

8
นิตยสาร สสวท.
เพื่อนคุณครูครับพวกเราคงเห็นด้วยกับกระผมว่าสื่อนวัตกรรม
ใด ๆ จะออกฤทธิ์ได้ สังคมต้องเป็นสังคมนวัตกรรมก่อน ดังนั้นเรา
มาร่วมกันลงฉันทามติได้ไหมครับว่า หากเราเป็นผู้บริหารก็จะมีความ
เมตตาที่จริงใจและบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่มีเฉพาะกลุ่มพรรคพวกตนเองแล้ว
ปลูกต้นแห่งอยุติธรรม ถ้าเราเป็นผู้ปฏิบัติการก็จงมีความกตัญญูที่
จริงใจและบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่เอาใจผู้บริหารจนลืมการพังสลายของ
องค์กรและประเทศชาติ และกระผมคิดว่าสองอย่างนี้จะเป็นโอสถ
ต้นน้ำ
�ที่จะรักษาโรคของสังคมไทยที่ป่วยด้วยโรค “คอร์รัปชัน” อย่าง
งอมแงมเช่นทุกวันนี้ เพื่อสร้างสังคมนวัตกรรมแล้วการเรียนการสอน
หรือความคิดแบบฟิสิกส์จะมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับการสร้างสังคม
นวัตกรรม?
หากเพื่อนคุณครูได้อ่านบทความในฉบับก่อนหน้านี้ กระผมได้
นำ
�เสนอความเป็นราชาแห่งวิทยาศาสตร์ของฟิสิกส์และเรียกร้อง
ชักชวนเพื่อนคุณครูให้ช่วยกันนำ
�ฟิสิกส์หวนคืนสู่บัลลังก์ แต่เพื่อน
คุณครูวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศรวมทั้งกระผมก็ยอมรับโดยข้อเท็จจริง
ที่ปรากฏว่าตามโครงสร้างของแนวความคิดหลักของวิทยาศาสตร์
สมัยใหม่ การเกิดความสนใจอย่างใหญ่หลวงและรวดเร็วใน “ปรัชญา
การทดลอง” ที่เกิดขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 17 นั้นมีประวัติมาจากการ
หันหลังไปสนใจผลงานของนักปฏิบัติที่มีความคิดปราดเปรื่องทั้ง
หลายในอดีตไม่ใช่นักพูด ตั้งแต่ด้านการแพทย์ การช่าง การเหมือง
แร่ ไปจนถึงการผลิตกระสุนปืน แต่ในขณะที่ปัญหาทางวิทยาศาสตร์
มักจะเกิดขึ้นจากความสนใจของช่างผู้ชำ
�นาญการเชิงปฏิบัติเหล่า
นั้น พัฒนาการทางวิทยาศาสตร์ก็ยังเกี่ยวข้องกับปัจจัยที่นอกเหนือ
ไปจากการทดลองเชิงช่างที่มีมาก่อนหน้านั้นหลายศตวรรษ วิธี
การให้เหตุผลเชิงตรรกะที่ใช้กันในวิชาคณิตศาสตร์ เช่น เรขาคณิต
หรือการทดสอบความถูกต้องของแนวความคิดหลักที่ตั้งไว้โดยใช้
ตรรกะซึ่งเรียกว่าการนิรนัยนั้น เมื่อนำ
�มาใช้ร่วมกับวิธีการทดลอง
ที่ได้มาจากการปฏิบัติเชิงช่างก็ทำ
�ให้วิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้า
ได้อย่างรวดเร็ว ปฏิสัมพันธ์ของกิจกรรมของมนุษย์ทั้งสองด้านดัง
กล่าวนั้น เป็นปัจจัยที่สำ
�คัญที่สุดของพัฒนาการทางด้านฟิสิกส์
ความสนใจเบี่ยงเบนจากการปฏิบัติทดลองเฉพาะหน้าเพื่อปรับปรุง
เครื่องจักรกลทั้งหลายไปสู่ความอยากรู้ว่าเครื่องจักรเหล่านั้นทำ
�งาน
ได้อย่างไร ความคิดหรือแนวความคิดหลักใหม่ ๆ เริ่มมีความสำ
�คัญ
ในการที่จะทำ
�ให้เกิดสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ความสอดประสานระหว่าง
การทดลองเชิงช่างกับการหาเหตุผลเกี่ยวกับการปฏิบัตินั้น ๆ ทำ
�ให้
เกิดเส้นใยของแนวความคิดหลัก โดยเส้นใยที่หลากหลายเหล่านั้น
ต่างก็สอดคล้อง สนับสนุน เชื่อมโยงซึ่งกันและกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
พร้อมไปกับที่ได้ข้อเท็จจริงจากการทดลองและการสังเกต ให้นำ
�มา
สอดประสานกันเพิ่มเติมมากขึ้น และนี่คือการก่อเกิดของนวัตกรรม
ของฟิสิกส์ตั้งแต่อดีตมา
ความเจริญรุ่งเรืองของฟิสิกส์ทั่วโลกในช่วง 400 ปีมานี้จะเห็น
