

20
นิตยสาร สสวท.
การตรวจวัดความชื้นของดินสามารถท�
ำได้อย่างง่าย
ตามหลักการตรวจวัดของโครงการ GLOBE วิธี Gravimetric
1. ก�
ำหนดจุดตาม SMAP block pattern โดยเก็บตัวอย่างดิน
ที่ความลึก 5 เซนติเมตร แต่ละจุด อย่างน้อย 3 ตัวอย่าง เพื่อท�
ำการ
ตรวจวัด 3 ซ�้
ำ ให้กดกระป๋องลงไปในดินและตอกไม้ลงไปให้แน่น
กระป๋องใส่ตัวอย่างดิน
2. ใช้เสียมขุดกระป๋อง โดยไม่ให้ตัวอย่างดินหกออกนอกกระป๋อง
เขียนฉลากแสดงรายละเอียดของตัวอย่างดิน เช่น ชื่อจุดศึกษาของ
ดิน ชื่อผู้เก็บตัวอย่างดิน วันที่เก็บตัวอย่างดิน
3. ชั่งน�้
ำหนักดินแต่ละตัวอย่างก่อนอบ
โดยไม่ปิดฝา
4. น�
ำตัวอย่างดินไปอบที่
อุณหภูมิ 95 - 105 องศา
เซลเซียส เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
5. ชั่งน�้
ำหนักของแต่ละตัวอย่างดินหลังอบ แล้วค�
ำนวณหาค่าความชื้น
ตามสูตร ดังนี้
ความชื้นในดิน (กรัม/กรัม) =
มวลของดินเปียก - มวลของดินแห้ง
มวลของดินแห้ง
6. หาปริมาตรของภาชนะที่
แห้งและสะอาดโดยใช้ cylinder
ขนาด 500 มิลลิเมตร ใส่น�้
ำลงใน
กระป๋องวัดปริมาตรเรีมต้น (V
i
) และ
ปริมาตรสุดท้าย (V
f
)
รูปที่ 8 แสดงแผนที่ความชื้นของดินของพื้นที่ทั่วโลก จากดาวเทียม SMOS
ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2556 ถึง 30 ธันวาคม 2556
(ที่มา
http://www.cesbio.ups-tlse.fr/SMOS_blog/?page_id=1810)SMAP เป็นดาวเทียมดวงใหม่ที่สหรัฐอเมริกาจะส่งขึ้นไปยังอวกาศในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เครื่องมือ SMAP รวมถึง
Radiometer และเรดาร์ที่ท�
ำงานที่ช่อง L-band ความถึ่ 1.2-1.41 GHz เครื่องมือถูกออกแบบวัดค่าปลดปล่อยและสะท้อนกลับ
(surface emission and backscatter) ซึ่งจะสามารถตรวจจับสภาพของดินได้แก่ ความชื้นของดิน และระยะการแข็งและการ
ละลายของน�้
ำแข็งบนพื้นดินได้ในพื้นที่ที่มีสิ่งปกคลุมดินไม่หนาแน่นมาก ระยะทางการวัดเป็น 1,000 กิโลเมตร ซึ่งครอบคลุม 3 วัน
ที่ต�
ำแหน่งศูนย์สูตร และ 2 วัน ที่ต�
ำแหน่ง ละติจูดเหนือบริเวณภูมิอากาศแบบป่าสน (Boreal Forest)
รูปที่ 9 แสดงแผนที่ SMOS soil moisture index จากพื้นที่บริเวณรากวันที่ 4
ธันวาคม 2556 พื้นที่สีส้ม และเหลืองแสดงความแห้งแล้งของดิน ความชื้นของ
ดินต�่
ำ สีน�้
ำเงินและสีเขียวแสดงความชื้นของดินสูง
6
6