

44
นิตยสาร สสวท
นักเรียนได้เรียนรู้เรื่องคานและการรับน�้
ำหนัก เรียนรู้วิธีต่อ
เส้นสปาเกตตี้ที่มีความเปราะให้กลายเป็นหอคอยที่สามารถ
รับน�้
ำหนักได้ เรียนรู้หลักการพื้นฐานของการสร้างหอคอยว่า
หอคอยที่แข็งแรงจะต้องมีฐานรากที่แข็งแรง เพราะถ้าค�
ำนึงถึง
ความสูงเพียงอย่างเดียวโดยไม่สร้างฐานให้แข็งแรง หอคอย
ก็จะไม่สามารถรับน�้
ำหนักได้ นอกจากนี้นักเรียนยังต้องแสดง
ความคิดสร้างสรรค์ผ่านการออกแบบหอคอยก่อนลงมือสร้าง
ชิ้นงาน โดยใช้ความรู้คณิตศาสตร์ รู้จักแก้ปัญหาเมื่อพบว่า
หอคอยที่สร้างขึ้นไม่แข็งแรง และได้แก้ไขให้แข็งแรงขึ้น รวม
ทั้งได้ฝึกการท�
ำงานกลุ่มร่วมกับเพื่อนๆ จากต่างโรงเรียนด้วย
อีกหนึ่งกิจกรรมที่นักเรียนได้ท�
ำ คือกิจกรรม
รถไฟเหาะ ซึ่งนักเรียนในแต่ละกลุ่มได้เรียนองค์ความรู้
วิทยาศาสตร์ของรถไฟเหาะจากการจ�
ำลองการเคลื่อนที่ของ
รถไฟเหาะโดยใช้ฉนวนหุ้มท่อแอร์ที่ถูกผ่าครึ่งตามแนวยาว
แล้วม้วนงอเพื่อท�
ำเป็นรางรถไฟเหาะที่มีลูกแก้วเป็นรถไฟ
นักเรียนได้สร้างรางรถไฟเหาะตามเงื่อนไขที่ก�
ำหนดโดย
วิทยากร เช่น รางต้องมีส่วนที่ม้วนเป็นวงเพื่อให้รถไฟสามารถ
ตีลังกาได้อย่างน้อย 2 วง และเมื่อปล่อยตัวรถไฟ รถไฟจะต้อง
เคลื่อนที่ไปตามรางจนหยุดที่จุดก�
ำหนดพอดี กิจกรรมนี้ได้
ด�
ำเนินไปด้วยความสนุกสนาน เมื่อนักเรียนแต่ละคนต่างลุ้น
ว่ารถไฟของกลุ่มตนจะสามารถพิชิตเงื่อนไขต่างๆ ได้หรือไม่
ในกิจกรรมนี้นักเรียนได้เรียนรู้ว่า ถ้าปล่อยรถไฟจากต�
ำแหน่ง
ที่อยู่สูง รถไฟจะไถลไปตามรางด้วยแรงโน้มถ่วง และเคลื่อนที่
ต่อไปด้วยการเปลี่ยนพลังงานศักย์ที่มีสะสมอยู่ในรถไฟ
ไปเป็นพลังงานจลน์ การปล่อยรถไฟจากต�
ำแหน่งที่สูงขึ้น
จะท�
ำให้รถไฟมีพลังงานศักย์มากขึ้น และจะเปลี่ยนไปเป็น
พลังงานจลน์ได้มากขึ้น นั่นคือความเร็วของรถไฟจะเพิ่มขึ้นด้วย
ดังนั้นเมื่อนักเรียนทดลองสร้างรางรถไฟให้เป็นเนิน 2 เนิน
ก็ควรสร้างเนินแรกให้มีความสูงมากกว่าเนินที่สอง เพื่อให้
รถไฟมีพลังงานศักย์สะสมมาก รถไฟจะได้มีความเร็วมากขึ้น
และมีพลังงานทั้งหมดมากพอที่จะเคลื่อนที่ไปตามรางที่ม้วนวน
เป็นวงโค้ง จนสามารถตีลังกาได้ และรถไฟก็จะหยุดเมื่อ
พลังงานสะสมในตัวหมด ในกิจกรรมนี้นักเรียนได้ทั้งความรู้
วิทยาศาสตร์และรู้จักการใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการ
สร้างรางรถไฟที่แตกต่างกัน และสามารถบังคับให้รถไฟไถล
ไปจนถึงจุดที่ก�
ำหนดได้ อีกทั้งได้เรียนรู้กระบวนการท�
ำงาน
เป็นกลุ่มและได้รับความสนุกสนานไปพร้อมกันด้วย
โดยสรุปกิจกรรม One Day Camp “จุดประกาย
ให้น้อง... สู่เส้นทางโอลิมปิกวิชาการ” กิจกรรมในโครงการ
จิตอาสานักเรียนโครงการโอลิมปิกวิชาการเป็นกิจกรรมที่ดี
เพราะได้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้พบปะกับพี่ๆ ในโครงการ
โอลิมปิกวิชาการ ได้ฟังประสบการณ์ตรง ได้รับแรงบันดาลใจ
ในการเรียนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ได้ฟังเคล็ดลับ
ในการเรียน และรู้จักการแบ่งเวลา แม้นักเรียนอาจจะไม่ได้
เป็นตัวแทนประเทศในโครงการนี้ แต่ก็ได้เห็นมุมมองในการ
เรียนของพี่ๆ ที่ชอบเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์
นอกจากนี้ นักเรียนยังได้ท�
ำกิจกรรมที่เสริมสร้างกระบวนการ
คิดทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ด้วย อีกทั้งได้รู้จักเพื่อน
ใหม่ในวัยเดียวกันที่มีความสนใจวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์
เหมือนกัน ซึ่งจะท�
ำให้มีการผูกสัมพันธ์ต่อกันในอนาคตด้วย