

43
ปีที่ 42 ฉบับที่ 187 มีนาคม - เมษายน 2557
ดร.อลงกต ใหม่ด้วง
นักวิชาการ สาขาคณิตศาสตร์มัธยมศึกษาตอนต้น สสวท. / e-mail :
amaid@ipst.ac.thไขรหัสความลับเวลาและพิชิตซีกโลกซ้ายขวา
ณ หอดูดาวกรีนิช ประเทศอังกฤษ
สถานที่ท่องเที่ยวส�
ำคัญที่คนรักวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งดาราศาสตร์ ไม่สามารถมองข้ามหาก
มีโอกาสได้ไปเยือน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็คือหอดู
ดาวหลวงที่ต�
ำบลกรีนิชซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แถมยัง
เป็นสถานที่ส�
ำคัญในทางภูมิศาสตร์และเวลาของโลกในปัจจุบัน
เนื่องจากเป็นต�
ำแหน่งที่ก�
ำหนดให้เป็นเส้นลองจิจูด 0 องศา หรือ
ที่เรียกว่าเส้นเมริเดียนปฐม ซึ่งเป็นเส้นอ้างอิงส�
ำคัญในการแบ่ง
โซนเวลารวมทั้งแบ่งซีกโลกออกเป็นฝั่งซ้ายและฝั่งขวานั่นเอง
หอดูดาวหลวงที่ต�
ำบลกรีนิชนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1675 โดย
กษัตริย์ Charles ที่ 2 ทรงแต่งตั้งให้ John Flamsteed เป็น
นักดาราศาสตร์หลวงท�
ำหน้าที่ศึกษาและพัฒนาแผนที่ดาวซึ่ง
มีประโยชน์ต่อการเดินเรือในสมัยนั้นโดยใช้หอดูดาวแห่งนี้เป็น
ทั้งที่พักและที่ท�
ำงาน John Flamsteed ด�
ำรงต�
ำแหน่งเป็น
นักดาราศาสตร์หลวงที่นี่จนเขาเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1719 จากนั้น
ก็มีผู้สืบทอดต�
ำแหน่งนักดาราศาสตร์หลวงต่อจากเขาอีกสิบราย
กระทั่งปี ค.ศ. 1948 จึงมีการย้ายสถานที่ปฏิบัติงานดาราศาสตร์
หลวงไปที่เมืองซัสเซกส์แทน หอดูดาวที่ต�
ำบลกรีนิชแห่งนี้จึง
ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ดาราศาสตร์เปิดบริการให้นักท่องเที่ยว
ได้ส�
ำรวจประวัติด้านการศึกษาดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และ
วิวัฒนาการของการพยายามสร้างเครื่องมือบอกเวลาที่เที่ยงตรง
พื้นที่จัดแสดงหลัก ๆ ของพิพิธภัณฑ์ดาราศาสตร์หรืออดีต
หอดูดาวหลวงแห่งนี้ก็อยู่ที่ตัวอาคารซึ่งเคยเป็นที่พักและที่
ท�
ำงานของเหล่านักดาราศาสตร์หลวงทั้งหลายเหล่านี้นั่นเอง
โดยปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ได้ตั้งชื่ออาคารแห่งนี้ว่า Flamsteed
House เพื่อเป็นเกียรติแก่นักดาราศาสตร์หลวงท่านแรก และ
ได้เปิดแสดงทั้งในส่วนของชั้นล่าง ชั้นบน รวมถึงชั้นใต้ดินด้วย
ส�
ำหรับห้องต่าง ๆ ใน Flamsteed House นี้ก็ประกอบไปด้วย
ห้องพักและห้องท�
ำงานของบรรดานักดาราศาสตร์ โดยยังมี
การเก็บรักษาเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ โต๊ะท�
ำงาน
โต๊ะเขียนแผนที่ เครื่องเขียนและเครื่องมือโบราณ เก้าอี้นั่งรวม
ถึงเตียงนอนเอาไว้ให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงบรรยากาศในยุคสมัยนั้น
ในส่วนของชั้นบนซึ่งเป็นห้องแปดเหลี่ยมท�
ำให้สามารถมอง
เห็นท้องฟ้าได้รอบทิศทาง ก็มีการจัดแสดงกล้องโทรทรรศน์ดู
ดาวแบบโบราณที่ประกอบด้วยไม้และมีขั้นคล้ายบันไดเพื่อปรับ
มุมเงยของตัวกล้องในองศาต่าง ๆ ได้ โดยในด้านหนึ่งของห้อง
ก็มีการจัดแสดงพระบรมฉายาทิศลักษณ์ขนาดใหญ่ของกษัตริย์
Charles ที่ 2 และกษัตริย์ James ที่ 2 องค์อุปถัมภ์พระองค์
ส�
ำคัญของหอดูดาวหลวงแห่งนี้ด้วย
ส�
ำหรับชั้นใต้ดินของ Flamsteed
House ก็เป็นการแสดงนิทรรศการ
ประวัติศาสตร์ของประดิษฐกรรมนาฬิกา
และระบบการแบ่งเขตเวลาของมนุษย์
โดยมีการเท้าความกันตั้งแต่ความจ�
ำเป็น
ของการพัฒนาเครื่องมือบอกต�
ำแหน่ง
ภูมิศาสตร์และเวลาที่แม่นย�
ำซึ่งเป็น
อุปกรณ์ส�
ำคัญในการเดินเรือข้ามมหาสมุทรในสมัยนั้น ความ
ท้าทายส�
ำคัญคือการประดิษฐ์นาฬิกาที่สามารถน�
ำไปใช้บนเรือ
และสามารถบอกเวลาได้อย่างเที่ยงตรงโดยไม่อาศัยการแกว่ง
ของลูกตุ้มเพราะพื้นเรือจะโคลงเคลงไปตามกระแสคลื่นตลอด
เวลาไม่สามารถรักษาความเสถียรได้ ปัญหาอันนี้นับเป็นปัญหา
ส�
ำคัญที่มีผลกระทบต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมของ
ประเทศอังกฤษในยุคสมัยนั้นมาก ถึงขนาดที่เมื่อปี ค.ศ. 1714
รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศให้เงินรางวัลเป็นจ�
ำนวนถึง 20,000
ปอนด์หรือเทียบเท่ากับ 137 ล้านบาทในปัจจุบันแก่ผู้ใดก็ตามที่
สามารถประดิษฐ์คิดค้นนาฬิกาบอกเวลาซึ่งสามารถใช้ในการเดิน
เรือได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถพิชิตความ
ท้าทายนี้ได้จนกระทั่งปี ค.ศ. 1736 John Harrison ช่างไม้และ