ได้ว่าแลกมาด้วยความซื่อสัตย์ต่อข้อมูลที่ได้จากการสังเกตและการ
ทดลอง ไม่ยอมที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริงตามคำ
�สั่งของผู้มีอำ
�นาจไม่
ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม มิฉะนั้นความรู้ที่วิวัฒนาการมายุคต่อยุค
และก่อให้เกิดนวัตกรรมจะไม่พัฒนามาเป็นเช่นทุกวันนี้ ตัวอย่าง
ของบุคคลที่ต่อสู้กับระบบการบริหารหรือผู้มีอำ
�นาจที่ขัดกับความรู้
ฟิสิกส์ที่ประกาศออกมาเชิงประจักษ์ในอดีตประมาณ 400 ปีมาแล้ว
คือ กาลิเลโอ กาลิเลอี ในยามชราผมหนวดเคราหงอกขาวโพลน ต้อง
มาคุกเข่าขอโทษต่อหน้าธารกำ
�นัลว่าสิ่งที่ตนประกาศนั้นผิด เพื่อแลก
กับการมีอากาศหายใจต่อไป แต่ความรู้ทุกชิ้นทุกเรื่องที่ท่านค้นพบยัง
คงพัฒนาต่อยอดมาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว ไอน์สไตน์
ก็เป็นตัวอย่างของนักฟิสิกส์ที่มีปัญหากับระบบบริหารประเทศและ
อำ
�นาจปกครอง ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สำ
�นักข่าวกรอง
กลางสหรัฐอเมริกาติดตามความเคลื่อนไหวด้วยความหวาดระแวง
หลังจากที่ประเทศอเมริกาตัดสินใจทำ
�ผิดต่อมวลมนุษยชาติโดยการ
ใช้ระเบิดปรมาณู และนั่นก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำ
�ให้ไอน์สไตน์เกลียด
อำ
�นาจบริหารจนปฏิเสธการเป็นประธานาธิบดีคนแรกของอิสราเอล
และนี่ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของการใช้นวัตกรรมโดยสังคมที่ล้าหลัง
เพื่อนคุณครูครับ กระบวนการคิดแบบวิทยาศาสตร์ (scientific
mind) โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (scientific process) นั้น
กำ
�หนดอย่างชัดเจนให้ใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ (scientific method)
ทำ
�ให้เกิดสังคมวิทยาศาสตร์ (scientific society) ซึ่งเป็นสังคมที่
เจริญ และจากรายงานต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อส่อคุณภาพของประเทศ
จะเห็นความสอดคล้องกันระหว่างความเป็นสังคมวิทยาศาสตร์ มี
เหตุมีผลกับความเจริญทางอารยธรรมจะสอดรับประสานกัน กระผม
จึงวิงวอนขอเสนอแนวทางการใช้การเรียนการสอนฟิสิกส์เพื่อปลูก
ฝังความคิดและจิตสำ
�นึกที่ดีงาม ไม่ทุจริต ไม่คอร์รัปชัน รวมทั้งไม่
สนับสนุนให้เกิด และต้องซื่อสัตย์ต่อธรรมชาติ
เพื่อนคุณครูครับเมื่อปลายปี พ.ศ. 2555 องค์กรความโปร่งใส
ระหว่างประเทศ (ทีไอ) ได้จัดอันดับสถานการณ์การคอร์รัปชันของ
โลกประจำ
�ปี 2555 ในจำ
�นวน 176 ประเทศ ประเทศไทยได้อันดับ
ที่ 88 และได้ 37 คะแนนจาก 100 คะแนน อยู่ในระนาบเดียวกับ
ประเทศที่ล่มสลายอย่างกรีซ ประเทศที่ขึ้นชื่อทางยาเสพติดคือ
โคลัมเบีย ประเทศล้าหลัง คือเอลซัลวาดอร์และโมร็อกโก สอดรับ
กับผลสำ
�รวจของโพลหลายสำ
�นักที่พบว่า เยาวชนของชาติที่พวก
เราสอนกันอยู่นี้ พวกเขาและเธอเห็นการโกงเป็นเรื่องปกติถ้าตัวเอง
ได้รับประโยชน์ด้วย เพื่อนคุณครูครับ เรื่องนี้สำ
�คัญมาก เนื่องจาก
ผู้ใหญ่ทำ
�ตัวอย่างที่เลวให้เยาวชนเห็น และเยาวชนรับได้ด้วยความ
เคยชินนั้นแสดงว่าสังคมไทยจะเหลวไหลลงไปเรื่อยๆ ประเทศไทย
ใช้งบประมาณหลายพันล้านต่อปีในการพัฒนาการศึกษา พอเม็ดเงิน
ออกจากคลังแผ่นดิน ก็มีคณะบุคคลวางแผนคอร์รัปชันกันเป็นชั้น ๆ