์น ณ สมาพันธรัฐสวิส

โครงการนักศึกษาภาคฤดูร้อนเดซี ณ ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน โครงการครูฟิสิกส์ค่ายฤดูร้อน Science

Education Program ณ LLNL สหรัฐอเมริกา อีกทั้ง ค่าย ASEAN Synchrotron and Neutron Science Camp

ณ ประเทศอินโดนีเซีย เป็นต้น โดยสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

www.slri.or.th

0-44217-040 ต่อ 1604 -5 หรือ

ติดตามได้ทาง

www.facebook.com/SLRI.THAILAND