นิตยสาร สสวท. ฉบับที่ 181 มีนาคม

นิตยสาร สสวท.

เมื่อดูจากจำ

�นวนประชากรทั่วโลกที่ใช้อินเทอร์เน็ต พบว่า

ทวีปเอเชียมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากถึง 44.8% เมื่อเทียบกับจำ

�นวน

ประชากรทั้งหมดที่ใช้อินเทอร์เน็ต จะเห็นได้ว่ามีจำ

�นวนมากกว่า

ประชากรในยุโรปถึง 2 เท่า แต่อัตราของการเติบโตแบบก้าว

กระโดดของจำ

�นวนผู้ใช้อินทอร์เน็ตกลับพบอยู่ที่ทวีปแอฟริกา

(Africa) โดยจากข้อมูลเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2543 จนถึงเดือน

มิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 จะเห็นว่ามีจำ

�นวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

เพิ่มมากขึ้นถึง 3,606,7% (ดังตารางที่ 1) ตามมาด้วยโซน

ตะวันออกกลาง (Middle East) ที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 2,639.9%

การเติบโตของจำ

�นวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ต มีปัจจัยต่าง ๆ

เกี่ยวข้องมากมาย สะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมของการพัฒนารูป

แบบของการติดต่อสื่อสาร การค้นหา การเข้าถึงข้อมูลของคนใน

สังคม และเผยแพร่ข้อมูลต่าง ๆ ในทุก ๆ ด้าน แม้แต่ในด้านของ

การศึกษา ก็ยังมีข้อมูลต่าง ๆ ถูกเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตมาก

ขึ้น และถ้าพิจารณาข้อมูลทางด้านการศึกษาของประเทศไทยก็

จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีข้อมูลที่เป็นภาษาไทยในด้านการศึกษาเพิ่ม

มากขึ้นด้วยเช่นกัน

ตารางที่ 1

เปรียบเทียบจำ

�นวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในทวีปต่าง ๆ

ในปี พ.ศ. 2543 กับปี พ.ศ. 2555 เพื่อแสดงให้เห็นถึงอัตรา

การเติบโตของจำ

�นวนผู้ใช้ในช่วงเวลาดังกล่าว (Growth

2000-2012)

ความพยายามในการสร้างนวัตกรรมการเรียนการสอนแบบไร้สาย

จาก E-Learning สู่นิยามใหม่ของคำ

�ว่า M-Learning หรือ

Mobile learning ซึ่งมีความหมายที่เน้นไปที่การสื่อสารและการ

เรียนรู้ข้อมูลต่าง ๆ ผ่านอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย

อินเทอร์เน็ตและสามารถถือไปมาได้ไม่ว่าจะเป็น PDA

(Personal digital assistant), smart phone, Tablet PC, หรือ

Notebook computer ทำ

�ให้รูปแบบการเรียนรู้ของคนในสังคม

ทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไป โดยจะพบเห็นได้ชัดเจนในวิถีชีวิตของ

คนรุ่นใหม่ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองที่มีความพร้อมในการให้บริการ

ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง

ทั้งนี้จากการ เติบโตของ เทคโนโลยีและจำ

�นวนผู้ใช้

อินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วโดยเฉพาะ

smart phone ซึ่งในไตรมาสที่ 3 (สิ้นเดือนกันยายน) ของปี พ.ศ.

2555 พบว่าทั่วโลกมีคนใช้ smart phone มากถึง 1 พันล้าน

คน ทำ

�ให้หลายฝ่ายเริ่มให้ความสนใจที่จะนำ

� application หรือ

program ต่าง ๆ ที่ใช้กับมือถือ หรืออินเทอร์เน็ตมาประยุกต์ใช้

ในชีวิตประจำ

�วันมากขึ้น ดังตัวอย่างจากหัวข้องานวิจัยดังต่อไปนี้

1. Just-in-time technology to encourage incre-

mental, dietary behavior change.

2. Designing a mobile application for concep-

tual understanding: Integrating learning theory with

organic chemistry learning needs.

3. Can a tablet device alter undergraduate

science students’ study behavior and use of

technology?

4. Interactive multimedia for promoting physical

activity (IMPACT) in children.

5. Using mHealth technology

to enhance self-monitoring for

weight loss: A randomized trial.

m-learning เป็นแค่รูปแบบหนึ่งของ

การเรียนรู้ผ่านสื่อดิจิทัลที่เผยแพร่อยู่ใน

โลกอินเทอร์เน็ต (ภาพที่ 2) หรือเรียน

ผ่านระบบเครือข่ายภายในองค์กร ทำ

�ให้

ผู้เรียนสะดวกและสามารถเรียนรู้ได้ทุก

ที่ทุกเวลาหากสามารถเชื่อมต่อกับระบบ

อินเทอร์เน็ตแบบไร้สายและสามารถเข้าถึง

ข้อมูลได้ หรืออาจจะ download ข้อมูล

มาเก็บไว้ในเครื่องแล้วนำ

�มาศึกษาต่อภายหลัง ข้อจำ

�กัดของ

m-learning ที่ทำ

�ให้อิสรภาพในการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ก็คือ

ค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้

และระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่

ที่มา : Internet World Stars -

www.internetworldstars.com/stats.htm

Basic : 2,405,518,376 Internet users on June 30, 2012