Previous Page  51 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 51 / 62 Next Page
Page Background

51

ปีที่ 42 ฉบับที่ 189 กรกฎาคม - สิงหาคม 2557

มวลจากภายนอกโดยการดึงดูดมวลของดาวฤกษ์ขนาดเล็กกว่า

ที่อยู่ใกล้ ๆ จนกระทั่งมันมีมวลเท่ากับขีดจำ

�กัดจันทรเสขร

แล้วดาวก็จะระเบิดเป็นซุปเปอร์โนวาชนิด 1a

ทฤษฎีของจันทรานี้จึงเป็นทฤษฎีที่สำ

�คัญทฤษฎีหนึ่งของ

วิชาดาราศาสตร์ฟิสิกส์ยุคปัจจุบัน ที่ใช้อธิบายที่มาของดาวแคระขาว

ดาวนิวตรอน และซูเปอร์โนวา

ก่อนที่จันทราจะเข้ารับตำ

�แหน่งที่มหาวิทยาลัย Chicago

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1937 เขาได้เดินทางกลับอินเดียเพื่อแต่งงาน

กับ Lalitha เพื่อนนิสิตที่เคยเรียนด้วยกันที่ Madras แล้วกลับมา

ทำ

�งานที่อเมริกา จันทราทำ

�งานหนักมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านการสอน

และการวิจัย จนในที่สุดก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์

ฟิสิกส์ในปีค.ศ.1947ในวัย37ปีตลอดชีวิตอาจารย์ จันทราได้เป็น

อาจารย์ที่ปรึกษานิสิตปริญญาเอกกว่า 50 คน และมีลูกศิษย์

สองคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้อาจารย์ ชื่อ Tsung Dao Lee

และ Chen Ning Yang ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์

ประจำ

�ปี 1957 (ด้วยผลงานทฤษฎี Parity Violation ในอันตรกิริยา

อย่างอ่อน) ซึ่งเป็นเวลา 26 ปีก่อนจันทราได้รับรางวัลโนเบล

สาขาฟิสิกส์ประจำ

�ปี 1983 ร่วมกับ William Fowler ด้วยผลงาน

ด้านทฤษฎีของดาวแคระขาว

สำ

�หรับบทบาทด้านการเขียนหนังสือก็มีมากมายเพราะ จันทรา

ทำ

�งานวิจัยฟิสิกส์หลายด้าน และได้ตั้งปณิธานส่วนตัวว่าต้องเขียน

หนังสือฟิสิกส์ของเรื่องที่ทำ

� เขาจึงเขียนหนังสือหลายเล่มเช่น ในปี

ค.ศ. 1942 เขียน Principles of Stellar Dynamics ปี ค.ศ. 1950

เขียน Radiation Transfer ปี ค.ศ. 1969 เรียบเรียง Ellipsoidal

Figures of Equilibrium ปี ค.ศ. 1983 เขียนตำ

�รา Mathematical

TheoryofBlackHolesและในปีค.ศ.1987ได้เรียบเรียงหนังสือ

Principia ของ Newton สำ

�หรับให้คนทั่วไปอ่าน (คนทั่วไปในที่นี้

หมายถึง นักฟิสิกส์ที่เก่งมากจึงจะอ่านรู้เรื่อง)

รูปที่ 2 Subrahmanyan Chandrasekhar ได้รับรางวัล

the National Medal of Science จาก ประธานาธิบดี

Lyndon Johnson ในปี ค.ศ. 1967

(ที่มา:

http://summer-astronomy-pc.wikispaces.com/

Subrahmanyan+Chandrasekhar)