Previous Page  42 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 42 / 62 Next Page
Page Background

นิตยสาร สสวท.

42ิ

ข้อเสนอ “สอนก่อน แล้วค่อยท�

ำข้อสอบ”

ถึงแม้จะได้รับแรงกดดัน ในการสอนเพื่อให้นักเรียนท�

คะแนนสอบในแบบทดสอบมาตรฐานได้ดี แต่ครูไม่จ�

ำเป็นต้อง

แลกการเรียนรู้ในชั้นเรียนที่สนุก น่าสนใจ และสร้างเสริมทักษะ

และ คุณลักษณะอื่น ๆ ที่ส�

ำคัญให้กับนักเรียน ด้วยการ “สอน

เพื่อท�

ำข้อสอบ” ครูสามารถใช้แนวปฏิบัติด้านการเรียนการสอน

ที่ดี มีผลวิจัยรองรับ ในการสอนก่อน แล้วค่อยท�

ำข้อสอบ (ค�

ำว่า

“สอน” ที่มีการขีดเส้นใต้ไว้ เพื่อเป็นการเน้นให้ผู้อ่านทราบว่า

เป็นค�

ำที่มีความหมายเฉพาะ ซึ่งจะอธิบายในเนื้อความต่อไป)

ให้พิจารณาสถานการณ์ในชั้นเรียน 2 สถานการณ์ต่อไปนี้

ในชั้นเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ม.2

ครูถามนักเรียนว่า ใน

วันที่มีอากาศร้อนอบอ้าว นักเรียนมีวิธีการอย่างไรในการท�

ำให้

ที่พักอาศัยอยู่ได้อย่างเย็นสบายโดยไม่สิ้นเปลืองพลังงาน หลังจาก

การอภิปรายระหว่ างครูกับนักเรียน ครูน�

ำเข้ าสู่กิจกรรม

การเรียนรู้เรื่องหลักการถ่ายโอนความร้อน ให้นักเรียนได้ศึกษา

หลักการด้วยการสืบเสาะหาความรู้ กล่าวคือ ได้ตั้งสมมติฐาน

ทดลอง และ สรุปผลจากข้อมูลที่ได้จากการทดลอง เพื่อสร้าง

ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการการถ่ายโอนความร้อนด้วย

ตนเอง จากนั้น ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มได้ออกแบบบ้านจ�

ำลอง

ประหยัดพลังงานที่ท�

ำให้อากาศภายในเย็นที่สุด ด้วยวัสดุที่ครู

เตรียมไว้ ภายหลังการออกแบบ ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมา

น�

ำเสนอวิธีการออกแบบบ้านของตนเอง รับฟังและโต้ตอบค�

วิจารณ์จากเพื่อนร่ วมชั้น ก่ อนจะให้นักเรียนได้ทดสอบ

ประสิทธิผลของชิ้นงานของกลุ่ม สุดท้าย ครูน�

ำอภิปรายเพื่อสรุป

สิ่งที่ได้เรียนรู้ ก่อนจะให้นักเรียนท�

ำข้อสอบเกี่ยวกับหลักการของ

การถ่ายโอนความร้อน เพื่อประเมินความเข้าใจหลังเรียน โดยมี

การวิเคราะห์ อภิปรายข้อสอบแต่ละข้อร่วมกัน หลังจากนักเรียน

ท�

ำข้อสอบเสร็จ

ในการท�

ำกิจกรรมการเรียนรู้สะเต็มศึกษา ชั้น ม.5

ครูให้

นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับประเภท ลักษณะ และ สมบัติของ

แบตเตอรี่ที่ใช้ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนเอง และเปรียบเทียบ

ข้อมูลกับสมาชิกในกลุ่ม จากนั้น ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมา

น�

ำเสนอสิ่งที่ได้ สืบค้ นมา โดยครูเป็ นผู้ ประเมินความรู้

ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับ ปฏิกิริยาเคมี พลังงาน และ วงจร

ไฟฟ้า จากนั้น ครูอาจให้ความรู้เพิ่มเติม หรือ ให้นักเรียนท�

กิจกรรมเกี่ยวกับหลักการพื้นฐานของแบตเตอรี่ ก่อนจะมี

การประเมินอีกครั้งด้วยแบบทดสอบย่อยในหัวข้อปฏิกิริยาเคมี

จากนั้น ครูกระตุ้นให้นักเรียนอภิปรายด้วยค�

ำถามว่า “ในอนาคต

การใช้พลังงานแบตเตอรี่ในอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ จะมีแนวโน้ม

เป็นอย่างไร และจะมีผลกระทบกับแหล่งพลังงานและสิ่งแวดล้อม

อย่างไร” ก่อนจะให้นักเรียนบันทึกผลการอภิปราย และคิดวิธี

แก้ปัญหาด้วยการท�

ำโครงงานเพื่อออกแบบและสร้างอุปกรณ์

ส�

ำหรับชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยพลังงานที่เป็นมิตร

กับสิ่งแวดล้อม โดยระหว่างการท�

ำโครงงาน ครูประเมินความ

เข้าใจในเรื่อง พลังงานทดแทน กระแสไฟฟ้า วงจรไฟฟ้า และ

ผลกระทบของมนุษย์ต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้

จากสมุดบันทึกการท�

ำโครงงาน การอภิปรายและตอบค�

ำถามใน

ชั้นเรียน การตอบค�

ำถามในใบกิจกรรม และ การน�

ำเสนอใน

ช่วงท้ายของการท�

ำโครงงาน

แนวทางการสอนดังตัวอย่างที่ได้น�

ำเสนอไปนั้น ครูเป็น

ผู้ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ให้มีสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับ

สถานการณ์ในชีวิตจริง เปิดโอกาสในการมีส่วนร่วมของนักเรียน

ทุกคนในการอภิปราย คิดตอบค�

ำถามที่ใช้ความคิดขั้นสูง

(higher-order thinking) ได้ค้นพบความรู้ด้วยตนเอง ได้ฝึกฝน

การน�

ำความรู้มาใช้ออกแบบเพื่อแก้ปัญหา และเรียนรู้ร่วมกัน

อย่างมีชีวิตชีวา อีกทั้ง ครูสามารถสอดแทรกการสร้างเสริมทักษะ

บุคลิกภาพ คุณธรรม จริยธรรม หรือ สิ่งส�

ำคัญอื่น ๆ เข้าใน

กิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างกลมกลืน ท�

ำให้เกิดการเรียนรู้

คุณลักษณะเหล่านั้นภายใต้บริบทของการน�

ำไปใช้จริง พร้อมทั้ง

สามารถสร้างความเข้าใจและความตระหนักให้กับนักเรียนได้

ทราบว่า ทักษะหรือคุณลักษณะอื่น ๆ นั้น มีความส�

ำคัญและมี

ประโยชน์กับการท�

ำงานและการด�

ำรงชีวิตในวันข้างหน้า ไม่น้อย

กว่าการได้คะแนนสอบสูง

ตัวอย่างสถานการณ์ในการเรียนการสอนที่ได้น�

ำเสนอไปนั้น

แตกต่างไปจากการที่ครูให้นักเรียนคิดตอบค�

ำถามที่อยู่ในแบบ

ทดสอบว่า “การผิงไฟเป็นการได้รับความร้อนจากการถ่ายโอน

ความร้อนแบบใด” หรือ “ปฏิกิริยาเคมีที่ให้พลังงานของ

แบตเตอรี่ มีสมการทางเคมีว่าอย่างไร”