Previous Page  7 / 61 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 7 / 61 Next Page
Page Background

7

ปีที่ 43 ฉบับที่ 196 กันยายน - ตุลาคม 2558

การเขียนทางเดินแสงเพื่อหาการเกิดภาพจาก

กระจกโค้งนูน ใช้หลักการเดียวกับการเขียนทางเดินแสง

เพื่อหาการเกิดภาพจากกระจกโค้งเว้า เพียงแต่ต้องท�

ำการ

ต่อรังสีจากผิวกระจก (แทนด้วยเส้นประ) ไปยังจุดโฟกัส (F)

และจุดศูนย์กลางความโค้ง (C) ที่อยู่หลังกระจก ดูรูปที่ 8

จากเรื่องราวที่เสนอไปนั้นจะเห็นได้ว่าภาพที่ปรากฏ

กับตาเราอาจถูกแปลงทั้งขนาดและรูปร่างโดยกระบวน

การสะท้อนของแสงกับอุปกรณ์ที่สะท้อนแสง จึงบอกไม่ได้ว่า

วัตถุจริงของภาพนั้นจะเป็นดังภาพหรือเปล่า

ท่านสังเกตเห็นความผิดปกติของภาพทิวทัศน์ข้างบนนี้หรือไม่

เฉลย : ภาพที่เห็นคือภาพของภูเขาและภาพสะท้อนบนผิวน�้

แต่กลับหัวโดยภาพสะท้อนอยู่ด้านบน เพื่อแสดงให้เห็นตัวอย่าง

การสะท้อนของแสงที่ผิวรอยต่อมีลักษณะเรียบ)

บรรณานุกรม

Reflection (physics). (2013, October 8). In Wikipedia, The Free Encyclopedia. Retrieved, October

31, 2013, from

http://en.wikipedia.org/w/index.php?title=Reflection_(

physics)&oldid=576334258

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกระทรวงศึกษาธิการ. (2557).

หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พื้นฐาน

และเพิ่มเติม ฟิสิกส์ เล่ม 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน

พุทธศักราช 2544.

กรุงเทพ: องค์การค้าของคุรุสภาลาดพร้าว.

ค�

ำถามชวนคิด

สรุปว่าอย่ารีบเชื่อในทุกสิ่งที่เห็น เพราะมันอาจจะไม่ได้เป็น

อย่างที่ท่านคิด แม้ว่าท่านจะเห็นกับตาก็ตาม เพราะในชีวิต

จริงหลายสิ่งที่ท่านเห็น........(มัก)ไม่ใช่สิ่งที่เป็น

( ที่มา

https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/e/ef/

Mount_Hood _reflected_in_Mirror_Lake,_Oregon.jpg )

รูปที่ 8 ภาพแสดงการเขียนทางเดินแสงเพื่อแสดงการเกิดภาพจากกระจกโค้งนูน

( ที่มา

http://pirun.ku.ac.th/~fscijsw

/Light&device/light/image/a25.gif )